พาราสาวะถี

คำแถลงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจหลังประชุมครม.สัญจรที่กระบี่ถ้าไม่ได้มีการคุยกับพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ไว้ก่อน ย่อมตอกย้ำภาพความบาดหมางกันเอง


น่าสนใจกับคำแถลงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจหลังเสร็จประชุมครม.สัญจรที่กระบี่ ยังไม่มีการปรับครม.ช่วงนี้ แต่ 1 เก้าอี้เสนาบดีสำหรับส.ส.ภาคใต้ของพรรคสืบทอดอำนาจคิดเอาไว้เหมือนกัน เป็นเพียง “แค่คิดไว้” แต่ส่งเสียงดัง ๆ เพื่อเอาใจคนในพื้นที่ หรือเป็นการโยนหินถามทาง โยนไฟเข้าไปภายในพรรคแกนนำรัฐบาล งานนี้ถ้าไม่ได้มีการพูดคุยกับพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ไว้ก่อน ย่อมตอกย้ำภาพความบาดหมางระหว่างพี่น้องยังจบกันไม่ลง

อย่าลืมเป็นอันขาด 2 เก้าอี้รัฐมนตรีที่ถูกเขี่ยไปนั้น เป็นโควตาของพรรคสืบทอดอำนาจร้อยเปอร์เซ็นต์ จริงอยู่ผู้ที่มีอำนาจในการปรับครม. ชี้ขาดว่าจะเอาใครหรือไม่เอาใครคือตัวคนเป็นนายกรัฐมนตรี แต่โดยมารยาททางการเมืองเมื่อไม่ใช่ตำแหน่งในโควตาที่ตัวเองได้ขอไว้ ก็ไม่ควรที่จะไปพูด รู้กันอยู่ว่าสิ่งที่ประกาศออกไปนั้น มันจะไปสร้างแรงกระเพื่อมภายในพรรคได้ ที่สำคัญการจะส่งรายชื่อใครขึ้นเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคต้องตัดสินใจ

แม้อาจจะมีการออกตัวภายหลังว่าที่พูดไปนั้นเพื่อต้องการเอาใจคนภาคใต้ เนื่องจากไปประชุมในพื้นที่นั้น สุดท้ายก็ต้องยกให้เป็นเรื่องภายในพรรคอยู่ดี การใช้วิธีการเช่นนี้มันเท่ากับเป็นการมัดมือชก ถ้าพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ไม่ยอมตั้ง 1 ใน 14 ส.ส.ภาคใต้ที่อยากจะเป็นรัฐมนตรีกันตัวสั่น ก็เท่ากับว่าเป็นการตอกย้ำความขัดแย้ง บาดหมางของ 3 พี่น้องที่มองหน้ากันไม่ติดไปแล้ว หากจะตั้งตามคำบัญชาปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นทันที กลุ่มก๊วนต่าง ๆ ที่หมายปองตำแหน่งกันอยู่จะจัดการกันอย่างไร

อีกด้านการรีบประกาศเช่นนี้ ก็เท่ากับเป็นการตีกันไม่ให้ ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะเลขาธิการพรรคสืบทอดอำนาจเข้ามาจุ้นจ้านกับการจัดวางคนมาเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ในทางปฏิบัติเรื่องภายในพรรคโดยเฉพาะพรรคสืบทอดอำนาจที่ประกาศให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ชี้ขาดแต่ประเด็นสำคัญ ทว่าข้อเท็จจริงทางการเมืองการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ และเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ภายในพรรคนั้น หัวหน้าจะต้องปรึกษาหารือกับแม่บ้านพรรคให้ตกผลึกเสียก่อน

เมื่อเป็นเช่นนั้น คำว่าแค่คิดไว้ในความหมายของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ไม่เพียงแค่จุดประกายความหวังให้กับส.ส.ใต้ของพรรคสืบทอดอำนาจ และจะตามมาด้วยการทวงถามหรือขอคำมั่นสัญญาจากหัวหน้าพรรคเท่านั้น หากแต่จะเกิดความเคลื่อนไหวภายในพรรคอย่างคึกคักและมีการวิ่งกันฝุ่นตลบ อย่าลืมเป็นอันขาดถ้าจะปรับ 2 เก้าอี้ที่หายไป ตัดให้ส.ส.ใต้ไป 1 อีกหนึ่งที่เหลือกลุ่มสามมิตรก็จ้องตาเป็นมัน ถ้าตัดจบที่การสวามิภักดิ์ต่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ถือว่าทุกอย่างจบ

แต่ผลพวงจากความพยายามที่จะให้มีการปรับโครงสร้างพรรคก่อนหน้านั้น จนถึงขั้นที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ต้องออกโรงขู่กันหนักจึงยอมถอยกันและธรรมนัสก็ได้ไปต่อแบบไม่มีอะไรมาระคายผิวหนัง บทเรียนครั้งนั้นทำให้หัวหน้าและเลขาธิการพรรคต่างตั้งการ์ดสูง พร้อมสกรีนคนที่เป็นพวกอย่างละเอียดยิบ เพราะเกรงจะมีพวกหลอกกินกล้วยฟรี การประเดิมโยนหินถามทางของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอีกด้านอาจกลายเป็นทุกขลาภของฝ่ายที่ถูกพาดพิงไปเสียฉิบ

อีกสิ่งที่ลืมกันไม่ได้กับโพลสำรวจความนิยมของพรรค แม้หัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจจะปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งให้ทำ แต่ผลที่ออกมาในแง่คะแนนนิยมในพื้นที่ภาคใต้จากส.ส. 14 คนเหลือแค่ 4 คน นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทางพรรคต้องนำมาประเมินการประเคนเก้าอี้รัฐมนตรีให้ไป โดยที่รู้ปลายทางแล้วว่าเสียของ สู้เสนอชื่อคนในพื้นที่ซึ่งมีความหวังต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า แล้วจัดกันแบบเต็ม ๆ จะเป็นประโยชน์มากกว่า งานนี้มีลุ้น แต่ทางออกสำหรับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตามที่พี่ใหญ่เคยบอกไปไม่ปรับครม.เป็นดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นเรื่องที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจมีความกังวลในทุกจุด ยิ่งมีการอ้างเรื่องของข้อกฎหมาย แต่ผลที่ออกมาจากการบังคับใช้นั้นล้วนถูกมองว่าเป็นกลไกของขบวนการสืบทอดอำนาจที่วางไว้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการตีตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ด้วยเหตุผลที่ไปคว่ำส.ว.ลากตั้งที่ถือเป็นมือไม้สำคัญทั้งการโหวตให้ผู้นำเผด็จการกลับมาสืบทอดอำนาจ และคอยเป็นไม้กันหมาให้รัฐบาล

รวมไปถึงกรณีผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญล่าสุด ซึ่งตามมาด้วยการชุมนุมอย่างเข้มข้นของขบวนการคนหนุ่มสาว แน่นอนว่าประสาผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ย่อมจะหยิบยกเรื่องของการใช้กฎหมายมาเป็นตัวตั้ง พร้อม ๆ กับการย้ำเรื่องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องอยู่คู่กับคนไทยตลอดไป ทั้งที่ประเด็นนี้ในฝ่ายที่เสนอเรื่องการปฏิรูปสถาบันนั้นก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะล้มล้างหรือทำให้หายไป แต่ก็มีความพยายามที่จะชี้นำ โน้มน้าวเพื่อให้ฝ่ายสนับสนุนออกมาเคลื่อนไหว

เมื่อเป็นเช่นนั้น ย่อมหนีไม่พ้นสิ่งที่คนตั้งเป็นข้อสังเกตก็คือขบวนการสืบทอดอำนาจ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความขัดแย้งยังอยู่ และยืนยันด้วยคำแถลงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่หวั่นไหวต่อการชุมนุมของฝ่ายต่อต้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คำพูดที่ระบุว่า ฝ่ายชุมนุมสร้างความวุ่นวายแล้วคนไทยยอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้มาตรการสังคมต้องตักเตือนกัน อย่าให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว สะท้อนอะไรได้หลายประการ

อย่างน้อยสิ่งที่ได้สะกิดไปวันก่อนเรื่องของความวุ่นวาย กลียุคจากสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับกระบวนการที่ถูกมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิ เสรีภาพของประชาชนนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เผด็จการสืบทอดอำนาจที่มีมือกฎหมายศรีธนญชัยทั้งหลายอยู่ข้างกายและใช้กฎหมายที่เขียนขึ้นมาเพื่อตัวเองเล่นงานฝ่ายตรงข้ามคงมองไม่เห็นจุดนั้น แต่สุดท้ายมันย่อมหนีความจริงไปไม่พ้น

ขณะที่ม็อบกลุ่มความเดือดร้อนก็เริ่มมีให้เห็นที่สร้างความหนักใจให้ท่านผู้นำก็คือสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยที่ประท้วงเรื่องราคาน้ำมันดีเซลที่แพงเกินจะรับไหว การที่มีม็อบมากกว่าหนึ่งกลุ่มย่อมไม่เป็นผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแน่นอน แม้ว่าเหตุผลของการเคลื่อนไหวจะต่างกัน แต่ถ้าปลายทางคือจุดเดียวกันและเป็นจุดของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพในการบริหาร โอกาสที่จะกลายเป็นสองแรงหรือหลายแรงบวกและทำให้รัฐบาลล้มไม่เป็นท่าก็มีมากตามมาเช่นเดียวกัน

Back to top button