BIZ ราคาเท่าใดถึงเหมาะสม
หุ้นขนาดเล็กมาก แต่ผลงานเติบโตต่อเนื่อง และมีงานเข้าเป็นกอบเป็นกำอย่าง BIZ มักจะถูกมองข้ามเสมอ แต่ปีนี้ ผลงานที่โดดเด่นเข้าตา ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักเข้ามาเมียงมองมากขึ้น
หุ้นขนาดเล็กมาก แต่ผลงานเติบโตต่อเนื่อง และมีงานเข้าเป็นกอบเป็นกำอย่าง บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ มักจะถูกมองข้ามเสมอ แต่ปีนี้ ผลงานที่โดดเด่นเข้าตา ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักเข้ามาเมียงมองมากขึ้น แต่มุมมองก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าอย่างไหนเหมาะสม
ครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 338.74 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสวยงาม เนื่องจากสามารถส่งมอบงานได้ตามเป้าหมาย รวมถึงการเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่องมูลค่าหลักพันล้านบาท คาดหวังว่าจะได้งานเข้ามาเพิ่มราว 40-50% ของมูลค่างานที่เข้าประมูลทั้งหมด เพื่อเพิ่มงานในมือ (Backlog) จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1,855 ล้านบาท
ตามด้วยไตรมาสามที่ยังมีกำไรต่อเนื่องทำให้ 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิมากถึง 395.11 ล้านบาท สูงสุดนับแต่เข้าจดทะเบียนในตลาด และมีกำไรสะสมมากกว่า 420 ล้านบาทหน่วยที่ทำให้ปีนี้จ่ายปันผลไปแล้วกว่า 0.37 บาทต่อหุ้น (จากจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.25 บาท และวอร์แรนต์ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ+วอร์แรนต์ อัตราจ่ายค่าเอ็กซ์เซอร์ไซส์ 7.00 บาทหรือหุ้นละเฉลี่ย 0.12 บาท) ถือว่าสวยงามที่สุดแล้ว
หุ้นตัวนี้ยังคงถูกคาดหมายว่า น่าจะยังสามารถจ่ายปันผลเพิ่มในช่วงปลายปีได้อีกเป็นเงินสด…ซึ่งคงต้องลุ้นหนักพอสมควรในช่วงประกาศจ่ายปันผลเมื่องบงวดสิ้นปีออกในปลายเดือนนี้ อย่างคาดหมายว่าจะสวยงามตามคาด
สำหรับ Backlog ในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น โครงการศูนย์รักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มูลค่า 980 ล้านบาท ที่เคยเป็นตัวถ่วงรายได้เพราะติดโรคเลื่อนคาดว่าจะรับรู้รายได้ไม่เกินไตรมาส 1/65 และโครงการอื่น ๆ อีกประมาณ 875 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2564 เป็นต้นมา
การรับรู้รายได้ของโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตรอน ของรพ.จุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของ BIZ มูลค่า 967 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2564-ไตรมาส 2/2564 โดยเลื่อนการส่งมอบจากไตรมาส 3/2563 จากผลกระทบของ COVID-19 ส่งผลให้วิศวกรชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาติดตั้งเครื่องฉายรังสีได้
ราคาหุ้น BIZ ที่เคยกระฉูดแรงในไตรมาสสาม แล้วลงมาที่เดิมแถว 8.70 บาท ยามนี้ นับว่าน่าซื้อหาอย่างมาก เมื่อเทียบกับอนาคตที่จะมีข่าวดี ๆ รออยู่
ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์จากนี้ไป เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหากเทียบกับครึ่งแรกของปีก่อน เนื่องจากเมื่อประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ และเริ่มมีการเปิดให้ประมูลงานในโครงการใหม่ ๆ ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมคำพูดของเสี่ยต้นหรือ นายสมพงษ์ กล่าว
บริษัทยังคงคาดหวังว่ารายได้ปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 734 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบกับการส่งมอบงานในช่วงที่ผ่านมา และในครึ่งปีหลังนี้ก็ยังต้องจับตาดูสถานการณ์ดังกล่าว อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากเข้ามากระทบอีกรอบก็อาจจะทำให้รายได้ปีนี้ปรับตัวลดลงกว่าปีก่อนเล็กน้อย จากเดิมที่เคยตั้งเป้าจะเติบโตกว่าปีก่อน 10-15%
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนผลการดำเนินงานของโรงพยาบาล แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี คาดว่าปีนี้จะขาดทุนราว 30-40 ล้านบาทโดยคาดจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 5-7 ปี หากจำนวนผู้ป่วยเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้บริการ คลินิกแพทย์แผนไทย แผนกไตเทียมแล้วและเปิดรับสิทธิสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บัตรทอง 30 บาท หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมถึงสิทธิข้าราชการ ตามสิทธิกรมบัญชีกลาง ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
โรงพยาบาล แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา ที่เราถือหุ้นอยู่ 65% ปัจจุบันเราควบคุมหมดทุกสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นบัตรทอง ประกันสังคม หรือบัตรข้าราชการซึ่งในช่วงไตรมาส 2/2563 รายได้ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก แต่ก็ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นตามที่เราคาดหวังมากนัก เนื่องจากมีโควิด-19 เข้ามา ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้เราก็มีการเน้นไปในส่วนของการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นตัวเลขก็น่าจะเติบโตขึ้น แต่อย่างไรก็ตามปีนี้คาดว่าจะขาดทุนอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท เป็นไปตามการลงทุน
จุดแข็งของ BIZ อยู่ที่การเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงผู้เดียวของผลิตภัณฑ์ชุดเครื่องฉายรังสีของ Varian : บริษัทดำเนินธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา (Radiotherapy) ภายใต้ตราสินค้า Varian ซึ่งเป็นผู้นำตลาดเครื่องฉายรังสีในประเทศ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Exclusive Distributor) และให้บริการซ่อมบำรุงรักษาชุดเครื่องมือฯ ให้แก่ลูกค้าที่มีการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ปี 62 อยู่ที่ 74% และ 20% ตามลำดับ และอีก 6% เป็นรายได้อื่น ทั้งนี้สามารถแบ่งประเภทลูกค้าเป็น โรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยแพทย์ โรงพยาบาลเฉพาะทางโรคมะเร็ง และโรงพยาบาลทั่วไปมีสัดส่วนรายได้ 12% 39% และ 49% ตามลำดับ
กำไรที่สวยงามและรายได้ที่ต่อเนื่องจากโรงพยาบาล น่าจะทำให้ราคาหุ้น BIZ ไม่ร่วงลงไปที่นักวิเคราะห์ให้ราคาต่ำมากเพียงแค่ 3.75 บาทเท่านั้น
ราคาของนักวิเคราะห์ กับความคาดหวังของนักลงทุน มักจะไปคนละทิศทางอย่างนี้แหละ
ใครจะชนะ ค่อยว่ากันไป