หุ้นขายฝันแห่งอนาคต

ราคาหุ้น บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ถือได้ว่าเป็นราคาหุ้นที่พุ่งแรงมาก นับตั้งแต่การเข้ามาอยู่ใต้ร่มธงของค่ายพลังงานอย่าง EA ชนิดที่สวนทางกันผลประกอบการที่ติดลบจากการขาดทุนมากขึ้นกว่าเดิม

ราคาหุ้นที่วิ่งสวนทางกับผลประกอบการดังกล่าว เกิดจากความเชื่อมั่นในอนาคตของกิจการจากการเป็นเครือข่ายของหุ้นบริษัท EA ที่วิ่งเอา ๆ จนเกือบจะทะลุแนวต้าน 100 บาทไปแล้ว

การวิ่งขึ้นสวนทางกับผลประกอบการของ NEX จึงอิงเข้ากับอนาคตของ EA อย่างแยกไม่ออก

ความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นจะเป็นประเด็นท้าทายต่อราคาของ NEX หรือไม่ เป็นคำถามที่ท้าทายนักลงทุน ขนาดนักวิเคราะห์ที่ออกแรงเชียร์กันอยู่เห็น ๆ ยังต้องบอกว่าราคาที่วิ่งเหนือ 20 บาท นี้ราคาเกินพื้นฐาน ที่ให้แค่ 15 บาท …… ก็ยังหาคนใส่ใจได้ต่ำกว่าปกติ

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนหรือคุณตลาด ต่อราคาหุ้น NEX จะเข้าข่าย “ความหลงชนิดที่เรียกว่าตาบอด” หรือ blind faith หรือไม่ ต้องการเวลาพิสูจน์นานพอสมควร

ดูจากข้อมูลทางการเงินในอดีต หลังจากที่กลุ่ม EA เคลื่อนตัวเข้าเทคโอเวอร์บริษัทในตลาดหุ้นที่มีฐานะการเงินย่ำแย่อยู่เดิม เมื่อกลางปี 2563 โดยผ่านการเข้าถือของบริษัทในกลุ่มคือ อีเอ โมบิลิตี โฮลดิง (EMH) แล้วอัดฉีดทุนใหม่เข้าไปอีกจากการเพิ่มทุน 1.07 พันล้านบาท ในราคาเพิ่มทุนมีพรีเมียม 2.20 บาทต่อหุ้น จนทำให้บริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้นมากกว่า 3.0 พันล้านบาท ไม่ต้องกังวลกับช่วงของการขาดทุนที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ยังไม่มีรายได้และกำไรที่เข้ามามากเพียงพอ

EMH เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงแก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ของ NEX จำนวนไม่เกิน 670 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 40% หลังการเพิ่มทุน มูลค่ารวมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่ง NEX เป็นผู้ประกอบชิ้นส่วนและจัดจำหน่าย รวมถึงให้บริการหลังการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รถยนต์โดยสาร รถบัสโดยสาร และอื่น ๆ รถยนต์เชิงพาณิชย์ และรถยนต์ส่วนบุคคล

เงื่อนไขสำคัญของการเข้าซื้อกิจการบางส่วน โดยยังไม่มีนโยบายเข้าซื้อกิจการทั้งหมด หรือ ส่งบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทางอ้อม (Backdoor Listing) และพอใจในการถือหุ้นสัดส่วน 40% ซึ่งบริษัทได้ยื่นขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Whitewash) ต่อก.ล.ต. เนื่องจากการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวเป็นการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ ไม่ได้ซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม จึงมีสิทธิในการขอผ่อนผันทำคำเสนอซื้อ

ผลพวงจากการที่เพิ่มทุนใน NEX จนมีฐานทุนที่ใหญ่กว่าแม่อย่าง EA ที่มีทุนจดทะเบียนแค่ 370 ล้านบาทแล้ว ก็ยังทำให้รายได้ของบริษัทพุ่งพรวดเกิน 1 หมื่นล้านบาท แล้วการทำให้ทิศทางธุรกิจของ NEX ชัดเจนขึ้น มีการทำปรับเปลี่ยนนโยบายมาให้เป็นบริษัทจัดหาเครื่องยนต์สำหรับรถไฟฟ้าที่ใช้ในรถบรรทุกหรือขนส่งขนาดใหญ่ หรือรถยนต์โดยสารโดยไม่ต้องรอช้าตามสไตล์บุกแหลกของสมโภชน์ อาหุนัย และพลพรรคแห่งค่าย EA

ระหว่างช่วงกลางปี 2563-64 ผลประกอบการที่ยังไม่ทำกำไร และยังไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวใหญ่โต ราคาหุ้นของ NEX แกว่งไกวอยู่ในระดับต่ำแถว ๆ 7-8 บาทต่อหุ้น แต่เพิ่งจะมาทะยานขึ้นแรงในไตรมาสที่สี่ของปีที่ผ่านมา จากข่าวการเคลื่อนตัวจับมือให้บริการกับพันธมิตรรายใหญ่แบบ B2B กับร่วมทดสอบยานยนต์หัวลากไฟฟ้ากับ บริษัท มนต์ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นผู้ขนส่งสินค้าให้กับทางภาคอุตสาหกรรม บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) บริษัทในกลุ่ม บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด โดย EA Anywhere ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และบริษัท สยามมิชลิน จำกัด ผู้ผลิตยางรถยนต์ เพื่อทำการทดสอบยานยนต์หัวลากไฟฟ้าสำหรับนำไปใช้ในการขนส่งสินค้าทดแทนรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซล

การได้ลูกค้าที่มั่นคงยั่งยืนอย่างบริษัทมนต์ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านการขนส่งสินค้าให้กับภาคอุตสาหกรรม ด้วยการนำรถหัวลากไฟฟ้าไปใช้ในการขนส่งสินค้าแทนรถบรรทุกเดิมที่ใช้งานอยู่ ถือเป็นก้าวใหญ่ที่เป็นหลักประกันในอนาคตให้กับ NEX และ EA อย่างมีนัยสำคัญ

แผนการที่เคยกล่าวเอาไว้ว่าจะคืนทุนจากการที่กลุ่ม EA เข้าไปร่วมลงทุนใน NEX จึงเป็นพื้นฐานสำคัญรองรับการเติบโตของรายได้และกำไรที่ NEX จะได้รับจากกลยุทธ์ดังกล่าว แต่การที่ราคาหุ้น NEX วิ่งแรงจนเสมือนไร้แนวต้านก็ถือเป็นความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนที่เกินเลยได้เช่นกัน

เว้นเสียแต่จะคิดเหมารวมว่า ขนาดยักษ์ใหญ่อเมริกาอย่างกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า เทสล่า ราคาหุ้นยังวิ่งแรงทั้งที่ไม่เคยทำกำไรได้เลย…ก็เป็นวิธีคิดที่น่าสนใจ แต่จะถูกต้องหรือไม่สุดแท้แต่พี่ท่านคุณตลาดที่จะเล่นเกมหุ้นกันเอง……คนอื่นไม่เกี่ยว…ก็ไม่เป็นไร

รักเอง…ก็คงต้องช้ำเองนะ คุณเพ่ …อย่าโวยก็แล้วกัน

เพราะว่างานนี้ตอนทับไม่ร้อง  ตอนท้อง…จะให้รับก็กระไรอยู่นา