การตลาดมุมกลับ…ต้นทุนต่ำ!!!แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

 

ไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิด ในการออกไอเดียชวนพรรคพวกในวงการโบรกเกอร์  เสนอแนะไอเดียที่ผิดกฎหมายชัดเจน ด้วยการเชิญชวนผ่านเครือข่ายออนไลน์ ให้พากันเข้าไปถล่มเว็บไซต์www.sbito.co.th ที่เพิ่งเปิดตัวให้บริการลูกค้าวันแรกในวันศุกร์ที่ผ่านมา

เว็บไซต์ดังกล่าว ดำเนินการโดย บริษัทหลักทรัพย์น้องใหม่เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด ในเครือข่ายฟินันซ่าที่ถือหุ้น 45% ที่มี นายวราห์ สุจริตกุล เป็นประธานบริษัท

ความจริงแล้ว เครือฟินันซ่ายังมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด(มหาชน) หรือ FSS โบรกเกอร์อันดับ 4 อยู่แล้ว แต่การร่วมทุนกับ SBI ญี่ปุ่น (ซึ่งเจ้าของผู้ก่อตั้ง คือ Softbank ยักษ์ใหญ่ไอทีญี่ปุ่น)ถือเป็นก้าวใหม่ เพราะเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มยุคออนไลน์ ที่ถนัดกับ อี-คอมเมิร์ซ หรือ เอ็ม-คอมเมิร์ซ ซึ่งSBI จากญี่ปุ่น มีเทคโนโลยีเป็นที่หนึ่งของญี่ปุ่น

ที่สำคัญ SBITO ส่งตัวแทนมานั่งเป็นซีอีโอมือฉมังชาวญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นทั่วไปร้องอื้ออึง ชื่อ เมกุมุ โมโตฮิสะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนแรกเริ่มนำระบบซื้อขายออนไลน์มาใช้ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น มาบัญชาการด้วยตัวเอง

ฝีมือบริหารของ โมโตฮิสะ ผสมกับ คอนเน็กชั่น แมน อย่าง วราห์ ถือเป็นปัจจัยแห่งชัยชนะ ของ SBITO

เริ่มต้นด้วยโมเดลการสร้างฐานลูกค้า ที่เมื่อเริ่มต้นก็ฮือฮาเสียแล้ว เพราะไม่มีการแย่งตัวมาร์เก็ตติ้งให้เสียเวลา แต่ด้วยข้อเสนอใหม่

-ลูกค้าต้องเปิดบัญชีผ่านเว็บไซต์www.sbito.co.th และยืนยันตัวตนพร้อมส่งเอกสารประกอบที่ 7-11 ทั่วไทย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

–ระบบการส่งคำสั่ง GTC/GTD ในกรณีที่คำสั่งซื้อหรือขายที่ยังไม่รับการจับคู่ (Unmatched order) ซึ่งปกติจะถูกยกเลิกในสิ้นวันที่ออกคำสั่ง แต่ระบบนี้ เปิดช่องให้นักลงทุนระบุเงื่อนไขวันหมดอายุ (Good Till Cancel (GTC)) หรือ ประเภทระบุวันหมดอายุ (Good Till Date (GTD))  คำสั่งจะถูกส่งไปยังตลาดในวันรุ่งขึ้นทันที ไม่ต้องส่งคำสั่งอีก

–ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า และ มีช่วงโปรโมชั่น 3 เดือนแรกเปิด คิดค่านายหน้าสูงสุด 0.015% สำหรับบัญชี Cash Balance และ 0.02% สำหรับบัญชี Cash Account ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2558 โดยคิดอัตราค่านายหน้าลดลงแบบขั้นบันได ตามมูลค่าซื้อขายต่อวัน

–มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และรักษาความภักดีจากนักลงทุนต่อเนื่อง

จะเรียกSBITO ว่าเป็น โลว์-คอสต์ ออนไลน์ โบรกเกอร์ ก็ไม่ผิด

แม้โอกาสประสบความสำเร็จของSBITO ต้องการเวลาพิสูจน์โมเดลธุรกิจนานทีเดียว แต่กลับมี “ตัวช่วย”ส่งเสริมให้เร็วกว่าปกติ โดยไม่เจตนา

ปฏิบัติการ“รับน้องใหม่”เช้า 16 ตุลาคม จากคนบางกลุ่ม  (ดังภาพประกอบ)ชักชวนให้เข้าถล่มเว็บไซต์อย่างผิดกฎหมายสารพัด ทำให้ชื่อของ SBITO ติดปากผู้คนโดยอัตโนมัติ ทั้งที่ยังไม่มีลูกค้ามากมายอะไรกลายเป็น “แนวร่วมมุมกลับ”ทันที

นายธนัท วงษ์ชูแก้ว ตัวแทนของ  SBITO ระบุว่า พบการเข้ามาโจมตีหน้าเว็บไซต์จากบริษัทหลักทรัพย์ 3-4 ราย และได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะมีผู้ร่วมโจมตีไม่มาก ซึ่งรู้ตัวแล้ว และอยู่ระหว่างแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจมักกะสัน …แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อผู้โจมตี

ปรากฏการณ์ดังกล่าว แทนที่จะได้รับการปกป้อง กลับปรากฏว่า มีรายการ “กินโต๊ะ”ทันที

เริ่มจาก รพี สุจริตกุล เลขาฯ ก.ล.ต. (คนนามสกุลเดียวกับประธาน วราห์) ออกโรงบอกว่า ก.ล.ต.ได้ขอให้ SBITO ชี้แจงและส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ ก.ล.ต. พิจารณาโดยเร็ว เพราะ “หวั่นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโดยรวม”

นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ออกมาเชือดนิ่มๆ ว่า สมาคมฯได้ขอความร่วมมือกับทาง SBITO  ให้คิดค่า “อัตราแนะนำ”เฉลี่ยไม่ควรต่ำกว่า 0.15% แต่ทาง SBITO แจ้งว่าเป็นกลยุทธ์ของทางบริษัท ซึ่งสมาคมฯไม่มีอำนาจลงโทษ หรือบังคับได้ แต่จะขอเวลาดูอีกระยะ หากสร้างความเสียหาย อาจไม่รับ SBITO เป็นสมาชิกของสมาคมฯ

ทว่า สุ้มเสียงที่ดูจะเป็นกลางหน่อย มาจาก นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดฯ (ตลท.) ที่บอกว่า การใช้กลยุทธ์ SBITO เป็นเรื่องการแข่งขัน และ เป็นเรื่องให้นักลงทุนเลือกมากขึ้น  ตลท.คงไม่ได้เข้าไปทำอะไร

ป่านนี้  เมกุมุ โมโตฮิสะ คงซาบซึ้งใจกับยกแรกของการรับน้องใหม่ “แบบไทยๆ” แต่น่าจะภูมิใจไม่น้อยเพราะประสบความสำเร็จในการตลาดสร้างแบรนด์ทางลัด และมีต้นทุนไม่มาก

ทุกอย่างเข้าทาง SBITO หมด…คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม