ปั่นสนุกมือ!
เข้าสู่ห้วงเวลาของการย่ำฐานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หรือจะพูดให้เห็นภาพง่ายขึ้นมานิดหนึ่งคือ ตลาดหุ้นไทยกำลังเคลื่อนตัวแบบ W-Shape ไงล่ะคะ
*การเคลื่อนไหวของดัชนีคงไม่มีอะไรเร้าใจสักเท่าไหร่ เพราะตลาดหุ้นไทยตกอยู่ใต้อิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ ประกอบกับนักเล่นกลุ่มสถาบันยังมีท่าทีจด ๆ จ้อง ๆ ต่อไปอีกนาน ส่งผลให้การเคลื่อนตัวไม่มีทิศทางที่แน่นอน และเข้าสู่ห้วงเวลาของการย่ำฐานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หรือจะพูดให้เห็นภาพง่ายขึ้นมานิดหนึ่งคือ ตลาดหุ้นไทยกำลังเคลื่อนตัวแบบ W-Shape ไงล่ะคะ
*ด้วยเหตุนี้จึงไม่ควรซีเรียสกับเรื่องราวต่าง ๆ มากนัก เพราะสถานการณ์ทุกอย่างกำลังเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างช้า ๆ บวกกับกำลังใจของผู้คนเริ่มมีมากขึ้น “โมนิก้า” จึงมองการทรุดตัวของดัชนีลงมาปิดที่ระดับ 1,627.61 จุด ลบไป 8.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.93 หมื่นล้านบาท มันคือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ผนวกกับแนวรับสำคัญแต่ละจุดยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง จึงเปิดช่องให้ขาลุยเข้ามาเล่นเก็งกำไรอย่างเมามันพ่ะย่ะค่ะ
*โดยเฉพาะการวิ่งของหุ้นขนาดเล็กในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็กลายเป็นทอล์คออฟเดะทาวน์ที่ทุกคนเม้าท์แตกกันอย่างเมามัน เพราะมีการอ้างชื่อขาใหญ่คนนั้น ขาใหญ่คนนี้ ร่วมด้วยช่วยดันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ก็เป็นเกมหุ้นที่นักเล่นพร้อมลุยไฟ จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องห้ามปรามบรรดาขาซิ่งแม้แต่นิดเดียว เพราะเที่ยวนี้มีหลายคนช่วยปั่นกระแสหุ้นเล็กแบบดุเดือดเผ็ดมันน่ะซี
*รายแรกที่โจษจันกันมากสุด ๆ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้นร้อนอย่าง BIG เป็นรายแรก หลังไล่ราคากันระเบิดเถิดเทิง จนมาตรการสกัดหุ้นร้อนก็เอาไม่อยู่ วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.91 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 15.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 363 ล้านบาท กลายเป็นเกมที่คนเล่นต้องแบกความเสี่ยงกันเอาเอง เพราะเดี๊ยนมองไม่ออกจริง ๆ ว่า โมเมนตัมทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญขนาดไหนเจ้าค่ะ
*อีกรายที่มีการปั่นเว่อร์ ๆ จนเดาเรื่องราวไม่ถูก คงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับหุ้น PPPM ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์น้ำ หลังเจ้ามมือดันหุ้นรวเดียว 4 วันติด จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.62 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 14.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 184 ล้านบาท ทั้งที่มีผลขาดทุนเรื้อรังเป็นเวลาหลายปี และส่วนทุนก็หร่อยหรอลงเรื่อย ๆ จนตลาดต้องขึ้นเครื่องหมายเตือนคนนี้แบบนี้ เดี๊ยนคงพูดได้แค่ว่า ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต..อิอิอิ
*ส่วนหุ้นที่แรงเป็นช่วง ๆ อย่าง BWG ก็ทำท่าทำจะกลับมาได้ แต่สุดท้ายก็ยังกลับมาไม่ได้ “โมนิก้า” จึงสันนิษฐานว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.78 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 9.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 394 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับไตรมาส 3 พลิกกำไรมากกว่าประเด็นอื่น เพราะประเด็นโรงไฟฟ้าชุมชนไม่น่าจะมีอิมแพ็คมากนัก จึงขอเตือนด้วยความหวังดีว่า หากหลายอย่างไม่เป็นเหมือนที่คาดหวัง..เกมพังเหมือนครั้งก่อน ๆ แน่เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ CPT ซึ่งถูกดันขึ้นมาเป็นรอบ ๆ พร้อมกับสตอรี่เทิร์นอะราวด์ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแค่ฝนห่าเดียวที่มาแล้วจากไปดื้อ ๆ “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.09 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 182 ล้านบาท มันคือพล็อตเรื่องเดิม ๆ ที่เห็นกันมาตั้งแต่ต้นปี เดี๊ยนจึงต้องถามแฟนคลับกลับไปว่า เที่ยวนี้ก็เลิกวงแถว ๆ 1.10 บาท แล้วเที่ยวนี้จะเป็นแบบนั้นไหม?
*ขนาดหุ้น FANCY ปั้นทรงหุ้นมาสวย ๆ แต่สุดท้ายก็ไปต่อไม่ไหว และป้วนเปี้ยนไปมาที่บริเวณ 1.40 บาทมาพักใหญ่ ๆ ก็เป็นผลมาจากงบยังไม่ซับพอร์ตเท่าที่ควร จึงต้องหยุดรอตัวเลขสวย ๆ สักนิดหนึ่ง วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นไปถึง 1.54 บาท แต่สุดท้ายร่วงลงมาปิดที่ระดับ 1.41 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 184 ล้านบาทแบบนี้ เดี๊ยนถึงกล้าพูดทันทีว่า ถ้าเจ้าไม่ลงมาประทับองค์..ก็อย่าหวังว่าหุ้นจะขึ้นเลย..อิอิอิ
*ส่วนรายที่ทำท่าจะล่องจุ๊น หากผลงานไม่มาตามนัด คงต้องมองไปที่หุ้น WAVE เพื่อย้ำกับคนที่เล่นเกมนี้ว่า ต้องตามเกมทุกจังหวะ เพราะ 6 เดือนก่อนหุ้นไต่ระดับจาก 0.60 บาท จนขึ้นไปถึงระดับ 1.10 บาท ต่อจากนั้นก็โรยตัวลงมาเรื่อย ๆ จนกลับมายืนที่ 0.60 บาทแบบงง ๆ “โมนิก้า” เลยกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้ง เพราะวานนี้หุ้นขึ้นไปถึง 1.37 บาท แต่สุดท้ายดันลงมาปิดที่ 1.18 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 638 ล้านบาทน่ะซี