ทุบแล้วดัน
นักลงทุนกำหนดจังหวะเข้าลงทุน หรือจังหวะถอยได้ด้วยตัวเอง..เดี๊ยนถึงกล้าบอกกับนักลงทุนทั่วไปว่า “เล่นกันต่อเถอะ” เจ้าค่ะ
*หากตัวนักลงทุนเป็นคนชอบคิดเลขไปข้างหน้า และคิดเลขถอยหลังไปพร้อมกัน “โมนิก้า” ก็เชื่อว่า นักลงทุนรายย่อยกลุ่มนั้นคงรับทรัพย์กันกระเป๋าตุง เพราะตรรกที่ทำให้นักลงทุนคิดแบบไปกลับ คือเครื่องยืนยันว่า นักลงทุนกำลังพิจารณาผลได้ผลเสียมาเป็นอย่างดี จึงกำหนดจังหวะเข้าลงทุน หรือจังหวะถอยได้ด้วยตัวเอง..เดี๊ยนถึงกล้าบอกกับนักลงทุนทั่วไปว่า “เล่นกันต่อเถอะ” เจ้าค่ะ
*ด้วยแนวคิดดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่สนใจเสียงนก เสียงกา เสียงหมา เสียงแมว ที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วในเรื่องที่ไม่มีข้อมูลแบ็คอัพ เพราะสุดท้ายก็เป็นเพียงแค่การพูดเพื่อสร้างกระแสความหวาดกลัว แถมวานนี้เห็นดัชนีอ่อนตัวมาปิดที่ 1,630.39 จุด ลบไป 13.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.65 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการเพิ่มความน่ากลัวของเรื่องที่เกิดขึ้น..ยกเว้นเมื่อทำการเจาะลึกข้อมูลลงไปอย่างเป็นระบบจะรู้ว่า “ยังมีแก๊ปให้ลงทุน” เจ้าค่ะ
*ถึงกระนั้นก็มีประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากฝากเตือนนักลงทุน 2 เรื่องก็คือ 1.ก่อนหน้านี้ดัชนีเคยวิ่งขึ้นมาเจอด่านหิน 1,650 จุดแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ถอยลงมาตั้งฐานที่บริเวณ 1,600 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปทดสอบอีกครั้งเมื่อวันก่อน จึงเชื่อว่า น่าจะมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก 2.ต้องหมั่นดูข้อมูลค่า P/E และ P/BV ไม่ควรโอเว่อร์รีแอค และหากเป็นไปได้อยากให้ดู Yield ประกอบการลงทุนบ่อย ๆ และอย่าลืมดู ผลงานของ บจ. เป็นไปตามเป้าไหม?
*ส่วนบลูชิพที่เข้าลักษณะ sell on fact เต็มรูปแบบ คงหนีไม่พ้นหุ้นกลุ่มแบงก์ชั้นนำอย่าง KBANK ซึ่งวิ่งรับข่าวผลประกอบการล่วงหน้าค่อนข้างเยอะ จึงเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมาให้เห็นมากขึ้น ขณะเดียวกันอย่าลืมว่า ไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่แบงก์เฉิดฉายอีกครั้ง “โมนิก้า” จึงมองการยืนปิดที่ระดับ 141 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 2.76% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.25 พันล้านบาท น่าช้อนนะคะ
*สำหรับหุ้นที่เหมาะต่อการโหนกระแส และอยู่ในข่ายเด้งขึ้นต่อในที่นี้ก็คือ EA เพราะผ่านช่วงทดสอบแรงเทขายหนัก ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันก็เป็นจังหวะที่หุ้นมีข่าวดีรองรับการทะยานขึ้นรอบใหม่ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองการยืนปิดที่ระดับ 64.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.57% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 999 ล้านบาท ท่ามกลางสตอรี่โรงแบตฯ เสร็จแล้ว และรถเมล์ไฟฟ้าเตรียมประมูลแบบนี้..น่าสนใจอ๊ะป่าว?
*เมื่อนักเล่นเทรดหุ้นรายตัวแบบระริกระรี้ “โมนิก้า” ก็มีความจำเป็นต้องพูดถึงหุ้น UMI กันสักหน่อย เพราะเป็นหุ้นที่เล่นแบบดุดันวันเดียว ต่อจากนั้นพักตัวนานหลายวัน ก่อนทะยานขึ้นแรงแบบไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง เดี๊ยนถึงเชื่อว่า นี่เป็นจังหวะของการวัดดวงอย่างแท้ทรู! เพราะการเป็นเก็งงบที่จะประกาศล้วน ๆ จึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.02 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 12.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 637 ล้านบาท ต้องมีซัมติ้งแน่ ๆ เจ้าค่ะ
*อะ..อะ..อะ อย่ามองข้ามหุ้นรับเหมาดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง RT เป็นอันขาด! เพราะสตอรี่ที่ทุกคนรับรู้เป็นอย่างดีคือ มีงานอยู่ในมือหลายพันล้าน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนลองพิจารณาหุ้นตัวนี้เป็นพิเศษ หลังราคาหุ้นวนเวียนอยู่ที่ระดับ 2.00-2.40 บาทเป็นเวลานาน ผสานกับหุ้นเริ่มมีการขยับตัวให้เห็นประปราย จึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.28 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 107 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 14 เท่าแบบนี้..มันคือจุดที่เหมาะต่อการทยอยสะสมหุ้นนะนายจ๋า!
*หลังจากพูดถึงหุ้นใหญ่พอหอมปากหอมคอแล้ว “โมนิก้า” ขอพูดถึง IMH เพื่อเสนอเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนขาลุยทั่วราชอาณาจักร หลังเห็นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นวันที่สอง แถมมีวอลุ่มซับพอร์ตเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบ high เดิมที่ระดับ 16 บาท ขณะที่ราคาปิดวานนี้อยู่ที่ระดับ 12.40 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาท มองจากมุมไหนก็ยังมีแก๊ปให้เล่นเจ้าค่ะ