MAKRO รอ 35 บาท OR จ่อหลุด 25 บาท

ทั้ง MAKRO และ OR ยังเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน

อาจเป็นเพราะช่วงขายหุ้น PO (MAKRO) และ IPO (OR) เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อ และการันตีว่าจะได้รับการจัดสรร

ทำให้มีการเข้าลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยค่อนข้างมาก

ในส่วนของ “สยามแม็คโคร” ราคาหุ้นหลังจาก PO ปรับตัวลงต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ “แนวรับพัง” เพราะหลุดระดับ 40.00 บาท

มาจนถึงตอนนี้ ราคายังวนเวียนอยู่แถว ๆ 38.00 บาท บวก/ลบ

โอกาสกลับขึ้นไปยืนเหนือ 40.00 บาท ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ น่าจะค่อนข้างยาก ถึงยากที่สุด

มีคำถามว่า ราคาที่ 38.00 บาท พอจะเข้าซื้อได้หรือยัง

มีคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ว่า “ยัง”

เพราะราคายังมีทิศทางปรับลงได้อีก

หากใครต้องการที่จะซื้อหุ้นตัวนี้จริง ๆ ให้ลงปูเสื่อรอที่บริเวณ 35.00 บาท บวก/ลบ

ระดับราคา 35.00 บาท ที่ว่านี้ น่าจะค่อนข้างปลอดภัย

และดูจากทางเทคนิค ดูจากข้อมูลทุกด้าน ราคาไม่น่าหลุด เว้นแต่จะมีปัจจัยลบหนัก ๆ เข้ามากระทบ

ทว่า ตอนนี้ยังไม่เห็น และไม่น่าจะมี

แม้จะเข้ารับที่บริเวณ 35.00 บาท

แต่มีคำแนะนำเพิ่มเติมว่า เหมาะต่อการลงทุนระยะปานกลางถึงระยะยาว เพราะราคาหุ้นสยามแม็คโคร น่าจะค่อย ๆ วิ่งตามผลประกอบการที่นักวิเคราะห์ประเมินกันว่าจะปรับตัวดีขึ้น

เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1/65 เป็นต้นไป

สรุปคือ “ซื้อสะสมได้” และขอย้ำอีกครั้งต้องเป็นราคาบริเวณ 35.00 บาท (บวก/ลบ)

แต่หากจะเข้าที่ระดับราคา 31.00-38.00 บาท ก็อาจต้องแบ่งไม้ซื้อ

มาถึง บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR

OR สัญญาณเทคนิคไม่สวย

ราคาลงมาแตะ 25.00 บาท อีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

ราคาลงมาปิดที่ 25.00 บาทพอดี

วันที่ 21 ม.ค. ราคาต่ำสุดยังอยู่ที่ 25.00 บาท และปิด 25.25 บาท

ส่วนวานนี้ (24 ม.ค.) ราคาต่ำสุดนั้นยังอยู่ที่ 25.00 บาทเช่นเดิม ก่อนจะมาปิดที่ 25.25 บาท เท่ากับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ต้องมาลุ้นดูว่า แนวรับที่เป็นเสมือนปราการเหล็กระดับ 25.00 บาท จะยันไว้ได้นานแค่ไหน

แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่า หากราคาหลุด 25.00 บาทลงมาแล้ว จะไหลเป็นน้ำ

เพราะเชื่อว่าน่าจะมีแรงเข้ามารับซื้อเพื่อเก็งกำไรค่อนข้างมากที่บริเวณ 24.00 บาท (บวก/ลบ) และต้องไปดูกันอีกครั้งว่าแรงซื้อที่ว่านั้นจะเยอะมากขนาดไหน

จะช่วย “ประคองราคา” ได้เพียงใด

แม้ช่วงนี้ราคาน้ำมันโลกยังทรงตัวระดับสูง

ทว่า ยิ่งราคาน้ำมันสูง

รัฐจะยิ่งเข้าแทรกแซงราคาน้ำมัน (ขายปลีก) มากขึ้น เพื่อพยายามที่จะกดราคาให้ต่ำสุดเท่าที่ทำได้

โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน

ทำให้ OR อาจจะมี “ค่าการตลาด” ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

อย่างที่เคยเขียนบอกไว้ก่อนหน้านี้หลายครั้งว่า OR ต้องรีบรุกไปยัง “นอนออยล์” เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้เข้ามาแทนที่ธุรกิจน้ำมันให้มากสุด และเร็วสุด

ไม่เช่นนั้น ปัญหาจะยังวนเวียนไปแบบนี้แหละ