ORI มั่นใจ Q4 กำไรเด่น ยอดโอน-ธุรกิจใหม่หนุน   

คุณค่าบริษัท                                                                      

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI จะมีแนวโน้มยอดโอนช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 และปี 2565 ดีขึ้นต่อเนื่องตามคาดการณ์ไว้ด้วยประเด็นสำคัญเข้ามาสนับสนุน

สำหรับแนวโน้มยอดโอนปี 2564 ยังเป็นไปตามเป้า เพราะในไตรมาส 4 ปี 2564 จะดีขึ้นทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน โดยมี Backlog ครอบคลุมรายได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้จากการโอนโครงการ Nov-JV ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และโครงการ JV ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 267% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ปรับเป้าการเปิดโครงการใหม่ปี 2564 เหลือ 1.77 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 2.02 หมื่นล้านบาท โดยเป็ นการเลื่อนการเปิดตัวโครงการแนวราบออกไปเป็นปี 2565 เนื่องจากการปิดแคมป์คนงาน ทำให้การก่อสร้างล่าช้า แต่จะไม่กระทบต่อเป้าหมายรายได้ในปี 2564 ส่วนปี 2565 มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 2.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็ นจากแนวราบ 54% และคอนโด 46%

นอกจากนี้มีแผนเปิดตัวธุรกิจใหม่ภายใต้กลุ่ม healthcare ได้แก่ ธุรกิจ medical supplies เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพการนอนหลับ ซึ่ง ORI ได้เข้าไปถือหุ้น 25% ใน บจ.ไทย ลีฟ ไบโอเทคโนโลยี ซึ่งเป็น บริษัทที่มี license ในการปลูกและแปรรูปสาร CBD เป็นผลิตภัณฑ์ pharmaceutical โดย ORI จะ มีการเปิดเผยรายละเอียดแผนลงทุนในเดือน ธ.ค. อีกครั้ง

อีกทั้ง บล.เคทีบีเอสที ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยแนวโน้มกำไรไตรมาส 4 ปี 2564 จะปรับตัวดีขึ้นทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ตามกำลังซื้อที่กลับมาฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์ และจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการ Park Origin พญาไท เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการโอนโครงการแนวราบเพิ่มมากขึ้น และส่วนแบ่งกำไร JV จะพลิกกลับมามีกำไรได้

นอกจากนั้น อาจมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 2 แห่ง ราว 100 ล้านบาท สำหรับกำไรปี 2565 ยัง ประเมินกำไรที่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากผลบวกการผ่อนเกณฑ์ LTV การเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น ตามแผนเปิดโครงการใหม่มากขึ้น ขณะที่คอนโดใหม่ที่จะเริ่มโอนส่วนใหญ่มาจากโครงการ JV ได้แก่ Park Origin ทองหล่อ (มูลค่าโครงการ 1.2 หมื่นล้านบาท ทำยอดขายได้แล้ว 74% เริ่มโอนไตรมาส 1 ปี 2565), Park Origin ราชเทวี (มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท ทำยอดขายได้แล้ว 75% เริ่มโอนไตรมาส 3 ปี 2565) และ Park Origin จุฬา-สามย่าน (มูลค่าโครงการ 4.6 พันล้านบาท ทำยอดขายได้แล้ว 98% เริ่มโอนไตรมาส 4 ปี 2565)

 

นอกจากนั้น จะมีการรับรู้ กำไรจากธุรกิจใหม่ที่เป็น recurring เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจ logistics (ร่วมทุนกับ JWD) จะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงกลางปี 2565 รวมถึงธุรกิจในกลุ่ม healthcare, AMC และ insurance broker ที่เริ่มมีการรับรู้รายได้ส่วนธุรกิจล่าสุด medical supplies จะเข้ามาช่วยเสริมกำไรได้ในครึ่งหลังของปี 2565

ดังนั้นยังคงราคาเป้าหมายที่ 15.00 บาท แนะนำ “ซื้อ”

….

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นายพีระพงศ์ จรูญเอก 693,606,354 หุ้น 28.28%
2. บริษัท ทุนพีรดา จำกัด 618,779,918 หุ้น 25.23%
3. นางอารดา จรูญเอก 167,457,556 หุ้น 6.83%
4. นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 101,920,000 หุ้น 4.16%
5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 70,164,420 หุ้น 2.86%

รายชื่อกรรมการ

1. นายลักษณะน้อย พึ่งรัศมี ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
2. นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
3. นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
4. นายนิวัติ ลมุนพันธ์ กรรมการ
5. นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส กรรมการ