ล่มปากอ่าว (ทุกที)

ทุกคนเฝ้าจับตาการเปิดประเทศในเดือนหน้าจะทำให้เม็ดเงินสะพัดขนาดไหน? ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อย ๆ นะจะบอกให้


*ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยกำลังจะเข้าสู่จังหวะ “เข้าด้ายเข้าเข็ม” ทีไร! สุดท้ายมักเจอกับอาการ “ล่มปากอ่าว” ทุกที จนกลายเป็นเรื่องที่คุ้นตานักเล่นนั้น “โมนิก้า” มองเป็นสีสันของการลงทุนในช่วงรอข่าวดีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมความมั่นใจอย่างเป็นทางการ รวมทั้งทุกคนเฝ้าจับตาการเปิดประเทศในเดือนหน้าจะทำให้เม็ดเงินสะพัดขนาดไหน? ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปเรื่อย ๆ นะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,633.44    จุด ลบไป 5.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.29 หมื่นล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด เพราะมองจากเป้าใหญ่ 1,750 จุดที่สมาคมโบรกเกอร์ให้ไว้ในปีหน้า ก็ทำให้เห็นว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีแก๊ปให้วิ่งไม่ต่ำกว่า 100 จุด พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเล่นเข้ามาเล่นเก็งกำไรกันอีกหลายรอบเลยนะนายจ๋า!

*นั่นหมายความว่า เที่ยวนี้จะเป็นการเล่นสั้นกันสะแด่วแห้ว จึงไม่ต้องถามหาเหตุผลที่ทำให้หุ้นหลายตัวทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง เพราะสตอรี่หลัก ๆ ที่แมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดมีแค่เทิร์นอะราวด์ กับสตอรี่กำไรโต “โมนิก้า” จึงขอเปลี่ยนอิริยาบทไปตามกระแสกันสักหน่อย ผนวกกับสัปดาห์นี้จะมีวันหยุดคั่นกลางสัปดาห์พอดี เดี๊ยนเลยเชื่อว่า การไม่นอนกอดหุ้นข้ามวัน น่าจะเป็นทางเลือกที่สุดในเที่ยวนี้พะยะค่ะ

*แรงจัดแบบไม่น่าเชื่อ “โมนิก้า” คงมองที่หุ้น MONO ก่อนใครเพื่อน เพราะการขึ้นมาปิดที่ 1.90 บาท บวกไป 0.31 บาท หรือขึ้นไป 19.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท มันคือเกมหุ้นที่เต็มไปด้วยการเล่นเก็งกำไรเพียว ๆ โดยเฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า หุ้นย่ำต๊อกต๋อยแถว 1.60 บาท เป็นเวลานาน จู่ ๆ หุ้นก็พุ่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 2.48 บาทแบบนี้..บอกได้คำเดียวว่า ไม่ธรรมดาจ้า!

*อีกรายที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน และไม่เข้าใจเหตุผลที่ต้องมาดันช่วงนี้ “โมนิก้า” คงให้ความสำคัญกับหุ้น NWR มากเป็นพิเศษเช่นกัน เพราะการขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.12 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 5.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 574 ล้านบาท คือการขึ้นแรงวันที่สองแบบไม่รู้เนื้อเนื้อรู้ตัวเช่นกัน ผนวกกับที่ผ่านมาก็เล่นประเด็นแค่พลิกกำไรตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้เหมือนที่ลือกันสักที จึงกลายเป็นเกมเสี่ยงที่ต้องไปวัดดวงกันเอาเองเจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของ PAF ซึ่งเคยเป็นดาวรุ่งของกลุ่มสหพัฒน์ฯ แถมคนรุ่นก่อนรู้จักเป็นอย่างดีว่า นี่คือผู้ผลิตรองเท้ากีฬาแบรนด์ดังไนกี้ แต่ในปัจจุบันได้ผันตัวเองไปเป็นโฮลดิ้งเป็นที่เรียบร้อย และกำลังปั้นตัวเลขสวย ๆ ออกโชว์อีกรอบ “โมนิก้า” จึงต้องถามแฟนคลับว่า การบวกแรงต่อเนื่อง 4 วันติด จนวานนี้พุ่งขึ้นไปถึง 2.94 บาท ก่อนจะโรยตัวลงมาเรื่อย ๆ จนมาปิดที่ระดับ 2.52 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 865 ล้านบาท เว่อรไหมคะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องจกตาไปที่หุ้น SOLAR เพื่อชี้ให้แฟนคลับได้เห็นการวิ่งขึ้นมาชนซิลลิ่งที่ราคา2.70 บาท บวกไป 0.62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 381 ล้านบาท ท่ามกลางผลงานขาดทุนเรื้อรังเป็นเวลาหลายปี หรือให้พูดเป็นภาษาบอลแบบง่าย ๆ ก็คือ พวกท้ายตาราง! มันคือเกมที่นักเล่นต้องไปวัดความไวกันเอาเอง เพราะเดี๊ยนไม่สามารถการันตีผลงานของหุ้นจะออกมาเหมือนที่แมงลือเม้าท์กันน่ะซี

*เมื่อบรรดาผีลืมหลุมออกมาวาดลวดลายกันเป็นแถว “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่มีชื่อของหุ้น KKC โผล่ขึ้นมาติดท็อปชาร์ตหุ้นร้อนกับเขาด้วยคน เพราะเมื่อดูแบ็คกราวด์ของหุ้นเป็นทุนเดิม ก็รู้ได้ทันทีว่า เจ็บจริง..เจ๊งจริง จึงขอเตือนแฟนคลับที่ชอบเล่นกับของร้อน ต้องเผื่อใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดไว้บ้าง! เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.68 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 13.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 194 ล้านบาท มันไม่มีอะไรมาเป็นแบ็คอัพน่ะซี

*ส่วนรายที่โหดตัวพ่อของจริง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นยูเบี้ยว UBIS แบบไม่ลังเลใจ เพราะการทิ้งหุ้นพรวดเดียวติดฟลอร์ตั้งแต่หัววัน จนสุดท้ายปิดไปที่ระดับ 13.60 บาท ลบไป 5.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 40 เท่า เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า มันจบแล้วครับนาย! แถมเมื่อเหลือบดูแท่งเทียนสีแดงยาวเหยียดตั้งแต่หัวจรดตีน มันตีความได้อย่างเดียวว่า เจ้าเปิดตูดไปแล้ว!..อิอิอิ

Back to top button