ฝรั่งตบเท้าซื้อ

วานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 6,131 ล้านบาทนับเป็นการซื้อต่อเนื่องติดต่อกัน 7 วัน รวมกว่า 19,461 ล้านบาท


วานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 6,131 ล้านบาท

นับเป็นการซื้อต่อเนื่องวันที่ 7 ติดต่อกันแล้ว

ทำให้ 7 วัน (ทำการ) ย้อนหลัง ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยรวมกว่า 19,461 ล้านบาท

ส่วนนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่าง ๆ ซื้อสุทธิเล็กน้อยเมื่อวานนี้ 600 ล้านบาท

แต่หากดูย้อนหลังไป 7 วัน กองทุนจะขายมากกว่า

มาดูประเด็นเรื่องของกองทุนกันก่อนที่ขายกันมาตลอด

เข้าใจว่า ปัจจัยหลัก ๆ น่าจะมาจากการขายหุ้นเพื่อ “ปรับพอร์ต” บ้างบางส่วน และบางส่วนมีการขายหุ้น MAKRO ออกมา เพื่อบันทึกกำไร

ส่วนบางกองทุนขายเพื่อถือเงินสด เตรียมเงินไว้สำหรับกองทุน LTF (ของปี 2559) ที่จะครบไถ่ถอนในช่วงต้นปี 2565

เราจึงเห็นแรงขายจากนักลงทุนจากกลุ่มกองทุนออกมาต่อเนื่อง

จากข้อมูลที่ได้รับพบว่า ณ ปัจจุบัน กองทุนไม่ได้ถือเงินสดมากมายอะไร

หรือน่าจะอยู่ราว ๆ 2.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 3.2% ของสินทรัพย์ลงทุนเท่านั้น

แรงซื้อจากกองทุนจึงยังไม่มี

หรือหากมีก็อาจไม่มากนัก

และอย่าลืมว่า เม็ดเงินที่เคยเข้ามาช่วงปลายปีอย่างกองทุน LTF ก่อนหน้านี้นั้น

หลังมีการยกเลิกเกี่ยวกับสิทธิทางภาษี

เงินในส่วนนี้หายไปพอสมควร หรือประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท (ในเดือนธันวาคมของทุกปี)

ถือว่าแรงส่งตลาดหุ้นในช่วงปลายปีที่เคยได้รับจากกองทุน น่าจะหดหายไปพอสมควร

ส่วนที่ต่างชาติกลับเข้ามาซื้อ เท่าที่หาข้อมูลมาได้จากบุคคลในวงการตลาดทุนยังมีมุมมองที่แตกต่างกันบ้าง

บางคนมองว่าน่าจะแรลลี่ไปจนถึงต้นปี 2565

เพราะต่างชาติกลับมาให้น้ำหนักกับการระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน “ลดน้อยลง” และหันมาให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น

และอาจประเมินกันว่า รัฐบาลไทยไม่น่าจะใช้นโยบายปิดประเทศ หรือล็อกดาวน์

หากเป็นแบบนั้น โอกาสที่ตัวเลขจีดีพีของไทยในปี 2565 ที่คาดกันว่าจะเติบโต 3.8–4% น่าจะมีความเป็นไปได้

จึงทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของเงินทุนเข้ามายังตลาดหุ้น

และจะเห็นว่า ต่างชาติโฟกัสเข้าไปยังหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก

อย่างเมื่อวานนี้ชัดเจนมาก ไล่ซื้อทั้ง KBANK BBL SCB และ TISCO

ส่วน TTB ยังไม่มีข้อมูลว่านักลงทุนกลุ่มไหนมาไล่ซื้อ เป็นต่างชาติหรือไม่

หรือว่าเป็นกลุ่มนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย

ส่วนนักวิเคราะห์บางคนยังไม่มั่นใจว่าต่างชาติจะเข้ามาต่อเนื่อง

และที่เข้ามาลงทุนกันอยู่ในตอนนี้ อาจะเป็นกองทุนที่เก็งกำไรช่วงสั้น เช่น เข้ามาซื้อช่วงปลายปี แล้วไปขายช่วงต้นปี มกราคม-กุมภาพันธ์ 65

เหตุผลเพราะยังไม่เห็นปัจจัยบวกของไทยอย่างมีนัยสำคัญ

แม้ว่าล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง จะออกมามองเป้าหมายดัชนีปี 2565 อยู่ระหว่าง 1,750–1,800 จุด

ส่วนต่างชาติที่เข้ามาซื้อจะเป็นฝรั่งหัวขาว หรือหัวดำนั้น

ในเมื่อเข้ามาซื้อแล้ว

ก็นับว่าซื้อแล้วกันน่ะ

Back to top button