SCI จะพาไปถึงฝั่งผัน

คุณค่าบริษัท

 

บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรกในวันที่ 13 ตุลาคม 2558 ราคาหุ้นปิดที่ 7.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือเพิ่มขึ้น 18.64% จากราคาขาย IPO ที่ 5.90 บาท สามารถเหนือจองได้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่มีแนวคิดที่จะขายหุ้นออกมา พร้อมมีความตั้งใจถือหุ้นไว้ระยะยาว

วันต่อมาที่ 14 ต.ค. 58 ถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่านักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยบางกลุ่มยังคงไม่ได้ทิ้งหุ้น พร้อมกับยังเก็บหุ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นทะเยอทะยานปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถยืนเหนือ 9 บาท และเชื่อว่าราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้  

เนื่องจาก SCI มีจุดแข็งหลายด้าน ไม่ว่าเป็นผลประกอบการโดยรวมมีความแข็งแกร่ง เห็นได้จากผลการดำเนินงานงวดหกเดือนแรกของปี 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,216.02 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,064.10 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 143.07 ล้านบาท  หรือ 0.41 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 81.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 78.90 ล้านบาท หรือ 0.48 บาทต่อหุ้น

ส่วนงานปีนี้ในประเทศบริษัทมีงานสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเพิ่มขึ้น 5-10% จากปีก่อน และได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดประมูล 4G ที่จะส่งผลให้ความต้องการเสาโทรคมฯมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง 3 ค่ายหลัก ทั้งทรูมูฟ ดีแทค และเอไอเอส เป็นลูกค้าบริษัทอยู่แล้ว ก็จะทำให้ยอดขายเสามากขึ้น และรับรู้รายได้จากการขายเสาสัญญาณ 3G ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (กฟผ) นอกเหนือจากรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่บริษัทมีการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร โดย SCI จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 30% คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 4 ปี 2558 และจะเริ่มลงทุนในปี 2559 กำหนดจ่ายไฟ (COD) ปี 2562 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรโตก้าวกระโดด 

ด้านงานในต่างประเทศบริษัทมีโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า (PDSR) เฟส 2 ในสปป.ลาว มูลค่า 67 ล้านดอลลาร์ รวมถึงลงทุนโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในประเทศเมียนมาร์ (พม่า) โดยร่วมทุนกับพันธมิตร มีมูลค่าลงทุนทั้งหมด 26 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 1 ปี 2559 

 สำหรับการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ในปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 65% และสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 35% แต่ในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า ผู้บริหารคาดว่าสัดส่วนรายได้จากประเทศและต่างประเทศจะอยู่ประมาณร้อยละ 50:50

การเร่งขยายธุรกิจเพื่อผลักดันให้บริษัทมีรายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น จะเป็นแรงส่งให้ราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ถึงฝั่งฝันที่นักลงทุนต้องการได้ 

บอกได้คำเดียวว่าหุ้น SCI เป็นหุ้นน้องใหม่ที่น่าจับตา!!

…

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1) นายศิริชัย พฤฒินารากร 135,356,300 หุ้น 18.05%

2) นางวนิดา พฤฒินารากร 108,521,200 หุ้น 14.47%

3) นางสาวรัศมี พฤฒินารากร 106,686,800 หุ้น 14.22%

4) นางสาวอุนนดา พฤฒินารากร 94,933,300 หุ้น 12.66%

5) นางเปรมมิกา พฤฒินารากร 27,169,800 หุ้น 3.62%

 

รายชื่อกรรมการ

1) นายนพพล มิลินทางกูร ประธานกรรมการ

2) นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

3) นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล กรรมการ

4) นางสาวอุนนดา พฤฒินารากร กรรมการ

5) นายธนวัฒน์ ญาณิสรางค์กูล กรรมการ