พาราสาวะถี
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขจะลดระดับการประกาศแจ้งเตือนภัยด้านสาธารณสุขจากระดับ 4 เหลือระดับ 3 หลังประเมินสถานการณ์จากเทศกาลปีใหม่
เป็นที่แน่นอนแล้วว่าการประชุมศบค.ในวันที่ 20 มกราคมนี้ นอกเหนือจากจะมีการเสนอให้กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศแบบไม่ต้องกักตัวหรือเทสต์ แอนด์ โก ที่พร้อมจะดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขก็จะลดระดับการประกาศแจ้งเตือนภัยด้านสาธารณสุขจากระดับ 4 เหลือระดับ 3 หลังจากที่ประเมินสถานการณ์ผ่านมา 18 วันนับจากเทศกาลปีใหม่ พบการติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถานบันเทิงผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงต้องร้องเพลงรอต่อไป เพราะไร้วาระที่จะได้รับการพิจารณาคลายล็อก ตรงนี้ก็เข้าใจได้เพราะถือเป็นสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ ซึ่งการระบาดในระลอกนี้กลุ่มสถานประกอบการประเภทนี้ที่ดัดแปลงมาเป็นร้านอาหารก็ตกเป็นเป้าว่าเป็นตัวการของการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากลักษณะของสถานที่ที่พบว่าเอื้อต่อการแพร่ระบาดของโควิดได้เป็นอย่างดี
เมื่อสถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ ก็เข้าใจได้ว่าจากนี้การรายงานตัวเลขหรือความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ในบ้านเราก็จะลดโทนของความเข้มข้นลงไป หากไม่เกิดคลัสเตอร์ใหญ่หรือมีการกลายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอีก ดูเหมือนว่าจะดีสำหรับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและฝ่ายกุมอำนาจ แต่ไม่ใช่ เพราะนั่นหมายถึงคนส่วนใหญ่ก็จะหันไปให้ความสนใจกับปัญหาชีวิตที่ได้รับผลกระทบกันอย่างหนักเวลานี้ คือข้าวของราคาแพงแทบจะทุกประเภทไม่ใช่แค่หมูเท่านั้น
การที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจสั่งให้กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์ในที่ประชุมครม.ทุกสัปดาห์ก็เป็นงานรูทีนที่ไม่เกิดประโยชน์ ถึงขนาดนี้แล้วมันต้องมีแอ็กชั่นที่แสดงให้เห็นว่าจะจัดการกับปัญหานี้เพื่อลดภาระผลกระทบที่มีต่อประชาชนอย่างไร ต้องไปสืบค้นหาต้นตอต่าง ๆ และนำมาสื่อสารกับสังคม สินค้าบางประเภทเป็นสิ่งที่ขึ้นตามกลไกไม่สามารถห้ามได้ หรือส่วนใหญ่เป็นพวกลักไก่อาศัยจังหวะชุลมุนขึ้นกันไปตามประสาพ่อค้าแม่ค้าหน้าเลือด ไม่แยแสต่อความเดือดร้อนของคนส่วนใหญ่
ความจริงสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องลี้ลับที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ขนาดอดีตรัฐมนตรีที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่ยุคเผด็จการคสช. ก่อนจะมาถูกพวกเดียวกันไล่บี้เพื่อสังเวยความไม่เอาไหนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ยังแสดงความกังวลต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาข้าวของราคาแพงของรัฐบาลเรือเหล็ก นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าเมื่อมองไปยังวิธีคิดและการบริหารจัดการที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลและคณะจะดำเนินการแล้วมันไม่เวิร์ก
ข้อเสนอเรื่องการแก้ไขทั้งโครงสร้างนั้นมันดูยิ่งใหญ่ไปสำหรับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ เอาแค่ชี้ช่องให้มองเห็นปัญหาเฉพาะหน้า และคิดให้ออกว่าจะแก้อย่างไรเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นการเบื้องต้นเสียก่อนน่าจะดีกว่า อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวเรื่องความเห็นของเด็กอายุ 14 ปีจากเชียงรายที่พูดถึงวิธีการแก้ไขปัญหาหมูแพงผ่านรายการทางโซเซียลของเซเล็บชื่อดังรายหนึ่ง แค่เท่านี้ก็ทำให้รู้สึกได้ว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงได้เคลื่อนไหวไม่เอาคณะสืบทอดอำนาจ
ความเห็นของเด็กวัย 14 ต่อการแก้ปัญหาหมูแพงก็คือ ระยะแรกชดเชยเกษตรกรซึ่งตอนนี้ขายหมูแล้วขาดทุน และเร่งส่งเสริมการสร้างรายได้จากหมู ทั้งเรื่องแม่พันธุ์และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ ระยะกลาง ให้เกษตรกรกู้เงินระยะสั้นเอาไปพัฒนาฟาร์มหมูให้สามารถป้องกันโรคได้ รวมถึงสั่งหมูมาจากต่างประเทศ ระยะยาวส่งเสริมบูรณาการทุกอย่างให้เป็น Smart Farmer ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาจัดการ รวมถึงส่งเสริมคุณภาพหมู คุณภาพสินค้า รวมถึงพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ
เด็กมันยังคิดได้แล้วคนที่มีอำนาจมายาวนานจะไม่คิดอะไรเลยหรือ หรือคิดแต่จะรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของตำแหน่งและอำนาจไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้แค่นั้นหรือ เรื่องของสินค้าแพงคงไม่ได้ยุติในเร็ววัน ต้องมองกันยาว ๆ โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากที่ 7 ปีที่ผ่านมาผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจโชคดีมาตลอดที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง นี่จะเป็นบททดสอบกึ๋นของท่านผู้นำและคณะต่อการแก้วิกฤตที่ต้องเจอกันทั้งโลก
ล่าสุด โกลด์แมน แซคส์ วานิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้คาดการณ์ไว้ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องต่อไป และอาจพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันที่สูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557 จากที่เคยโทษมาตลอดว่ายึดอำนาจเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาในสิ่งที่รัฐบาลก่อนหน้าทำไว้ อยู่มาจนป่านนี้แล้วคงไม่ต้องไปเที่ยวโทษใครให้มาเป็นแพะอีก
ปัญหาที่เผชิญอยู่ ประชาชนที่กำลังเดือดร้อน เกิดขึ้นในยุคสมัยที่เผด็จการสืบทอดอำนาจบริหารงาน ต้องพิสูจน์ให้คนเห็นให้ได้ว่า นอกจากเก่งเรื่องการวางกลไกเพื่อค้ำยันอำนาจให้กับตัวเอง และอาศัยเนติบริกรรวมไปถึงตุลาการวิบัติทั้งหลายมาเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจแล้ว จะมีสติปัญญาในการแก้ไขวิกฤตที่คนซึ่งเป็นผู้นำทั่วโลกแม้ไม่อยากเจอแต่จะถือเป็นโอกาสที่จะได้พิสูจน์ฝีมือหรือไม่ ไหน ๆ ก็เคยบอกว่าเป็นผู้นำประเทศไม่เห็นยากตรงไหนก็โชว์ฝีมือให้คนสรรเสริญให้ได้ก็แล้วกัน
อย่าให้คนครหาหรือดูถูกเหมือนที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเคยโจมตีนักการเมืองหลังยึดอำนาจใหม่ ๆ ว่าคนเหล่านั้นดีแต่พูด ยังมีประเด็นเรื่องการทุจริตที่ตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปีนั้น แม้ท่านผู้นำจะพล่ามอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองโปร่งใส แต่กับคนรอบกาย บรรดาเสือหิวทั้งหลายที่รายล้อมหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ยิ่งผ่านการเลือกตั้งมีทีมบริหารที่เป็นบรรดานักการเมืองอาชีพทั้งหลาย ทุกอย่างว่ากันด้วยผลประโยชน์กันล้วน ๆ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความกระหายและทุนที่ลงไปของแต่ละราย
ไม่ใช่การกล่าวหาแบบใช้ความรู้สึก เพราะ วันชัย สอนศิริ ส.ว.ลากตั้งที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเซ็นตั้งมากับมือ อภิปรายในที่ประชุมวุฒิสภา 7-8 ปีจนถึงปัจจุบันพบว่าวงจรอุบาทว์ของการทุจริตเลวร้ายกว่าเดิม จะมีคนที่ออกมาพูดจนบางคนพูดตายคาสภาก็ยังแก้ไม่ได้ ก็อยากจะบอกวันชัยว่าจะไปคาดหวังอะไร ขนาดผู้ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรงยังไม่สุจริตเพราะต้องคอยปกป้องผู้มีพระคุณที่อยู่ในอำนาจ จนทำให้องค์กรตรวจสอบทุจริตหมดความน่าเชื่อถือจากประชาชนไปเสียฉิบ