หุ้นเล็กพารวย

ลุ้นเดือน พ.ย.-ธ.ค. อย่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีกเลย หนทางเดียวที่พอจะเป็นไปได้ คือ แกว่งตัวออกด้านข้าง เพื่อรอปัจจัยบวกใหม่ๆ


*สัปดาห์ที่ผ่านมามีแฟนคลับหลายคนสงสัยว่า ทำไม “โมนิก้า” มีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยดี และไม่เชื่อตลาดหุ้นไทยจะไปได้สวยนั้น เดี๊ยนขอตอบตรง ๆ ว่า หุ้นส่วนใหญ่ขึ้นมาใกล้เต็มแวลู แถมยังต้องลุ้นเดือน พ.ย.-ธ.ค. อย่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีกเลย จึงมองไม่เห็นหนทางที่ดัชนีจะทะยานอย่างแข็งแกร่ง และหนทางเดียวที่พอจะเป็นไปได้มากสุดคือ แกว่งตัวออกด้านข้าง เพื่อรอปัจจัยบวกใหม่ ๆ นะตัวเอง

*ยิ่งมูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันเริ่มเหือดแห้ง และกองทุนยังรินหุ้นออกมาเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงหนักใจกับการเป็นไปของตลาดหุ้นไทยในช่วงสองเดือนนี้ เพราะจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปลดล็อกอย่างบูรณาการยังไม่เกิดขึ้น ดัชนีถึงยืนปิดได้แค่ระดับ 1,633.94 จุด บวกไป 1.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.03 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดเรื่องที่เคยบอกว่า หุ้นไทยมาได้แค่นี้จริง ๆ เจ้าค่ะ

*ฉะนั้นอย่าคาดหวังหุ้นบลูชิพจะกลับมาเฉิดฉายสุด ๆ เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้กลายเป็นหุ้นกลางเล็กที่พากันผงาดอย่างโฉบเฉี่ยว และเป็นที่เม้าท์แตกในหมู่ขาลุยอย่างคึกคัก “โมนิก้า” ถึงต้องกระโดดลงมาร่วมสนามรบกับเขาด้วยคน เพราะมีประเด็นที่อยากเม้าท์แตกเหมือนกัน โดยเฉพาะหุ้นที่ทำผลงานได้ค่อนข้างดีในไตรมาส 3 ถือเป็นตัวเลือกลำดับแรก ๆ ที่ต้องเอ่ยถึงก่อนใครเพื่อนไงล่ะคะ

*มาเหนือเมฆสุด ๆ คงต้องมองไปที่หุ้น SCM ในทันที เพราะทันทีที่กำไรไตรมาส 3 โตปุ๊บ แรงซื้อก็ไหลทะลักเข้ามาในทันที จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.30 บาท บวกไป 1.05 บาท หรือขึ้นไป 11.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 621 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นเมื่อ ก.ย. 63 กลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับคนเล่นเต็ม ๆ เพราะวันนี้หุ้นเทรดบน PE 43 เท่า แถมต้องเกาะติดงบไตรมาส 4 จะโตได้อีกไหม..เสียวซ่านไหมจ๊ะ

*ส่วนรายที่ลิงโลดสุด ๆ คงต้องมองไปที่หุ้นตัวจี๊ดอย่าง TCC เป็นรายถัดมาทันที เพราะทันทีที่พลิกมีกำไรได้ปุ๊บ ราคาหุ้น TCC ก็กระชากขึ้นต่อทันที จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 1.48 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 637 ล้านบาท ท่ามกลางกำไรต่อหุ้นงวด 9 เดือนอยู่ที่ระดับ 0.026 บาท โอเว่อร์ไหม? คุณ ๆ ท่าน ๆ คงต้องไปกลั่นกรองด้วยตนเอง เดี๋ยวจะหาว่าเดี๊ยนไม่แฟร์น่ะซี

*อีกรายที่ทำผลงานได้ดีสุด ๆ ต้องมองไปที่หุ้นไฟแรงอย่าง ICN หลังกำไรงวด 9 เดือนโตเท่าตัว เมื่อเทียบกับกำไรทั้งปี 63 หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 513 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูอีกเช่นกัน “โมนิก้า” จึงขออนุมานว่า หากไตรมาส 4 ผลงานยังเปรี้ยงปร้างเหมือนไตรมาสก่อน ๆ ก็มีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะยืนเหนือ 10 บาทนะจะบอกให้

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น BE8 อย่างไร..อย่างนั้น เพราะการเล่นเที่ยวนี้ตั้งอยู่บนสตอรี่โกรทเป็นหลัก เมื่อผลงานออกมาโตเหมือนที่ร่ำลือ ราคาหุ้นก็พุ่งต่ออย่างร้อนแรง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟน ๆ ประเมินการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 28.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 643 ล้านบาท ท่ามกลางกำไรต่อหุ้น 9 เดือนอยู่ที่ 0.59 บาท ต่อจากนั้นนำมาใส่สูตรโลกสวยเพื่อคำนวณ ก็จะรู้ได้ทันทีว่า “ถูก” หรือ “แพง”..อิอิอิ

*ส่วนรายที่เล่นล่วงหน้ากันสุด ๆ “โมนิก้า” ขอมองไปที่น้องฟ้า BBIK หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 47.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 7.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 194 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high หลังจากเข้าตลาดเอ็มเอไอได้เพียงสองเดือน เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้นักเล่นรู้ว่า หุ้นตัวนี้มีของดีที่จะโชว์อีกเพียบกระมัง! ราคาหุ้นถึงวิ่งทะลุเป้าที่โบรกเกอร์ให้ไว้กระจุยในชั่วพริบตาเจ้าค่ะ

*นอกจากนี้อยากให้มองหุ้นกลาง ๆ ที่กำไรโตเท่าตัวอย่างหุ้น JR ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหุ้นที่มีอัพไซด์ 35% แถมในปีหน้าก็ยังมีสตอรี่โกรทให้เห็นทุกไตรมาสแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมเชื่ออย่างสนิทใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 7.25 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20 ล้านบาท ยังเป็นระดับที่ลงทุนได้สบาย ๆ และมีความเสี่ยงในการเล่นที่ต่ำมาก ๆ พะยะค่ะ

Back to top button