ข่าวดีในข่าวร้าย
แล้วผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) -ขาโหดที่เป็นชัยชนะของสายเหยี่ยวก็เป็นไปตามคาดการณ์ แล้วตลาดหุ้นทั่วโลกก็ขานรับด้วยอารมณ์ ตลาดหุ้นเอเชียก็ขานรับในทางเดียวกันอย่างชัดเจนโดยตลาดอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
แล้วผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) -ขาโหดที่เป็นชัยชนะของสายเหยี่ยวก็เป็นไปตามคาดการณ์ แล้วตลาดหุ้นทั่วโลกก็ขานรับด้วยอารมณ์ ตลาดหุ้นเอเชียก็ขานรับในทางเดียวกันอย่างชัดเจนโดยตลาดอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
การร่วงของดัชนีตลาดหุ้นแบบแรงมากถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในโลกการลงทุน มี 2 เหตุการณ์หลัก ที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้น คือเหตุปัจจัยจากภายนอก และจากเหตุภายในของบริษัทจดทะเบียนหลัก ๆ ที่ส่งผลเสียต่อดัชนีได้
เพียงแต่ 2 ปัจจัยที่ว่านั้น ยังหยาบเกินไปเพราะต้องลงลึกเพื่อความเข้าใจว่าในเหตุภายนอกนั้นมีปัจจัยย่อยมากมายก่ายกอง
สำหรับปัจจัยเหตุแรกนั้น สามารถแยกได้หลากหลายเพราะเป็นเหตุปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบริษัทที่เราลงทุนไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องไม่ควบคุมเกินเหตุ จะเป็นเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ หรือการเมืองหรือราคาน้ำมันดิบราคาทองคำ หรืออัตราดอกเบี้ยในตลาดสำคัญของโลกและเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลก
เหตุปัจจัยดังกล่าวหลบเลี่ยงยากมาก แต่ว่าหัวใจสำคัญของพื้นฐานหุ้นจะให้ผลลบของเหตุผ่านไปได้รวดเร็ว ราคาหุ้นบางรายการจะได้รับผลตรงกันข้ามที่สามารถบวกแรงได้
ท่ามกลางเหตุปัจจัยต่อไปนี้อาจจะได้รับอานิสงส์เป็นขาขึ้นสามารถจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้มากขึ้นตามไปด้วย ไม่ได้หมายความว่าทุกบริษัทจะเลวร้ายตามเสียหมด
เหตุปัจจัยภายนอกต่อไปนี้ ประกอบด้วย
- อัตราดอกเบี้ยหากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้น
- อัตราแลกเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่
- ทิศทางเดียวกันกับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่
- เหตุการณ์ทางการเมืองก็มีผลเช่นกันนโยบายของภาครัฐ และการเปิดตลาดต่างประเทศ
- เหตุการณ์ที่มีความไม่แน่นอนเช่น ภัยธรรมชาติรุนแรง น้ำท่วม การก่อการร้าย โรคติดต่อร้ายแรง
สำหรับเหตุการณ์ภายใน ที่เกิดขึ้นในบริษัทนั้น ๆ เอง มักจะเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทนั้นโดยตรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ วัฏจักรอุตสาหกรรม กลยุทธ์ของบริษัท และความสามารถของผู้บริหาร เหตุปัจจัยอาจจะทำให้กิจการไม่ฟื้นตัวกลับมาได้ดังเดิมอีกดังเช่นกรณีบริษัทโกดักหรือกรณีหุ้นบางรายการเช่น IFEC ยูนิคอร์ด หรือ EARTH…บริษัทจะเอาตัวรอดแต่ตลาดจะดีขึ้นหลังจากนั้น
เมื่อพิจารณาดูแล้ว การช้อนซื้อหุ้นที่ผลประกอบการเด่นจะดีขึ้นในยามตลาดเป็นขาลงน่าจะเป็นโอกาสทำกำไรได้
เหตุการณ์นี้น่าจะได้เห็นเศรษฐีใหม่บางรายที่คนไม่คุ้นเคยได้ไม่ยากนักเมื่อพายุสงบลง
ถือเป็นสถานการณ์ “วิกฤตสร้างโอกาสครั้งใหม่อีกครั้ง”
ไม่อยากเชื่อ ก็ต้องเชื่อ…แม่สอนเอาไว้
อย่าลืมล่ะ