พาราสาวะถี
ไม่ว่าชัยชนะจะตกเป็นของใคร พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม หรือพรรคสืบทอดอำนาจ ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล
เสร็จศึกเลือกตั้งซ่อมที่เขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา ไม่ว่าชัยชนะจะตกเป็นของใคร พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม หรือพรรคสืบทอดอำนาจ ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนคำถามที่ว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและรัฐบาลเรือเหล็กหรือไม่ เพราะพรรคเก่าแก่ดูเหมือนว่าจะไม่พอใจเป็นอย่างมากที่พรรคแกนนำไม่มีมารยาทส่งคนมาลงชิงเก้าอี้ของเพื่อน ฟันธงได้เลยไม่มีอะไรในกอไผ่
ท่วงทำนองที่แสดงออกบนเวทีปราศรัยยิ่งไม่ต้องไปใส่ใจ คงไม่มีใครเมื่อก้าวไปบนเวทีแล้วจะถ้อยทีถ้อยอาศัยกับคู่แข่ง ยิ่งเป็นการแข่งขันที่แพ้ไม่ได้แล้วยิ่งต้องใส่กันยับ เช่นเดียวกันกับบทสัมภาษณ์ของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคเก่าแก่ ก็เป็นไปตามหลักการ และถ้าเป็นพวกที่ยึดมั่นในหลักการจริง เหตุไฉนข้อตกลงตอนตั้งรัฐบาลใหม่ ๆ ที่พูดกันว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลเสียที่นั่ง จะไม่ส่งคนลงไปแข่ง ถ้าไปแข่งกับฝ่ายค้านไม่มีปัญหา สุดท้ายข้อตกลงนี้ถูกละเมิดไป แต่พรรคเก่าแก่ก็ยังร่วมรัฐบาลอย่างเหนียวแน่น
ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้ไม่กี่วันก่อนที่จะมีการหย่อนบัตรเลือกตั้ง จึงเป็นเพียงแค่การเรียกคะแนนเสียงโค้งสุดท้าย ถ้าขึงขังเอาจริงเอาจัง ก็ให้เป็นอย่างที่ เทพไท เสนพงศ์ เสนอความเห็น คำเตือนของจุรินทร์ไม่สามารถจะทำให้พรรคสืบทอดอำนาจในฐานะแกนนำรัฐบาล รู้สำนึกถึงความมีมารยาททางการเมืองได้ พรรคประชาธิปัตย์ควรจะยื่นคำขาดไปว่า ถ้าพรรคแกนนำรัฐบาลส่งคนแข่งขันเลือกตั้งซ่อมกับพรรคเก่าแก่ พรรคจะขอทบทวนการเข้าร่วมรัฐบาล หรือจะขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
แต่ต้องถามย้อนกลับไปที่เทพไทด้วยว่า ความจริงแล้วทำเช่นนั้นได้หรือไม่ ขนาดที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สละเก้าอี้ส.ส.และหัวหน้าพรรคของตัวเองไปแล้ว เพื่อแสดงออกถึงการรักษาจุดยืนอันหนักแน่น ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของพรรคเก่าแก่ที่นับวันจะเหลือน้อยหรือหายไปตามกาลเวลา คำว่าพรรคแกนนำไม่ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน จึงไม่สามารถทำงานร่วมกันได้นั้น ระหว่างเกียรติและศักดิ์ศรีกับผลประโยชน์คนในพรรคของเทพไทเลือกอะไร สิ่งที่เห็นและเป็นไปก็ชัดเจนอยู่แล้ว
เช่นเดียวกันกับที่เทพไทบอกว่า ถ้ายื่นคำขาดเรื่องการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล พรรคสืบทอดอำนาจคงไม่กล้าส่งผู้สมัครลงแข่งขันด้วย หรือไม่ก็จะเห็นผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องออกมาหย่าศึก จะไม่วางเฉย ลอยตัวอยู่เหนือความขัดแย้งเหมือนตอนนี้อย่างแน่นอนนั้น มันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่เวลานี้ บางทีผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็อยากให้มีอุบัติเหตุทางการเมืองเสียด้วยซ้ำไป จะได้อาศัยช่วงชุลมุนลงจากหลังเสือแบบสวยงาม
ที่เคยบอกว่าจะลงจากหลังเสือต้องฆ่าเสือก่อนนั้น เป็นคำพูดในวันที่มีหัวโขนของความเป็นหัวหน้าเผด็จการคสช. แต่พอโหมดการเมืองเปลี่ยน อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่เคยใช้ขู่ได้ทั่วสารทิศ วันนี้แม้จะมีกลไกที่วางไว้คอยค้ำยัน และสามารถชี้นิ้วสั่งให้เล่นงานใครก็ได้ มันก็ใช้ได้ในยุคที่คะแนนนิยมของตัวเองติดลมบน ในเวลานี้ที่ความชื่นชอบต่ำเตี้ยเรี่ยดิน นอกจากไม่เกิดประโยชน์และสร้างความได้เปรียบแล้ว มันยังจะวกกลับมาทำร้ายตัวเองอีกต่างหาก
อาการของเนติบริกรข้างกายที่อยากจะเกษียณไปเลี้ยงหลานเต็มทนแล้วนั้น บ่งบอกได้เป็นอย่างดีต่อให้เป็นศรีธนญชัยขนาดไหน แต่ฝ่ายกุมอำนาจมีเรื่องให้ปวดหัว คอยตามล้างตามเช็ดอยู่ตลอดเวลา ต้นทุนทางสังคมที่สะสมมาตลอดชีวิตหดหายไปแทบไม่เหลือแล้ว ถ้ายังขืนทู่ซี้ดันทุรังกันอยู่อย่างนี้มีแต่เจ๊ากับเจ๊งเท่านั้น ยิ่งในภาวะที่ประชาชนกำลังประสบชะตากรรมค่าครองชีพสูง รายได้หดหรือเท่าเดิม ยิ่งจะกลายเป็นแรงบีบคั้นกดดันผู้นำเผด็จการหนักหน่วงเข้าไปอีก
ปัญหาสินค้าราคาแพงที่เริ่มต้นจากหมู ได้ขยายวงไปแทบจะทุกตัว แม้แต่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีพลังงานและเลขาธิการพรรคสืบทอดอำนาจ ยังต้องโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็น โดยระบุว่า ของแพง ค่าแรงต่ำ เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ปากท้องประชาชนเรื่องใหญ่ ต้องแก้ทั้งโครงสร้าง เรากำลังเผชิญภาวะของหลายอย่างแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราไม่เจออะไรแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะการขึ้นราคาสินค้าหลายตัวพร้อม ๆ กัน ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ปีที่แล้วเจอน้ำมันแพงทำให้ราคาค่าขนส่งสินค้าแพงขึ้น ซึ่งแน่นอนราคาสินค้าหลายตัวก็แอบขยับขึ้นตามไปด้วย แต่รอบล่าสุดเป็นเรื่องปากท้องโดยตรง ไม่ใช่แค่หมูเท่านั้นที่แพงขึ้น แต่ราคาอาหารอื่น ๆ ปรับราคาตามไปด้วยหมด ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่าซ้ำเติมประชาชนอย่างยิ่ง และหน่วยงานภาครัฐควรขยับให้มากกว่านี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน สิ่งที่สนธิรัตน์ชี้แนะก็คือ ตรงไหนที่รัฐบาลช่วยพยุงค่าครองชีพได้ก็ควรทำ เพราะนี่คือหน้าที่หลักของรัฐบาล
อย่างกรณีของการที่กระทรวงพลังงานจะกลับมาพยุงราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีต่ออีกสองเดือน สนธิรัตน์มองว่าควรตรึงไปจนกว่าสถานการณ์ราคาสินค้าต่าง ๆ จะเข้ารูปเข้ารอยมากกว่านี้ หรือสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ฟื้นตัวได้มากกว่านี้ ราคาก๊าซหุงต้มต่างจากราคาหมู ราคาไก่ เพราะรัฐดูแลและควบคุมได้ระดับนึง และสามารถหาเงินมาอุดหนุน ช่วยเหลือประชาชนไปพลางก่อนได้ ถึงแม้ว่าจะต้องกู้เงินมาใช้ในการพยุงราคาก๊าซหุงต้มตรงนี้ แต่ก็ทำให้ประชาชนเหลือเงินไปใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น
น่าสนใจในฐานะอดีตเสนาบดีทั้งรัฐบาลเผด็จการและรัฐบาลสืบทอดอำนาจ น่าจะมองเห็นกลไกในการทำงานได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งสำคัญที่มีการตั้งข้อสังเกตกันต่อการทำงานของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและขบวนการในการที่มี “กลุ่มทุนเจ้าสัวมีอำนาจเหนือการเมือง” การจะขยับขับเคลื่อนในแต่ละเรื่องทั้งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนส่วนใหญ่แต่นายทุนเสียหาย จึงดำเนินไปในลักษณะทำแบบเสียมิได้หรือมีเงื่อนไขสารพัด
สิ่งที่สนธิรัตน์ทิ้งท้ายไว้ในความเห็นล่าสุดที่ว่า วันนี้ข้าวของแพง ความเป็นอยู่ของประชาชนยากลำบาก ซ้ำเติมวิกฤตที่เป็นอยู่ พวกตนรู้สึกเป็นห่วงเรื่องนี้มากว่าเศรษฐกิจทั้งระบบจะพังพินาศ ถลำลึกในระยะยาวจนยากจะฟื้น แต่คำถามก็คือ ทางแก้ ทางออก โครงสร้างเรื่องนี้ต้องปรับ และร่วมมือกันทุกส่วนนั้น มันสามารถทำได้จริงหรือไม่ และจะทำเมื่อไหร่ ทำโดยรัฐบาลนี้หรือรอรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง