ดักซื้อกลุ่ม SET50
ที่ผ่านมากองทุน และต่างประเทศขายหุ้นไทยออกมาหนักจริง ๆอย่างนักลงทุนต่างชาติ 2 วันขายออกมาแล้ว 1.03 หมื่นล้านบาท
วันศุกร์ และจันทร์ที่ผ่านมา
กองทุน และต่างประเทศขายหุ้นไทยออกมาหนักจริง ๆ
อย่างนักลงทุนต่างชาติ 2 วันขายออกมาแล้ว 1.03 หมื่นล้านบาท
ส่วนกองทุน 2 วันขาย 6.7 พันล้านบาท
ผู้จัดการกองทุนต่างออกมายอบรับว่า พวกเขาจำเป็นต้อง “ปรับพอร์ต” เพื่อลดความเสี่ยงจากโควิด “โอไมครอน” ที่อาจเกิดขึ้นรอบใหม่
นับจากนี้ไป คงจะถือเงินสดไว้ก่อน
แล้วรอดูความชัดเจนในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าว่า โอไมครอน จะสร้างความรุนแรงมากน้อยเพียงใด
การปรับพอร์ตของกองทุนครั้งนี้
ถือเป็นจังหวะ “ขายทำกำไร” ไปด้วย และลดความเสี่ยงควบคู่กันไป
ส่วนนักลงทุนต่างประเทศนั้น
เมื่อมีความเสี่ยงเข้ามา ย่อมต้องปรับลดความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ประเด็นที่นักลงทุนอยากจะทราบคือ แล้วดัชนีจะกลับมาฟื้นได้เมื่อไหร่
เรื่องนี้ต้องกลับไปถามทั้งกองทุนและนักลงทุนต่างประเทศว่า เงินที่ได้จากการขายหุ้นครั้งล่าสุดนี้ จะกลับเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อไหร่ล่ะ
เพราะหากไม่ใช่กองทุน และนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อ
ดัชนีคงยากที่จะวิ่งขึ้นมาได้
ลำพังแรงซื้อจากรายย่อยไม่น่าจะเพียงพอ
เว้นแต่ รายย่อยจับเข่าคุยกัน แล้วเข้าไปไล่เก็บหุ้นในกลุ่ม SET50 นั่นแหละ ดัชนีอาจจะฟื้นตัวได้เร็ว
ทว่าในความเป็นจริงนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะเกิดสถานการณ์แบบนี้
ล่าสุด ผู้จัดการกองทุนบางคนประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ไปอีก 2 สัปดาห์ว่า อาจจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550–1,600 จุด
นั่นหมายความว่า ดัชนีอาจจะยังไม่สามารถดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,600 จุดได้แบบง่าย ๆ
เว้นแต่จะมีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับ “โอไมครอน” ออกมา รวมถึงวัคซีนที่จะเข้ามาป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว
หากข้อมูลออกมาเชิงบวก หุ้นอาจจะกลับมาฟื้นเร็ว จากแรงซื้อกลับของกองทุน และต่างชาติ
แต่หากข้อมูลยังไม่แน่ชัด
SET น่าจะยังซึม ๆ ไปแบบนี้ เว้นแต่จะมีหุ้นกลุ่มไหน ตัวไหน ที่ดีดลูกคิดแล้วเห็นว่า ราคาลงมามากเกินไป
อาจจะมีแรงซื้อกลับจากกองทุน และต่างชาติ
มีคำแนะนำว่า หากรายย่อยต้องการเก็บหุ้นในช่วงนี้ ควรจะโฟกัสตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก
คือกลุ่มโรงพยาบาล เช่น BCH BDMS IMH
กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ DELTA KCE HANA
ส่วนกลุ่มหุ้นที่จะได้รับประโยชน์หากเกิดการระบาดรอบใหม่ขึ้นมาจริง ๆ เช่น STGT ให้เล่นแบบเก็งกำไรระยะสั้น
แต่หากมีเงินสด จะซื้อถือในระยะปานกลาง หรือยาว
มีคำแนะนำเข้าไปดักเก็บหุ้นในกลุ่ม SET50 ที่ราคาลงมาค่อนข้างมาก
เพราะเมื่อกองทุน และต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อ
ก็จะซื้อในกลุ่ม SET50 เป็นหลักนั้นแหละ