โอกาสในวิกฤติของ AQแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

หลังจาก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2555 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กิจการ “เครือกฤษฎามหานคร” ซึ่งรู้จักกันในนาม KMC นั่นเอง ก็มีคำถามตามมามากมายว่า แล้วบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ต้องแบกรับเท่าใด


หลังจาก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2555 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กิจการ “เครือกฤษฎามหานคร” ซึ่งรู้จักกันในนาม KMC นั่นเอง ก็มีคำถามตามมามากมายว่า แล้วบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ต้องแบกรับเท่าใด

เหตุผลก็เพราะ AQ คือ บริษัทที่เปลี่ยนร่างจาก KMC โดยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ทั้งหมด หลังจากการปรับเปลี่ยนมาแล้ว 2 รอบ แล้วใช้ชื่อใหม่ ตามสูตรเพื่อลืมอดีต

เนื่องจากโครงสร้างเดิมของ KMC และเครือข่ายของตระกูล กฤษฎาธานนท์ ในอดีตนั้น ซับซ้อนและสับสนปนเปกันอย่างมาก แยกไม่ออกได้ง่ายๆ ว่า ส่วนไหนเป็นกิจการส่วนตัว ส่วนไหนเป็นบริษัทมหาชน จะโดยจงใจ หรือเพราะความพลั้งเผลอก็ทำให้คนเข้าใจกันไปหมดว่า เป็นเครือข่ายเดียวกัน ทั้งที่ในทางนิตินัยแล้ว หลายบริษัทไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกันในทางนิติกรรมเลย อาจจะมีแค่ผู้ถือหุ้นร่วมกัน หรือ กรรมการบริหารร่วมกัน หรือแม้กระทั่งมีแค่ตำแหน่งสำนักงานเดียวกัน

ชื่อของเครือข่ายธุรกิจภายใต้กลุ่มลูกหนี้ ที่มีนายวิชัย กฤษฎาธานนท์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนั้น ประกอบด้วย

–      บริษัท อาร์เค โปรเฟสชั่นนัล จำกัด กู้เงิน 500 ล้านบาท

–      บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด กู้เงิน 9,900 ล้านบาท (วงเงินไฟแนนซ์ 8,000 ล้านบาท วงเงินซื้อที่ดินเพิ่ม 500 ล้านบาท และวงเงินพัฒนาโครงการ 1,400 ล้านบาท)

–      บริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์คอมมูนิเคชั่น จำกัด วงเงิน 1,185.735 ล้านบาท   

ความเข้าใจดังกล่าว เกิดจากมีคำว่า “กฤษฎา” ปะปนไปในที่ต่างๆ นั่นเอง โดยเฉพาะโกลเด้นฯ นั้นขอกู้เงินไปทำโครงการชื่อ กฤษดาซิตี้ 4000

บริษัททั้ง 3 ที่กู้เงินดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ KMC เลย โดยเฉพาะ โกลเด้นฯ มีบริษัทแม่เป็นตัวเป็นตนชื่อบริษัท โปรเกรส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด และตัวโกลเด้นฯเองก็มีบริษัทย่อยที่ถือครองที่ดินอยู่อีก ชื่อว่า  บริษัท เค แอนด์ วี เอส อาร์ เอส การ์เด้นโฮม จำกัด

บังเอิญ กรรมการคนหนึ่งของ “โกลเด้นฯ” เป็นกรรมการคนหนึ่งใน KMC ด้วย แถมที่ตั้งสำนักงานก็ใกล้เคียงกัน ก็เลยโยงใยกันไปหมดว่าเป็นเครือข่าย KMC ติดร่างแหถูกศาลสั่งเรียกชำระหนี้ร่วมอีก 1,635.73 ล้านบาท

เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ถูกเอากระดูกมาแขวนคอ ชิ้นเบ้อเร่อ

เมื่อเคราะห์ภัยมาเยือน KMC จึงต้องหมองมัว หุ้นร่วงจากระดับ 30 สตางค์ ลงมาเหลือ 9.25 สตางค์ทันควัน หลังมีข่าวคำพิพากษาดังกล่าว

ระหว่างเกิดเรื่อง กรรมการและผู้บริหารหลายคนของ AQ  พากันพร้อมใจกันลาออก 3 คน ประกอบด้วย 1.นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร และ นายฉวิวัชร์ พีชผล ต้องแต่งตั้งคนใหม่เข้าแทน แล้วกรรมการชุดใหม่นี้เองก็เสนอเรื่องเข้าพิจารณา กลายเป็นประกาศที่ฮือฮากับมติ “แปลงวิกฤติ ให้เป็นโอกาส

ที่ประชุมคณะกรรมการ AQ ครั้งที่ 11/2558 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม มีมติอนุมัติเข้าทำสัญญาจัดการทรัพย์สินและแบ่งผลประโยชน์ระหว่างบริษัทฯ กับ บริษัท โปรเกรส พรอพเพอร์ตี้ จำกัด รวมไปถึงมีอำนาจใจการบริหารจัดการทรัพย์ที่มีของ โกลเด้นฯและบริษัทลูก คือ ที่ดินประมาณ 4,323-1-55.90 ไร่ ตั้งอยู่ตามแนวถนนบางนา–ตราด (ทางหลวงหมายเลข 34) ถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ (มอเตอร์เวย์) และวัดเกาะแก้ว

 มติระบุว่า การประเมินมูลค่าของที่ดินของค่ายโกลเด้นฯ ล่าสุดโดยบริษัท เอส.แอล. สแตนดาร์ด แอพไพรซัล จำกัด เมื่อเดือนตุลาคม 2558 พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 13,500 ล้านบาท ราคาประเมินใหม่นี้ สูงกว่าที่เคยให้ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประเมินเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ระดับ 12,321,000,000 บาท

 สรุปแล้ว ที่ดินที่มีอยู่เป็นหลักทรัพย์ที่คุ้มค่าพอจะชำระหนี้ตามที่ศาลได้ตัดสินให้ AQ ร่วมคืนเงิน 10,004.46 ล้านบาท แก่ผู้เสียหาย ซึ่ง โกลเด้นฯ ต้องรับผิดชอบ 8,368.73 ล้านบาท

 ผู้บริหารของ AQ ดีดลูกคิดรางแก้ว พบว่า หากหักกลบมูลค่าที่ต้องชำระคืนธนาคารกรุงไทยแล้ว AQ จะมีที่ดินเป็นทรัพย์สินคงเหลืออีก 5,131.27 ล้านบาท เพียงพอชำระหนี้ร่วมตามศาลสั่งเช่นกัน ไม่เสียหายอะไร

ขุมทรัพย์อย่างนี้ ก็ทำให้ต้องเลยตามเลย ไปเชื่อมโยงกับ โกลเด้นฯ อย่างช่วยไม่ได้

ยังไม่พอ เพราะยังมีเงื่อนไขการเจรจาต่อท้าย โดย AQ ขอให้ระบุลงในข้อตกลงว่า หากสามารถขายทรัพย์สินได้กำไร ก็จะมีการแบ่งกำไรหรือผลประโยชน์กันแล้ว หลักประกันสามารถชำระหนี้ได้ตามคำพิพากษาได้ ทางโกลเด้นฯ จะไม่มาไล่เบี้ยกับ AQ สำหรับหนี้ส่วนต่างระหว่างที่ โกลเด้นฯ ต้องรับผิดชอบคือ 8,368.73 ล้านบาท กับหนี้ส่วนที่ AQ ต้องรับผิดชอบคือ 10,004.46 ล้านบาท

ขั้นตอนหลังจากเสร็จแล้วก็จะไปถึงขั้นตอนอีกทางคือ AQ จะนัดขอเจรจากับผู้บริหารแบงก์กรุงไทย เพื่อขอให้ชะลอบังคับคดี-ประนอมหนี้ โดยเชื่อว่าเชื่อเป็นทางออกที่ดีที่สุดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหนี้-คู่ค้า-ผู้ถือหุ้น-พนักงานและอื่นๆ

มิน่า เมื่อวานนี้ ราคาหุ้น AQ ขยับยิกๆ ไต่ระดับจากจุดต่ำสุดมาปิดที่ 0.25 บาท เพราะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ พ้นจากยุคมืดเสียที

จะไม่กลับไปแปลงโอกาสให้เป็นวิกฤติซ้ำอีก!!

Back to top button