TK เช่าซื้อถึงตึ๊งทะเบียน
ถ้าพูดถึง TK สายแว้นน่าจะรู้จักกันดี โดยเฉพาะร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์
ถ้าพูดถึงบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK สายแว้นน่าจะรู้จักกันดี โดยเฉพาะร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ซึ่งเป็นอีกขาหนึ่งของ “กลุ่มพรประภา”..!!
ผลงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็อยู่ในเกณฑ์ดี มาร์จิ้นก็สูง แถมเป็นหุ้นที่ปันผลดีอีกต่างหาก ยีลด์เฉลี่ยอยู่ที่ 5–6% ต่อปีเลยทีเดียว…
แต่ตอนนี้ TK จะไม่ใช่แค่รู้จักในกลุ่มสายแว้นเท่านั้น ต่อไปจะรู้จักในกลุ่มสายจำ (นำทะเบียน) ด้วย เพราะล่าสุดได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อเพิ่มอีก 2 ใบ…ใบแรกเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน หรือเรียกอีกอย่าง ก็สินเชื่อจำนำทะเบียนนั่นแหละ
ส่วนอีกใบเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ถ้าให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ สินเชื่อส่วนบุคคล
นั่นเท่ากับว่า TK จะมีช่องทางในการทำมาหากินได้มากขึ้น..!!
จากเดิมที่มีแค่สินเชื่อเช่าซื้อ ต่อไปก็จะมีสินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อส่วนบุคคลเข้ามาเติมในพอร์ต ทำให้สามารถปล่อยกู้ได้มากขึ้น
เอ๊ะ…ว่าแต่การที่ TK ขยายมาสู่ 2 สินเชื่อใหม่ครั้งนี้ เป็นเพราะแรงบีบคั้นจากหน่วยงานภาครัฐหรือเปล่านะ..? ที่เมื่อปลายปีก่อนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไอเดียกระฉูดเตรียมคุมเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อไม่เกิน 15% ต่อปี เพื่อหวังลดภาระผู้ที่มีรายได้น้อย…เลยทำให้ TK ต้องเร่งกระจายความเสี่ยง..!?
ซึ่งในกรณีนี้ TK จะได้ 2 ขาด้วยกัน…ขาแรก ในระหว่างที่ลูกค้าผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ อาจเดือดร้อน ผ่อนต่อไม่ไหว ก็สามารถกู้สินเชื่อส่วนบุคคลจาก TK ได้เงินมาผ่อนรถต่อ… TK ก็จะได้ดอกเบี้ยเพิ่มจากสินเชื่อส่วนบุคคล หรือกรณีที่ผ่อนหมดแล้ว ลูกค้ารายนั้น มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็สามารถนำเล่มทะเบียนไปจำนำกับ TK หรือจะขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล ก็ได้อีกขา…ซึ่งอย่าลืมว่า TK มีฐานข้อมูลของลูกค้าอยู่แล้ว ความเสี่ยงก็จะต่ำ..!!
ที่สำคัญ ทั้งสินเชื่อจำนำทะเบียนและสินเชื่อส่วนบุคคลสามารถคิดดอกเบี้ยได้ค่อนข้างสูง โดยสินเชื่อจำนำทะเบียน เพดานดอกเบี้ยอยู่ที่ 24% ต่อปี ในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลเพดานอยู่ที่ 25% ต่อปี
เอาเป็นว่า ที่ผ่านมา TK มีแค่สินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์และรถยนต์อย่างเดียว งบก็สวยอยู่นะ แถมอัตรากำไรสุทธิก็สูงซะด้วย โดยปี 2561 มีรายได้รวม 3,878 ล้านบาท กำไรสุทธิ 407 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 10.52% ปี 2562 มีรายได้รวม 3,719 ล้านบาท กำไรสุทธิ 504 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 13.71% และปี 2563 มีรายได้รวม 2,548 ล้านบาท กำไรสุทธิ 367 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 14.52%
ส่วนงวด 9 เดือนแรก ปี 2564 มีรายได้รวม 1,514 ล้านบาท กำไรสุทธิ 345 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 23%
นี่ขนาด TK โตด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่มีแบงก์คอยแบ็คอัพด้านเงินทุนให้นะเนี่ย แต่ยังทำผลงานได้โดดเด่นซะขนาดนี้…แล้วลองนึกภาพตามนะว่า การที่ TK ได้สินเชื่อจำนำทะเบียนกับสินเชื่อส่วนบุคคลเข้ามาเติม ก็น่าจะทำให้ผลงานดีขึ้นไปอีก…ว่าป่ะละ
เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา จึงเห็นราคาหุ้น TK ดีดดิ้น ปรับขึ้นไปตั้ง 5.76% ปิดที่ 10.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34.79 ล้านบาท
แหม๊…นานน๊านจะเห็น TK ออกอาการระริกระรี้แบบนี้เนอะ..!!
…อิ อิ อิ…