เปิด 4 หุ้นลิสซิ่ง โบรกฯ ชี้กำไรปี 65 เด่น!

แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 65 ของหุ้นลิสซิ่งยังสดใส ขยายตัวดี ไม่ว่าจะเป็นด้านพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น


เส้นทางนักลงทุน

ผลสำรวจเบื้องต้นจากบทวิเคราะห์ถึงบริษัทจดทะเบียนกลุ่มสินเชื่อ (ลิสซิ่ง) พบว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 ยังคงสดใส ขยายตัวได้ดี ไม่ว่าจะเป็นด้านพอร์ตสินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น ควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้จากบทวิเคราะห์ของ บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์น่าสนใจถึงแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตัวอย่างได้แก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR, บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI และ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC

สำหรับ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD คาดการณ์ผลประกอบการปี 2565 กำไรสุทธิราว 5.4 พันล้านบาท ขยายตัว 10.5% ซึ่งจากสินเชื่อเติบโต 20% จากการเพิ่มพอร์ตสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี Yield ค่อนข้างสูง ส่งผลต่อ NIM ปรับตัวขึ้นตามเป็น 17.4% และยังได้แรงหนุนจากการขยายสินเชื่อผ่าน ธ.ออมสินมากขึ้น

พร้อมด้วยรายได้ Non-NII ที่คาดว่าจะขยายตัว 13.4% โดยเฉพาะจากการ cross selling กับ ธ.ออมสิน คาดปีนี้จะได้กำไรจาก บ.ร่วมราว 40 ล้านบาท และค่าคอมมิชชั่นจากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบผ่อนชำระ

รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ลดลงหลังการปรับระบบหลังบ้าน สะท้อนผ่านสัดส่วนต้นทุนผ่านรายได้ที่ลดลงเหลือ 34% ส่วนการตั้ง Credit cost ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 75.2 bps และ NPLs ratio ทรงตัวต่อจากปี 2564 ที่ระดับ 3.8%

อย่างไรก็ดี SAWAD โดดเด่นด้วยการฟื้นตัวของสินเชื่อจากการเป็นพันธมิตรร่วมกับออมสิน ส่งสริมให้ NII และ Non-NII ขยายตัวตาม รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่มีระบบมากขึ้นช่วยลดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ปี 2565 จะมีการกลับมาตั้งสำรองอีกครั้ง ขณะที่ยังมีความเสี่ยงที่รออยู่ อย่างการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ที่ 20% และสินเชื่อเช่าซื้อที่ระดับ 20% จาก สคบ. ที่จะมีการ hearing รอบที่ 2 ต้นปีนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 75.00 บาท

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR คาดการณ์ผลประกอบการปี 2565 กำไรสุทธิที่ 3.9 พันล้านบาท ขยายตัว 24.5% ตั้งเป้าสินเชื่อขยายตัว 13.5% จากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นผ่าน BAY โดย TIDLOR เป็นผู้นำสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน แก่กลุ่มลูกค้าภายในประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารพาณิชย์ได้ (untapped market)

นอกจากนี้ยังตั้งตัวแทนสำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกเพิ่มขึ้น ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแรง มี NPLs ratio ทรงตัวต่อเนื่องจากปีก่อนที่ระดับ 2% ขณะที่รายได้ Non-NII ยังช่วยเสริมสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งจากการใช้ IT platform และการเสนอสินเชื่อประกันภัยอัตราดอกเบี้ย 0% ที่จะช่วยให้ยอดขายประกันเติบโต ในแง่การลดค่าใช้จ่าย TIDLOR ได้ลงทุนกับระบบ IT พอสมควรแล้วมองว่า C/I จะเริ่มปรับตัวลงมาที่ 55%

ส่วนต้นทุนด้านเครดิตประเมินว่าจะอยู่ที่ระดับ 100% และมีแผนการกลับรายการสำรองบางส่วนในปี 2565 ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว (บริษัทมีส่วนของ management overlay ราว 500 ล้านบาท) ขณะที่ Coverage ratio สิ้นงวด เท่ากับ 326% สูงที่สุดในกลุ่ม

ทั้งนี้ TIDLOR จากจุดเด่นการเป็นผู้ให้สินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ขนาดใหญ่แบบ untapped market และการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ทำให้แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับสูงกว่ากลุ่ม ด้านรายได้ค่านายหน้าจากการประกันยังเติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงเกิด economy of scale จากการลดจำนวนพนักงานต่อสาขา ซึ่งช่วยให้ C/I ลดลง ขณะที่ยังมีแนวโน้มที่ TIDLOR จะกลับรายการตั้งสำรองบางส่วน ทำให้ Credit cost มีแนวโน้มลดลง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 55.50 บาท

บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI   คาดการณ์แนวโน้มปี 2565 กลับมาสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 จากการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุก และรถยนต์ใหม่ โดยตั้งเป้าสินเชื่อจะเติบโต 8% มูลค่าพอร์ตราว 5.4 หมื่นล้านบาท ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ-เอกชน ที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยหนุนความต้องการสินเชื่อ รวมถึงแนวโน้มยอดขายรถบรรทุกภายในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตาม ขณะที่สินเชื่อในกลุ่มรถบัสและ Taxi ยังอ่อนแอ เนื่องจากยังไม่ฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยว แต่คาดหวังว่าในงวดครึ่งหลังของปี 2565 จะกลับมาฟื้นตัว

นอกจากนี้ THANI อยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาตสินเชื่อจำนำทะเบียนจาก ธปท. คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 คาดว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อราว 1.0 พันล้านบาท โดยมีข้อดีในแง่ของ Yield ที่สูงมากราว 20% เทียบกับ Yield ปัจจุบันที่ 7% ขณะที่ Credit cost มีแนวโน้มลดลงเหลือเพียง 92% จะช่วยหนุนผลประกอบการให้เติบโต ทั้งนี้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 1.86 พันล้านบาท ขยายตัว 14%

ทั้งนี้ THANI มีจุดเด่นในความเป็นผู้นำการให้บริการสินเชื่อรถบรรทุกรายใหญ่ของประเทศ และแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 เชื่อว่าจะกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้จากการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกได้มากขึ้น รวมกับ แนวโน้มสินเชื่อในรถบัสและ Taxi จะกลับมาฟื้นตัวช่วงกลางปีตามภาคการท่องเที่ยว รวมถึง การเริ่มมาทำพอร์ต High yield อย่างการทำสินเชื่อจำนำทะเบียน ช่วยหนุนให้ Yield ปรับตัวขึ้น แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” มีราคาเป้าหมาย 4.96 บาท

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC  คาดการณ์แนวโน้มปี 2565 ตั้งเป้าสินเชื่อขยายตัว 15% ผ่านการขยายตัวของสาขาที่เพิ่มขึ้น เป็น 6,300 สาขา จากสิ้นปี 2564 ที่มีสาขาราว 5,700 สาขา ขณะที่แรงกดดันจาก Loan yield เริ่มลดลง หลังจากได้รับผลกระทบในส่วนเกณฑ์ตัดชำระหนี้ใหม่ของ ธปท. ที่ทำให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ได้เร็วขึ้น

Back to top button