ขายเพื่อตั้งหลัก?

เดี๊ยนเป็นคนไม่ชอบเผือกสักเท่าไหร่? แต่ในมุมของการแชร์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุนทุกกลุ่ม มันต้องทำหน้าที่สู่รู้ต่อไป


*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ต้องออกมายืนยันว่า เดี๊ยนเป็นคนไม่ชอบเผือกเรื่องชาวบ้านสักเท่าไหร่?  เพราะชีวิตจริงของเดี๊ยนออกไปในแนวสโลว์ไลฟ์ จึงรู้สึกขัดเขินเป็นอย่างมากเมื่อต้องเม้าท์เรื่องคนอื่นอย่างจริงจัง แต่ถ้ามองในมุมของการแชร์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุนทุกกลุ่ม มันเป็นจังหวะที่เดี๊ยนต้องทำหน้าที่สู่รู้ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะโลกของการลงทุนมันต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลาเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” จำเป็นต้องวกกลับมาดูบรรยากาศการลงทุน ก่อนจะไปถึงเรื่องชาวบ้าน หลังดัชนีออกอาการแทงกั๊กตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,626.13 จุด ลบไป 0.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.66 หมื่นล้านบาท กลายเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า แรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำ และแรงซื้อที่แท้จริงยังไม่กลับมา ดัชนีต้องแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไปอีกระยะหนึ่งนะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ถึงเห็นหุ้นบลูชิพบางตัวออกอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ เหมือนขาดแรงหนุนอะไรบางอย่าง และเมื่อดูจากอาการของดัชนีที่ทำท่าลงมายืนบริเวณแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,600 จุด ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้เล่นมากกว่าประเด็นอื่น หากผู้เล่นมองเป็นโอกาสทองของการลงทุน ย่อมไม่มีอาการลังเลใจที่จะช้อนหุ้นเข้าพอร์ต หากเกิดอาการหวั่นไหวขึ้นมากะทันหัน ย่อมมีลักษณะรีบขายทิ้งเป็นธรรมดานะคะ

*งานนี้บอกได้แค่ว่า ใครสนใจอยากจะซื้อหุ้น ก็ซื้อหุ้นเก็บไว้ได้เลย ส่วนใครที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ อาจใช้วิธีรอดูสถานการณ์อีกนิดหนึ่ง เพราะดัชนีจะเหวี่ยงตัวไปมาถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จึงจำเป็นต้องครองสติให้ได้ในเวลาคับขัน “โมนิก้า” เลยไม่ถือโทษนักเล่นจากซุ้มต่าง ๆ ที่เข้ามาตะลุมบอนแบบไม่ทันตั้งตัว ต่อจากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เพราะภาวะมันบีบคั้นให้เล่นแบบนั้นเจ้าค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวดูได้จากอาการของหุ้น IRPC พยายามถีบตัวขึ้นไปหายอดด้านบนบริเวณ 4.80 บาทเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ขยับขึ้นไปไม่ถึงบริเวณดังกล่าวสักที วานนี้เลยประคองตัวได้แค่การยืนปิดที่ระดับ 4.18 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 505 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลในระดับหนึ่ง เพราะหุ้นยังหาฐานไม่เจอสักที จึงต้องมองสถานการณ์แบบห่าง ๆ นะคะ

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายคลึงกับ GUNKUL หลังหุ้นทะยานขึ้นมาทำไฮที่ระดับ 5.85 บาท และพยายามเทคตัวขึ้นไปไฮใหม่ตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ และแกว่งตัวออกด้านข้างมาพักใหญ่ๆ  จนวานนี้โดนถล่มพรวดเดียวลงมากองอยู่ที่ระดับ 4.74 บาท ลบไป 0.66 บาท หรือลงไป 12.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.79 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการช็อกไปชั่วคราวเหมือนกัน เพราะพวกท่าน take profit หนักเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่เสียทรงจนไม่รู้จะแก้อย่างไร “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ STGT หลังแมงเม่าออกมาบ่นพึมพำเกี่ยวกับการสาดใส่หยุดเยอะแยะไปหมด มันกลายเป็นภาพที่ไม่สวยงามเอาเสียเลย แถมเมื่อคิดบนพื้นฐานกำไรต่อหุ้นก่อนโควิดอยู่ที่ระดับ 0.83 บาท ย่อมทำให้เดี๊ยนมองการยืนปิดที่ระดับ 26.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 742 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น..น่าจะเป็นการลงหนักเกินกว่าเหตุนะคะ

*ตบท้ายกันที่หุ้น DPAINT สักนิดหนึ่งแล้วกัน หลังผู้คนในตลาดหุ้นร่ำลือถึงแรงขายที่กระหน่ำออกมาในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของความกังวลที่มีต่อกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงไม่รู้ว่า เกมหุ้นจะออกหน้าไหน? เดี๊ยนจึงทำได้แค่ปลอบใจคนที่ติดหุ้นราคาสูง เพราะการลงมายืนปิดที่ระดับ 9 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 7.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112 ล้านบาท มันเป็นอาฟเตอร์ช็อกหลังจากการขายในวันนั้นไงล่ะคะ

Back to top button