CPF เด่นสุด! อานิสงส์ราคา ‘หมู-ไก่’ ฟื้น

สถานการณ์ราคาสัตว์บกเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมืองต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา


เส้นทางนักลงทุน

สถานการณ์ราคาสัตว์บกเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้นมากในเดือนธันวาคมนี้ โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเปิดเมืองต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

สำหรับราคาหมูไทยมีแนวโน้มดีขึ้นในเดือนธันวาคม โดยในช่วงต้นเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ราว 82-83 บาทต่อกก. และช่วงกลางเดือนปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ราว 88-89 บาทต่อกก. ซึ่งปรับตัวดีขึ้นราว 20% จากเดือนก่อนหน้า และด้วยราคาเฉลี่ยไตรมาส 4 ปี 2564 ล่าสุดดีขึ้นราว 20% จากไตรมาสก่อนหน้า ด้วยเช่นกัน

ด้านราคาไก่ในช่วงเดือนธันวาคม ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ราว 38-43 บาทต่อกก. ซึ่งปรับตัวขึ้นราว 19% จากเดือนก่อนหน้า และค่าเฉลี่ยไตรมาส 4 ปี 2564 ล่าสุดดีขึ้นราว 10% จากไตรมาสก่อนหน้า

ส่วนราคาหมูในประเทศจีนและเวียดนามเริ่มฟื้นตัวขึ้นด้วย แม้ว่ายังมีปัจจัยกดดันก็ตาม ในส่วนของราคาหมูในจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 20 หยวนต่อกก. จากจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ราว 10 หยวนต่อกก. ขณะที่ราคาหมูเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 4.3 หมื่นดองต่อกก. จากจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ 3.5 หมื่นดองต่อกก. ซึ่งเป็นการฟื้นตัวหลังจากมาตรการปิดเมืองและควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายลง ทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยกดดัน โดยสำหรับประเทศจีน การเพิ่มผลผลิตจากผู้ผลิตรายใหญ่ยังเป็นปัจจัยกดดันราคาขาย ขณะที่ในเวียดนามยังมีการระบาดของโรค ASF ในบางพื้นที่ ทำให้เกษตรกรบางส่วนเทขายหมูออกมาเพื่อป้องกันความเสี่ยง เป็นปัจจัยกดดันราคาระยะสั้นอยู่

เนื่องด้วยราคาหมูและราคาไก่ที่ปรับตัวดีขึ้นช่วงเดือนธันวาคมทั้งในประเทศไทย ประเทศจีน และประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT และ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG

ขณะที่ทาง บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สำหรับปัจจัยด้านราคาสัตว์บกฟื้นตัว มอง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF จะฟื้นตัวได้ดีที่สุด เนื่องจากราคาสัตว์บกไทยในช่วงปิดเมืองอ่อนตัวลงมาไม่มากเมื่อเทียบกับในจีนและเวียดนาม ซึ่งสำหรับ CPF เอง นอกจากจะได้รับผลกระทบในด้านราคาขายที่ลดลงในไตรมาส 3 ปี 2564 แล้ว ยังได้รับผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีของเวียดนามและจีน ที่ให้บันทึกผลขาดทุนจากการวัดมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพอีกด้วย

ทั้งนี้ทำให้ในไตรมาส 4 ปี 2564 ราคาสัตว์บกที่กลับตัว จะทำให้มีการบันทึกกำไรจากการวัดมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพกลับมาส่วนหนึ่ง นอกจากราคาสัตว์บกที่ฟื้นตัวแล้ว ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงยังเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออกและการบันทึกงบการเงินภายหลังการแปลงค่าเงิน โดย CPF ที่มีสัดส่วนรายรับจากต่างประเทศและการส่งออกราว 70% จะได้รับผลบวกค่อนข้างมาก เทียบกับ TFG ที่ราว 30% และ GFPT ที่ราว 18%

ดังนั้นมอง CPF เป็นหุ้นเด่นสำหรับผู้ผลิตสัตว์บก โดยให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท อิง PBV 1.2 เท่า

สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับ บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มการดำเนินงานปกติไตรมาส  4 ปี 2564 ทาง CPF คาดคงฟื้นตัวไม่มากแม้ราคาหมูในจีนฟื้นตัว แต่หากราคาในเวียดนามยังไม่ฟื้นตัวจากโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ ขณะที่ไทยนั้นพบว่าราคาหมูและไก่ฟื้นตัวขึ้นส่วนหนึ่ง เป็นผลจากต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น และช่วงก่อนหน้าจากการระบาดโควิด-19 ในไทยส่งผลให้ปริมาณการเลี้ยงและเชือดลดลง ทำให้ผลผลิตน้อยลง และเป็นปัจจัยให้ราคาปรับขึ้นมาสะท้อนปัจจัยดังกล่าว

ขณะที่การดำเนินงานจากประเทศอื่น ๆ คาดจะฟื้นตัวหลังโควิด-19 คลี่คลายเช่นกัน หนุนต่อการดำเนินงานปกติในไตรมาส 4 ปี 2564 ฟื้นตัวได้ แต่คาดจะมีรายการพิเศษในมูลค่าที่มากจากการเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนจากเดิมที่ลงทุนในโลตัสส์เป็น MAKRO และการร่วมขายหุ้น MAKRO ราว 100 ล้านหุ้นออกมาพร้อมกับการขายหุ้นเพิ่มทุนด้วย และคาดจะไม่มีขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพในจำนวนที่มากอย่างไตรมาสก่อนหน้าจากราคาเนื้อสัตว์ที่ฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี คาดการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 3 ปี 2564 และคาดจะเห็นการฟื้นตัวจากราคาเนื้อสัตว์ที่ ดีขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ อีกทั้งแนวโน้มการดำเนินงานปี 2565 จะกลับมาสดใสอีกครั้งหลังทุกอย่างคลี่คลาย ราคาปัจจุบันทางฝ่ายปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ปรับราคาพื้นฐานเป็น 29 บาท

ส่วน บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่าด้วย บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และคาดจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปี 2564 ตามแนวโน้มราคาเนื้อไก่หน้าฟาร์มที่ปรับขึ้นแรงจากจุดต่ำสุด 28.50 บาทต่อกก. ในเดือนสิงหาคมมาสู่ระดับ 37.50 บาทต่อกก.

อีกทั้งทางกลับกันคาดราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ถั่วเหลือง-ข้าวโพด) ที่ปรับลงมาต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 จะเริ่มสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบในไตรมาสนี้ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นบวกต่อการส่งออกเนื้อไก่ ที่สำคัญคาด Forward PE ปี 2565 คาดจะลดลงเหลือ 13.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 16.8 เท่า โดยคาดกำไรปี 2565 พลิกกลับมาที่ระดับ 1 พันล้านบาท

 ดังนั้นยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เป้าพื้นฐาน 12.80 บาท

ทั้งนี้เป็นการหยิบยกจากบทวิเคราะห์ที่มีการประเมินเบื้องต้นว่าผลประกอบการของ CPF และ GFPT จะฟื้นตัวตามราคาหมู-ไก่ฟื้นตัวดีขึ้นในประเทศไทย รวมถึงจีนและเวียดนาม

Back to top button