JMT (อาจ) เข้า SET50
ข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) นำมาใช้เป็นเกณฑ์นำหุ้นเข้าออกการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 เช่น รอบครึ่งแรก (มกราคม–มิถุนายน )ของปี 65
ข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) นำมาใช้เป็นเกณฑ์นำหุ้นเข้าออกการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100
เช่น รอบครึ่งแรก (มกราคม–มิถุนายน )ของปี 65
ตลท.จะใช้ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2563–30 พฤศจิกายน 2564
และหากเป็นช่วงหรือรอบครึ่งหลังของปี 2565
ตลท.จะใช้ข้อมูลระหว่าง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564-31 พฤษภาคม 2565
อย่างในรอบครึ่งแรกปี 2565 นั้น
คาดว่าทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการประกาศเป็นทางการในช่วงวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้
และเป็นปกติของหุ้นที่จะเข้าและออกจากการคำนวณดัชนี
นักวิเคราะห์จากโบรกต่าง ๆ จะเริ่มดีดลูกคิด คำนวณจากเกณฑ์ของตลท. แล้วมาคาดการณ์ว่า หุ้นตัวใดบ้างน่าจะถูกนำเข้า และถูกนำออกจากการคำนวณดัชนีในรอบที่กำลังจะมาถึง
ล่าสุด จากการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์แต่ละสำนัก
ต่างให้ข้อมูลตรงกันว่า TIDLOR หรือ บมจ.เงินติดล้อ
มีโอกาสเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบนี้ถึง 99.99% หรืออาจจะ 100% ไปแล้ว
เรียกง่าย ๆ ภาษาชาวบ้านคือ “นอนมา” หรือ ได้เข้าแน่ ๆ เพราะผ่านทุกเกณฑ์ทั้งเรื่องมาร์เก็ตแคป (85,222 ล้านบาท ) สภาพคล่อง และเกณฑ์อื่น ๆ ที่ทางตลาดฯ เขาทำไว้
เงินติดล้อนอกจากจะได้เข้า SET50 รอบใหม่แน่นอนแล้ว
ล่าสุด MSCI นำเข้าคำนวณดัชนีในกลุ่ม MSCI Small Cap ด้วย ประกาศไปเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา
และจะมีผล ณ ราคาปิดวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
KEX หรือ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
เป็นอีกหุ้นที่ถูกฟันธงเช่นกันว่า จะเข้าดัชนี SET50 รอบล่าสุดค่อนข้างจะแน่นอน
KEX มีมาร์เก็ตแคปล่าสุดอยู่ที่ 63,510 ล้านบาท
ปกติแล้ว หุ้นที่จะได้เข้าการคำนวณดัชนี จะพบว่ามีการเข้ามาเก็งกำไรจากนักลงทุนกันค่อนข้างมาก
แต่สำหรับทั้ง เงินติดล้อ และเคอรี่ กลับค่อนข้างดูเงียบเหงาไปซักหน่อย
กราฟราคาหุ้นช่วง 1 เดือนก่อนหน้านี้ ปรับลงมาตลอด
และเพิ่งจะมากลับสู่ขาขึ้นได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ยังไม่รู้ว่า ราคาจะวิ่งไปได้มากน้อยแค่ไหน จากปัจจัยเรื่องผลประกอบการอาจจะกดดัน (ระยะสั้น)
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU มีโอกาสกลับเข้า SET50 ด้วย
ล่าสุดบ้านปูมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 74,427 ล้านบาท
หากดูจากมาร์เก็ตแคปทั้ง 3 หุ้น จะเห็นว่า บ้านปู และ เงินติดล้อ น่าจะดูมีโอกาสมากกว่า เคอรี่
แต่อย่างที่บอกไปว่า เกณฑ์ที่นำหุ้นเข้าออกนั้น
ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เขาดูจากหลายเกณฑ์
ล่าสุดมีข้อมูลออกมาว่า JMT หรือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)
น่าจะมีโอกาสหรือเป็น positive surprise สำหรับ JMT ที่อาจจะเป้น “ม้ามืด” เข้า SET50 รอบล่าสุดนี้เลย จากเดิมที่ถูกคาดหมายว่า น่าจะได้เข้าในรอบครึ่งหลังปี 2565
JMT มีมาร์เก็ตแคปล่าสุดอยู่ที่ 61,667 ล้านบาท
เป็นขนาดมาร์เก็ตแคปที่ใกล้เคียงกับเคอรี่
แต่หากดูในเกณฑ์สภาพคล่อง
เข้าใจว่า น่าจะมากกว่าเคอรี่
ดังนั้น มีการคำนวณออกมาว่า หากราคาหุ้นของ JMT ที่ล่าสุดอยู่ที่ 54.50 บาทต่อหุ้น
ราคาหุ้นจะต้องขยับขึ้นมาอยู่บริเวณ 58 บาทต่อหุ้นก่อนปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
ถือเป็นระดับราคาที่น่าจะทำให้ JMT มีโอกาสเบียดเข้า SET50 รอบนี้ได้ทันที
ข้อมูลจาก settrade ราคาเป้าหมายของ JMT สูงสุดอยู่ที่ 56 บาท และต่ำสุด 51 บาท
และมี IAA Consensus Target Price อยู่ที่ 56 บาท
มาลุ้นกันว่า JMT จะเป็นม้ามืดหรือเปล่า