1,650 ด่านหิน
ดัชนีไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ1,651.02 จุด บวกไป 6.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.65 หมื่นล้านบาท
*ก่อนอื่นต้องบอกให้แฟนคลับรู้ว่า “โมนิก้า” ค่อนข้างดีใจที่เห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ1,651.02 จุด บวกไป 6.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.65 หมื่นล้านบาท เพราะมันหมายถึงความพร้อมที่จะขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,650 จุดมาแบบบูรณาการ จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาเป็นระยะตลอดทั้งวัน รวมทั้งมีความหวังที่จะได้เห็นผลงานไตรมาส 4 ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น จึงเปิดช่องให้ขาลุยเข้ามารับช่วงลุยต่อไงล่ะคะ
*ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็ยังแอบเสียวเมื่อเห็นบรรยากาศตลาดหุ้นรอบด้านไม่โสภาเอาเสียเลย รวมทั้งยังมีเรื่องอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศคอยกดดันเป็นระยะ จึงต้องออกโรงเตือนด้วยความหวังดีว่า การจะยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวคงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก และกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับการเล่นหุ้นในช่วงสุดสัปดาห์ก็หนีไม่พ้น “ช้อนหุ้น” เพื่อเอาไปขายราคาที่สูงกว่าในสัปดาห์หน้านะจ๊ะ
*โดยประเด็นที่จะเม้าท์แตกในวันนี้เลยอยู่ที่ว่า หุ้นตัวไหนจะโดนเท? หลังแสดงอาการอืดให้เห็นบางแล้ว และบางตัวก็ยังถูกขายหนัก จึงขอสันนิษฐานว่า ถึงเวลาต้องโยกเงินไปเล่นหุ้นตัวอื่นหรือเปล่า? ผนวกกับประเด็นใหม่ๆ ที่จะเข้ามาบิ้วอารมณ์หาไม่ค่อยเจอ “โมนิก้า” จึงขอโฟกัสไปยังหุ้นที่มีโอกาสกลับบ้านเก่า เพื่อนักเล่นจะได้มีเวลาคิดก่อนลุย ซึ่งเป็นการป้องกันผลกระทบที่มีต่อเงินในกระเป๋านะจะบอกให้
*รายที่ต้องหลบไปเลียแผลพักใหญ่คงมองไปที่หุ้น CBG ก่อนใครเพื่อน เพราะกำไรไตรมาส 3 ที่ลดฮวบกลายเป็นบาดแผลที่ทำให้กองทุนถอยกรูดกันเลยทีเดียว “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 115.50 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลดลง 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.21 พันล้านบาท ใช่จังหวะของการช้อนหุ้นหรือเปล่า? หลังราคาหุ้นส่อแววจะลงไปหาฐานเก่า 108 บาทน่ะซี
*ส่วนหุ้นอิเล็กฯ ตัวท็อปที่ทำทางมาดีอย่าง HANA ก็เริ่มถูกขายอออกมาเรื่อยๆ จนอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ 91.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 870 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 32 เท่า ย่อมเป็นจุดที่ทำให้นักเล่นต้องคิดหนักไม่ใช่น้อย แต่ถ้ามองในมุมของธุรกิจที่เกี่ยวโยงไปยังเรื่อง “EV” ก็ทำให้ราคาหุ้นที่บริเวณนี้น่าสนใจเหมือนกัน เดี๊ยนจึงอยากให้คุณ ๆ ท่าน ๆ ตัดสินใจกันเองจ้า
*ประเด็นนี้เกี่ยวพันไปถึงหุ้น SGP ซึ่งทำผลงานในไตรมาส 3 ได้โดดเด่น จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ และขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 15.50 บาท แต่หลังจากนั้นก็ร่วงหล่นลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 13.30 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57 ล้านบาท ท่ามกลางราคาพลังงานโลกอ่อนตัวลงอีกครั้ง จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่ลำบากสำหรับคนที่คิดจะเล่นพอสมควรนะจ๊ะ
*เมื่อปัจจัยการเล่นไม่เอื้ออำนวย ย่อมทำให้หุ้นเก็งกำไรยอดนิยมอย่าง U เสียรังวัดไปกับเขาด้วย ยิ่งหุ้นขึ้นมาใกล้ยอดเดิมบริเวณ 2.10 บาทเป็นครั้งที่ 3 ยิ่งทำให้เดี๊ยนรู้สึกเกร็งมากขึ้นเป็นทวีคูณ จึงขอให้แฟน ๆ ประเมินการขึ้นมาปิดที่ 1.99 บาท ลบไป 0.01 บาท หรือลงไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 298 ล้านบาท ยังพอมีช่องให้เสี่ยงดวงเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่า?..ลองไปคิดกันดูนะตัวเอง
*ในเมื่อชอบเสี่ยงกันทั้งที่ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นเก็งกำไรสุดโต่งอย่าง CMO กับเขาสักหน่อย เพราะเหตุผลที่ทำให้หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 2.92 บาท บวกไป 0.66 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท แถมเป็นการซัดสองซิลลิ่งแบบไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแบบนี้ เดี๊ยนคงบอกได้แค่ว่า เจ้ามือเก่ง! เพราะสามารถปลุกเสกหุ้นที่ไม่มีสตอรี่เด็ด ๆ ให้กลายเป็นหุ้นเทพหน้าตาเฉยไงล่ะคะ
*คล้ายกับในกรณีของ BE8 ที่มีขาใหญ่ที่ชื่อ เฮีย.ฮ แอนด์เดอะแก๊งคอยคุมเกม ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่นักเล่นต้องประเมินความเสี่ยงกันเอาเอง เพราะการขึ้นมายืนปิดทื่ระดับ 32.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 272 ล้านบาท เป็นการเทรดบน PE 50 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับกำไรที่ยังมาไม่ถึง แต่สำหรับขาลุยอาจไม่คิดเหมือนน้องโมก็ได้..ใครจะไปรู้..อิอิอิ