SINGER ยอดขายสินค้าเติบโตเด่นปี 65

คุณค่าบริษัท                  

มีการวิเคราะห์กันว่า แนวโน้มรายได้จากการขายสินค้าในปี 2565 ของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER จะขยายตัวสูงกว่าฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จากเดิมเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดยได้ผลบวกจากร่วมทุนกับกลุ่ม BTS ในด้านเพิ่มสินค้าที่จำหน่ายจากสินค้าแบรนด์ Xiaomi, Amazfit ผ่านความร่วมมือกับ Fanslink (บริษัทย่อย VGI) นอกจากนี้ยังมีความรวดเร็วในการขนส่งสินค้าผ่านเครือข่ายของ KEX และเพิ่มการรับรู้สินค้า และบริการในกลุ่ม SINGER ผ่านสาขาที่จะทำเป็นจุด drop point สินค้าของ KEX

อีกทั้งบริษัทฯ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า Online ในรูปแบบสินค้าเงินสด และเงินเชื่อ ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบให้สามารถให้สินเชื่อออนไลน์ผ่านระบบ e-Document ได้

รวมทั้งมีความกังวลต่ำต่อการเข้ามาของผู้ประกอบการในธุรกิจ Buy now pay later (BNPL) เนื่องจากบริษัทมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง ที่มีต้นทุนการผลิต และการดำเนินงานที่ต่ำ และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง ทำให้บริษัทมีสินค้าที่รองรับการขาย และให้สินเชื่อได้ตลอดเวลา ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นจะต้องติดต่อหา partner เพื่อจัดหาสินค้าให้ อีกทั้งบริษัทมีประสบการณ์ และความสามารถในการบริหารจัดการสินค้าที่รองรับการขาย และการจัดการสินค้าที่ยึดคืนมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม บล.เคทีบีเอสที ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 1.15 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการปรับเพิ่มรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเป็น 25% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากเดิมเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลด cost to income ลงเล็กน้อยประมาณ 11% เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าใช้จ่ายดำเนินงานในอนาคตที่จะทยอยปรับตัวลงจากความร่วมมือของ GUNKUL, JMART และ SINGER ที่จะมีการติดตั้ง solar rooftop ในสาขา SINGER เพื่อลดค่าไฟ

ขณะที่คงประมาณการสินเชื่อที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง (D/E ต่ำเพียง 0.5 เท่า) และมีแหล่งเงินทุนที่สูงเพื่อรองรับการขยายตัว ภายหลังที่บริษัทได้เพิ่มทุน PP และ RO แล้วเสร็จในวันที่ 17 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ส่วนประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 นี้อยู่ที่ 664 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ NPL ที่ลดลงเป็น 3.2% จากสัดส่วนสินเชื่อ C4C ที่มี NPL ต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 67% ของสินเชื่อรวม (ปี 2563 ที่ 52%)

อย่าวไรก็ตาม ด้วยผลของการปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น เพื่อสะท้อนผลจากการร่วมทุนกับกลุ่ม BTS ที่มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ประเมินว่า SINGER ควรที่จะเทรด premium มากขึ้น จากสินเชื่อที่จะขยายตัวอยู่ในระดับสูง, ลดความกังวลต่อปัญหา NPL ที่สูงในอดีต และได้ Synergy กับกลุ่ม JMART และ BTS

ดังนั้นปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 58.00 บาท แนะนำ “ซื้อ”

…..

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) 175,499,740 หุ้น 34.64%
2. นายเชาว์ การะ 20,720,900 หุ้น 4.09%
3. น.ส.กุลิสรา การะ 19,763,700 หุ้น 3.90%
4. นายสถาพร งามเรืองพงศ์ 18,936,700 หุ้น 3.74%
5. นางมณีรัตน์ งามเรืองพงศ์ 14,854,500 หุ้น 2.93%

รายชื่อกรรมการ

1. นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานกรรมการ
2. นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่, กรรมการ
3. นางนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน กรรมการ
4. นายปิยะ พงษ์อัชฌา กรรมการ
5. พล.ร.อ.นวพล ดำรงพงศ์ กรรมการ