รีบตุนของ

หลังจากตลาดหุ้นโดนเขย่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนวันหยุดยาวเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาสำหรับตุนของเข้าพอร์ตอย่างเป็นทางการเสียที


*หลังจากตลาดหุ้นโดนเขย่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนวันหยุดยาวเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาสำหรับตุนของเข้าพอร์ตอย่างเป็นทางการเสียที เพราะตัวแปรร้าย ๆ ที่เคยกระทบจิตใจนักเล่นก็คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงไม่มีประโยชน์ที่มานั่งจับเจ่าเพื่อให้เวลาผ่านไปวัน ๆ สู้เอาเวลาที่มีไปเคาะขวาหุ้นที่กำลังฟอร์มตัวสวยดีกว่า บวกกับตอนนี้ก็เป็นจังหวะของการเก็บหุ้นปันผลเป็นประจำทุกปี..เลยไม่มีเวลาอารัมภบทอะไรทั้งนั้นจ้า!

*ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวทั้งในแดนบวกแดนลบ น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยพร้อมสำหรับการทดสอบ และกำลังกรุยทางเพื่อขึ้นไปตั้งฐานเหนือ 1,650 จุดอีกรอบ โดยเที่ยวนี้ต้องพึ่งกำลังจากหุ้นบลูชิพเป็นหลักอีกเช่นเคย ขณะเดียวกันน่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นที่มีโกรทเป็นกำลังเสริม “โมนิก้า” จึงไม่กังวลสถานการณ์ต่อจากนี้จะ “ออกหัว” หรือ “ออกก้อย” เพราะหุ้นยังอยู่ในโมเมนตัมที่ดีไงล่ะคะ

*ส่วนประเด็นที่ต้องมองให้ขาดเวลานี้คือ กองทุนจะซื้อหุ้นอีกนานไหม? และจะขายหุ้นออกมาตอนไหน? เพราะจะเป็นตัวพลิกเกมที่ทำให้ผลออกมาได้ทั้งสองหน้า แต่ถ้าดูจากประวัติเก่าจะเห็นว่า ช่วงนี้เป็นเวลาของสะสมหุ้นเพื่อเอาไปขายปีหน้า ส่วนคนที่ถนัดเล่นแบบเดย์เทรดก็ต้องจับจังหวะเข้าให้ดี ๆ เพราะตลาดหุ้นไทยยังโอนอ่อนตามตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่นะจะบอกให้

*สุดจัดของจริงต้องมองไปที่พ่อดอกมะลิ JAS ก่อนใครเพื่อน เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.24 บาท บวกไป 0.16บาท หรือขึ้นไป 5.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.19 พันล้านบาท มาพร้อมกับข่าวเม้าท์ขายหุ้นให้เจ้าพ่อสื่อสารสีเขียว ซึ่งเป็นดีลเก่าที่เคยเม้าท์กันให้แซ่ดตั้งแต่ปีมะโว้ “โมนิก้า” จึงอยากให้ขาเผือกติดตามเรื่องนี้ให้ดี เพราะไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีข่าวสวอปหุ้นระหว่างค่ายสีแดงกับสีฟ้าไปหยก ๆ น่ะซี

*อีกรายที่ต้องตามดูเช่นกัน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น SVOA หลังระหว่างวันขึ้นไป High 3.32 บาท พร้อมกับเห็นนิวไฮในรอบ 17 ปี 9 เดือน เลยทำให้เชื่อว่า น่าจะมีนิวไฮเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ เพราะธุรกิจยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แถมการเทรดวันนี้ก็อยู่บนค่า PE 17 เท่า แม้ว่าท้ายสุดราคาหุ้นปิดที่ระดับ 3.08 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 709 ล้านบาท ถือเป็นการเซ็ตรอบใหม่ เปิดช่องให้ขาลุยทุกคนตะลุยใส่ไม่ยั้ง จนกลายเป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมไปแล้วเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นติดลมบนที่น่าสนใจขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นต่ำบาทที่กำลังมาแรงอย่าง TRC เป็นตัวเลือกอันถัดมาในการเม้าท์แตก เพราะดูแค่มูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นต่อเนื่อง ย่อมตีความได้ทันทีว่า เที่ยวนี้ซัดกันยาวกระมัง! แถมยังมีลุ้นเรื่องเทิร์นอะราวด์เข้ามาเกี่ยวข้องเสียด้วย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูการยืนปิดที่ระดับ 0.33 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161 ล้านบาท โดนใจขนาดไหนจ้า!

*ส่วนรายที่ต้องเกาะติดเป็นพิเศษคงมองไปที่ UBE เพราะเห็นกันอย่างชัดเจนว่า ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงเติบโต แถมตัวเด่นที่จะมาขับเคลื่อนก็อยู่ในสายที่เป็นอาหารเสียด้วย “โมนิก้า” จึงมองการยืนปิดที่ระดับ 2.28 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.59% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 198 ล้านบาท เหมาะต่อการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว หรือใครจะถนัดเล่นสั้นก็ได้เหมือนกัน เพราะเขาให้ราคาเป้าอยู่แถว ๆ 3.20 บาทนู้นเลยจ้า!

*สำหรับเสือซุ่มอย่าง ORI ก็เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่น่าติดตามเช่นกัน และเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” ชื่นชอบมากเป็นพิเศษก็มาจากบริษัทมีนวัตกรรมให้เห็นตลอดเวลา จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า ปีหน้าคงมีอะไรเด็ด ๆ ออกมาให้เห็นอีก และการที่หุ้นบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 11.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 195 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 9 เท่าแบบนี้..น่าเก็บไหมล่ะคะ

*ในเมื่อต้องการเล่นยาว ๆ “โมนิก้า” คงปันใจให้กับเจ้าพ่อตามเก็บหนี้รายใหญ่ของประเทศไทยอย่าง JMT เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เพราะเมื่อมองดูจากเม็ดเงินที่อัดเข้ามาเพื่อซื้อหนี้มาบริหาร บวกกับราคาหุ้นในกระดานยืนทรงตัวบริเวณนี้มาระยะหนึ่ง จนสุดท้ายหุ้นยืนปิดที่ระดับ 58.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 486 ล้านบาท เหมาะที่จะซื้อลงทุนสุด ๆ พะยะค่ะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นยางหมื่นล้านที่นับวันจะฉายแสงมากขึ้นอย่าง NER ก็เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่น่าเก็บเข้าพอร์ตตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี บวกกับราคาเป้าหมายก็อยู่แถว 10.70 บาท จึงทำให้การยืนปิดที่ระดับ 7.20 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 1.37% ด้วยมูลค่ามูลค่าการซื้อขาย 115 ล้านบาท มีอัพไซด์บานตะไทนะจะบอกให้

Back to top button