พาราสาวะถี

ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ได้ให้สัมภาษณ์ ระบุที่ประชุมเคาะให้ระงับการเดินทางเข้าประเทศแบบไม่ต้องกักตัวหรือ Test & Go ไปจนถึง 4 มกราคม 2565


ถือเป็นการดำเนินการที่รวดเร็วรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน จากการที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจได้เรียกถกศบค.ชุดใหญ่เป็นวาระด่วนหลังเสร็จสิ้นการประชุมครม. แทนที่จะไปรอประชุมตามรอบตามวาระในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าทันทีหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ได้ให้สัมภาษณ์ ระบุที่ประชุมเคาะให้ระงับการเดินทางเข้าประเทศแบบไม่ต้องกักตัวหรือ Test & Go ไปจนถึง 4 มกราคม 2565

แต่ก็ใช่ว่าจะเบาใจได้ เพราะการชะลอการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go นั้นคือการไม่เปิดให้มีการลงทะเบียนใหม่และรอดูสถานการณ์เท่านั้น ขณะที่มีนักท่องเที่ยวซึ่งได้ลงทะเบียนได้รับการอนุมัติและรอการอนุมัติอีก 2 แสนคน ตรงจุดนี้แหละที่จะต้องวางมาตรการให้ชัด เมื่อเข้ามาโดยระบบไม่ต้องกักตัวแล้ว จะดูแลกันอย่างไรภายใต้สถานการณ์ของโอมิครอนที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง และก็มีบทเรียนให้เห็นจากหญิงผู้ป่วยในประเทศรายแรกมาแล้ว ซึ่งมีสามีนักบินเป็นผู้นำเชื้อมาติด

ประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและระบบในการตรวจจับโรคที่วางกันไว้ไม่มีใครกังขา แต่ในภาวะที่มีเชื้อกลายพันธุ์และเป็นชนิดที่แพร่ระบาดได้เร็ว มาตรการที่เคยผ่อนคลายไปก่อนหน้าจำเป็นต้องเข้มข้นและดำเนินการโดยเร็ว อย่าลืมเป็นอันขาดว่าหลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนจากนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีผู้สัมผัสทั้งเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำตามมาอีกจำนวนมาก ดังนั้นนอกจากยกเลิกรับนักท่องเที่ยวใหม่แล้ว เรื่องการติดตามคนที่เข้ามาแล้ว การขีดวงการแพร่ระบาดเป็นอย่างไรต้องแจ้งประชาชนให้ชัดเจนด้วย

สิ่งสำคัญหลังจากนี้คือ การเดินทางภายในประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่ มาตรการที่ได้ประกาศไปก่อนหน้าซึ่งมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่จะกำหนดความเข้มของการควบคุมนั้น ต้องให้เห็นผลที่เป็นรูปธรรม มิเช่นนั้น จะกลายเป็นการเกิดคลัสเตอร์ใหญ่กระจายไปทั่วประเทศและจะยากต่อการควบคุม ดูแล ที่น่ากังวลมากที่สุดคือกระบวนการรักษาหรือว่าระบบสาธารณสุขที่จะสาหัสสากรรจ์กว่าการระบาดหนักในรอบนี้

ขณะที่อนามัยโพลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ผลที่ออกมาจากการสำรวจความเห็นของประชาชนต่อความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็พบว่า ประชาชนถึง 82% มีความกังวลใจว่าจะมีการระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่ 70% เห็นว่าเป็นช่วงที่มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสเกิดการระบาดใหม่ได้ และกลัวว่าจะมีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศด้วย ในแง่ของประชาชน เรื่องความร่วมมือภายใต้สถานการณ์โควิดมีให้กับภาครัฐอย่างเต็มที่มาโดยตลอดอยู่แล้ว

คงขึ้นอยู่กับฝ่ายบังคับบัญชาและฝ่ายปฏิบัติการว่าจะเคร่งครัดกันขนาดไหน ประเภทที่ว่าช่วงเทศกาลหยวน ๆ กันไปก่อนต้องไม่ให้เกิดขึ้น ใครที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการจะต้องมีการดำเนินการและลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ในแง่ของการป้องกัน หากพิจารณาจากผลโพลก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าต้องเข้มงวดกันจุดไหน ไม่ว่าจะเป็นการรวมกลุ่มในสถานประกอบกิจการหรือกิจกรรมต่าง ๆ การเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ การเดินทางมาจากต่างประเทศ และการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย

ส่วนการปราบปราม ซึ่งใช้คำนี้อาจจะแรงไป เอาเป็นว่าในแง่ของการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่นั้น ทั้งผลโพลที่ออกมาและการวิเคราะห์ นำไปสู่แผนการดำเนินการของภาครัฐก็สอดคล้องต้องกัน นั่นก็คือสถานที่ที่เสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันดับแรกสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ จุดนี้ไม่มีเหตุผลใดที่เจ้าหน้าที่จะละเว้นได้ เพราะที่ผ่านมาถึงยังไม่อนุญาตก็มีการลักลอบเปิดอยู่แล้ว ตรงนี้ต้องเข้มงวดตรวจตรากันหนัก

สำหรับสถานที่อื่น ๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแพร่ระบาด ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ตลาด ห้างสรรพสินค้า และขนส่งสาธารณะ ต่างมีมาตรการที่ออกมากำกับ ควบคุมอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าฝ่ายบังคับใช้กฎหมายจะดำเนินการได้ทั่วถึงหรือไม่ แต่ทั้งหมดจะประสบความสำเร็จได้อยู่ที่จิตสำนึกของผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการ รวมไปถึงความร่วมมือและจิตสำนึกของผู้ใช้บริการด้วย หากการ์ดไม่ตก ช่วยกันเต็มที่ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล

อย่างไรก็ตาม หากยึดตามแนวทางป้องกันแบบครอบจักรวาลที่ทางกระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ การเฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่แม้แต่ภายในบ้านพักของตัวเองก็ต้องรัดกุมด้วยเหมือนกัน การรวมตัวกันของญาติพี่น้องที่มาจากสถานที่ต่าง ๆ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงได้เหมือนกัน การจัดงานจึงควรเป็นสถานที่โล่งอากาศถ่ายเทสะดวก ลดการสัมผัส โอบกอด รวมไปถึงอาหารการกิน ที่อาจต้องมีภาชนะอุปกรณ์ส่วนตัว การเว้นระยะห่าง หากมีกลุ่มเสี่ยงต้องลดการรวมกลุ่ม และควรสวมหน้ากากอนามัย

แน่นอนว่า เมื่อเป็นเทศกาลที่รัฐบาลไม่ได้ประกาศให้มีการยุติการจัดงานหรือกิจกรรมในแต่ละจังหวัดที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านั้น ส่วนของผู้จัดงานคงมีมาตรการที่ถูกบังคับให้ต้องทำอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมคงต้องพิจารณาหลายด้าน อย่างแรกเลยก็คือสถานที่ที่จะไปควรต้องเป็นสถานที่ที่มีการประเมินและได้รับการรับรองมาตรการ COVID-19 Free Setting หรือ SHA PLUS ที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือ การรวมกลุ่มดื่มสุรา ถ้าเห็นว่าสถานที่ใดมีความเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงหรือไม่เข้าร่วมจะเป็นการดีที่สุด

ส่วนเรื่องของขวัญปีใหม่ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจสั่งให้แต่ละกระทรวงไปเตรียมการมานั้น ที่ประชุมครม.วันวานมีการเคาะออกมาแล้วรวม 6 มาตรการ และร่างกฎหมาย 9 ฉบับ ภายใต้สโลแกนส่งความสุขให้คนไทย กระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปีเก่า ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นค่าฟีขายสุรา ยาสูบ ลดภาษีน้ำมันเครื่องบินไอพ่น โครงการช้อปดีมีคืน การลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง การโอนที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้าน รอฟังเสียงสะท้อนหลังจากนี้ ของขวัญที่ทำมานั้น ใครจะได้ประโยชน์หรือเกิดประโยชน์โดยภาพรวมมากน้อยขนาดไหน

Back to top button