กลับมาเล่นหุ้นกลาง-เล็ก
นักลงทุนต่างประเทศหลังจากก่อนหน้านี้ต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อหุ้นและมียอดซื้อสุทธิในช่วง 2 เดือนครึ่งกว่า ๆ มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท
สัปดาห์นี้ น่าจะเห็นการขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ
หลังจากก่อนหน้านี้
ต่างชาติหรือฟันด์โฟลว์เข้ามาไล่ซื้อหุ้นตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2564 และมียอดซื้อสุทธิในช่วง 2 เดือนครึ่งกว่า ๆ มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท
สถานการณ์ตลาดแบบนี้ดูไม่ค่อยดี
ยิ่งนักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะ “กองทุน” ยังขายหุ้นออกจากพอร์ตแบบสนุกสนาน
และหุ้นที่ขายออกมาส่วนใหญ่ หรือเกือบจะทั้งหมดอยู่ใน SET50 และ SET100
น่าจะมีส่วนสำคัญกดดัชนี SET ลงต่อเนื่องได้อีก
แนวรับ 1,630 จุด ที่ว่าแข็งแกร่ง
ในช่วง 1-2 วันนี้อาจจะเอาไม่อยู่
มีโอกาสจะร่วงหลุดมาบริเวณ 1,620 จุด บวก/ลบ หรือต่ำกว่านั้น
ส่วนจะต่ำกว่า 1,600 จุด หรือเปล่านั้น ยังยากที่จะคาด เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในช่วงทั้งฝรั่งและกองทุนขายทำกำไร
มีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ราคาหุ้นในกลุ่ม SET50 ที่ต่างชาติเข้ามาเก็บก่อนหน้านี้
ผ่านมาถึงวันนี้ หลายหุ้นราคาขยับใกล้เต็มมูลค่า
หรืออาจจะเข้าเขตซื้อมากเกินไป ทั้งในกลุ่มธนาคาร เช่น KBANK กลุ่มเปิดมือง AOT CPALL และรวมถึงหุ้นโรงแรม CENTEL ERW MINT
หากเก็งราคาหุ้นเหล่านี้ลงมา
อย่าเพิ่งใจร้อนรีบเก็บ
เพราะเชื่อว่ายังมีแรงขายมาเรื่อย ๆ
อีกประเด็นที่น่าสนใจ
นั่นคือ มูลค่าการซื้อขายต่อวันหายไปค่อนข้างมาก
เริ่มจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีการซื้อขายต่อวันแค่ระดับ 6 หมื่นล้านบาท บวก/ลบ
เดิมนั้น คาดกันว่า นักลงทุนน่าจะเบามือในการเทรด เพราะมีช่วงหยุดยาว 3 วัน
แต่พอมาวันจันทร์ หรือวานนี้ (25 ต.ค.)
มูลค่าการซื้อขายยังเบาบาง หรือเพียง 65,177 ล้านบาท
ทั้งที่หากวอลุ่มเทรดปกติ ควรจะมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท ถึงระดับ เกือบ 1 แสนล้านบาท
บรรยากาศแบบนี้ดูไม่ค่อยดี
นั่งทับมือตัวเองไว้ดีที่สุด หรือไม่ก็ทยอยเข้ารับทีละไม้ ไม่ผลีผลาม
แต่หากจะเข้ารับแบบชัวร์ ไม่ต้องลุ้นว่าฝรั่งกับกองทุนจะขายออกมาอีกมากน้อยแค่ไหน
ต้องสลับกลับไปเล่นหุ้นกลาง-เล็ก
โดยเฉพาะกลุ่มที่ราคาลงไปค่อนข้างลูก แต่สวนทางกับผลประกอบการของหุ้นนั้น ๆ
ในช่วงที่ต่างชาติเข้ามาเก็บหุ้น
หุ้นกลุ่ม SET50 ทะยานขึ้นแทบจะวันต่อวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์
ทำให้มีการขายหุ้นกลางเล็กออกมา แล้วไปซื้อตามต่างชาติ
ดังนั้น เมื่อหุ้นใหญ่ถูกขายทำกำไร
จึงไม่มีความจำเป็นเข้าไปเสี่ยงรับ สู้วกกลับมาเล่นหุ้นกลาง-เล็ก พื้นฐานดี ราคาถูกดีกว่า
สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทย คงไม่สามารถดูตลาดหุ้นต่างประเทศเพื่ออ้างอิงได้
เพราะของเขามีอาการไซด์เวย์เช่นกัน หรือเคลื่อนไหวไปตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในแต่ละตลาดฯ (เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย)
1-2 สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยจะมีการแจ้งผลประกอบการของ “บจ.” ขนาดใหญ่ เช่น SCGP SCC PTTEP และ DELTA
หลังจากกลุ่มธนาคารแจ้งงบกันออกมาครบแล้ว (ภาพรวมดีเกินคาด)
นักวิเคราะห์ต่าง ๆ แนะนำว่า ต้องเลือกหุ้นเป็นรายตัว ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจริง ๆ
เล่นแบบ “ปาเป้า” ในช่วงหุ้นขาขึ้นคงไม่ได้ล่ะ