แรงซื้อหาย?

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงเฉลิมฉลองตรุษจีนมักไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจเหมือนช่วงปกติ จึงไม่ต้องตกใจเมื่อแรงซื้อหายไปจากตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก ดัชนีเลยทำได้ดีสุดแค่แกว่งตัวแคบ ๆ ตลอดภาคเช้า ขณะที่ชั่วโมงสุดท้ายดัชนีไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,667.75 จุด บวกไป 6 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.13 หมื่นล้านบาท  มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้รู้ว่า อย่าหวังอะไรมากในภาวะแบบนี้ เพราะตลาดหุ้นไทยต้องเจอศึกหนักอีกหลายระลอกเจ้าค่ะ


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงเฉลิมฉลองตรุษจีนมักไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจเหมือนช่วงปกติ จึงไม่ต้องตกใจเมื่อแรงซื้อหายไปจากตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก ดัชนีเลยทำได้ดีสุดแค่แกว่งตัวแคบ ๆ ตลอดภาคเช้า ขณะที่ชั่วโมงสุดท้ายดัชนีไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,667.75 จุด บวกไป 6 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.13 หมื่นล้านบาท  มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้รู้ว่า อย่าหวังอะไรมากในภาวะแบบนี้ เพราะตลาดหุ้นไทยต้องเจอศึกหนักอีกหลายระลอกเจ้าค่ะ

*ขนาดแพทเทิร์นของดัชนีเป็นใจให้ไปต่อสุด ๆ แต่วานนี้กลับออกมาอาการขาขวิด มันกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องมานั่งคิดต่อไปว่า หากดัชนีขึ้นไปแตะระดับ 1,680 จุดเป็นครั้งที่สอง ต่อจากนั้นจะเป็นเช่นไร? เพราะนักเล่นยังมีอาการกล้า ๆ กลัว ๆ โดยเฉพาะนักเล่นกลุ่มที่เป็นกองทุนยังมีลักษณะ “ชักเข้า ชักออก” ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ไม่พร้อมลุย! และเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับการขึ้นในรอบนี้นะนายจ๋า!

*วันนี้จึงต้องหันมามองทีละสเต็ป เพื่อทำให้การเล่นคล่องตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากอิทธิพลต่างประเทศ ปัญหาข้าวยากหมากแพง (โดยเฉพาะราคาน้ำมัน) ปัญหาการเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งปัญหาคริปโต ล้วนเป็นตัวแปรที่ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นทั้งนั้น “โมนิก้า” จึงอยากให้บริษัทจดทะเบียนโชว์งบปี 64 กันเสียที เพื่อทำให้ทุกคนเห็นภาพการเติบโตมันมีอยู่จริงนะจะบอกให้

*ในเมื่อเปิดเรื่องด้วยประเด็นคำถาม “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้นฮอตฮิตอย่าง CGH กันสักหน่อย เพราะมีเสียงร่ำลือมาจากริมแม่น้ำเจ้าพระยาว่า หมอหนุ่มได้เข้าไปพบกับผู้เฒ่า เพื่อร่วมดื่มน้ำสาบานในการร่วมด้วยช่วยกันดัน จนกลายเป็นที่มาของคำว่า สิงห์หนุ่มปะทะเสือเฒ่าคงสนุกน่าดูชม! เพราะดีลครั้งนี้คงมีเรื่องมหัศจรรย์ล้ำลึกให้ติดตามชมอย่างแน่นอน ส่วนผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นลักษณะ “วิน-วิน” หรือไม่? เดี๊ยนไม่สามารถตอบได้ เพราะฝีไม้ลายมือในยุทธจักรของทั้งคน..ก็ไม่เบาเหมือนกันจ้า!

*เม้าท์ถึงเรื่องฝีไม้ลายมือก็ต้องหันมามองหุ้น XPG เพื่อชี้ให้เห็นการงัดหุ้นขึ้นมาอย่างร้อนแรง น่าจะมีพวกรายใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แถมเที่ยวนี้เป็นการสตาร์ทจากราคาต่ำสุด ๆ จึงเชื่อว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.62 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 12.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท คงไม่ใช่สงครามวันเดียวอย่างแน่นอน เพราะฐานหุ้นที่เล่นกันมาเป็นปีอยู่แถว 3 บาทไงล่ะคะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องชำเลืองมองหุ้น NUSA อย่างรวดเร็ว เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.48 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 11.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 550 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า เที่ยวนี้ซัดหุ้นกันแบบยาว ๆ เพราะเริ่มทยอยปล่อยของออกมาให้เห็นเป็นระยะ ด้วยการให้ “วินด์ฯ ปล่อยตัวเลข “กำไร” พ่วงด้วยจ่าย “ปันผล” ออกมาแก้เกมแบบนี้ เดี๊ยนบอกได้คำเดียวว่า สงครามยังไม่จบ..อย่าเพิ่งนับศพทหาร งานนี้มันแน่!..อิอิอิ

*พักจากเรื่องหนัก ๆ หันมาดูเรื่องพื้นฐานแน่นเปรี๊ยะอย่าง ORI กันบ้างดีกว่า เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 12.30 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท แถมเป็นการทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 12 บาทหลังติดแหงกตรงนี้เป็นเวลา 3 เดือนครึ่งแบบนี้ ตามตำราเทคนิคเขาเรียกว่านี้ว่า ทะลุเพื่อไปต่อ! จึงกลายเป็นหุ้นที่ขาประจำไม่ควรมองข้ามนะจ๊ะ

*หุ้นอีกตัวที่ทรงสวย และเริ่มทะยานขึ้น “โมนิก้า” คงหันไปมองที่ CHAYO เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นเที่ยวนี้ทำให้แฟน ๆ ขาลุยรู้สึกฮึกเฮิมมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งเห็นโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายสูงถึง 20 บาท ยิ่งกระตุ้นต่อมอยากมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะหุ้นเพิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 13.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 295 ล้านบาท จึงเหลือแก๊ปให้ลุยอีกเพียบเจ้าค่ะ

*คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น BCPG ซึ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 12.90 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 969 ล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะแค่มองเรื่องการเทรดบน PE 17 เท่า ก็ได้เปรียบมากกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ ผสานกับหุ้นเพิ่งขึ้นอย่างจริงจังได้ไม่เท่าไหร่! น้องโมเลยเชื่อว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 16 บาทอีกครั้งก็เท่านั้นเอง..จริงหรือไม่ ลองไปคิดกันเอาเองนะคะ

Back to top button