1,680 ครั้งที่ 2

*จริง ๆ “โมนิก้า” เชื่อว่า ดัชนีจะวิ่งผ่านแนวต้าน 1,680 จุดได้สบาย ๆ เพราะปัจจัยหลายอย่างเอื้อให้สุด ๆ ผสานกับผลงานของบริษัทจดทะเบียนก็แจ่ม ๆ ทั้งนั้น จึงรู้สึกดีใจทุกครั้งที่เห็นดัชนีเดินหน้าขึ้นวันละนิดวันละหน่อย เพราะเที่ยวนี้ต้องการดันให้ผ่านจริง ๆ ผสานกับได้เวลายกฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำเพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจในชีวิตพะยะค่ะ

*ถึงกระนั้นก็ยังมีเรื่องที่ทำให้ต้องคิดอยู่ดี เพราะดัชนีต้องใช้เวลากว่า 6 เดือนถึงจะฝ่าแนวต้าน 1,650 จุดขึ้นไปแบบสวย ๆ แถมมีวงรอบในการทดสอบแนวต้านดังกล่าวถึง 4 ครั้งด้วยกัน และพอถึงครั้งที่ 5 ก็ผ่านไปได้ ขณะที่การทดสอบแนวต้าน 1,680 จุด ก็เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 “โมนิก้า” จึงไม่อาจเอื้อมคิดไปไกลกว่านั้น และขอดูสถานการณ์แบบ “วันต่อวัน” เพื่อให้แน่ใจว่า นักเล่นสถาบันจะไม่ทุบหุ้นเหมือนที่เช่นที่ผ่านมานะจ๊ะ

*ที่สำคัญคือ เดี๊ยนเคยเม้าท์ให้ฟังตั้งแต่กลางสัปดาห์ว่า แพทเทิร์นการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นแบบ V-Shape ซึ่งมีจุดวัดใจอยู่ที่ระดับ 1,680 จุด แถมวันนี้ดัชนีกำลังมีแพทเทิร์นเหมือนที่เม้าท์ให้ฟังเสียด้วย “โมนิก้า” จึงต้องถามแฟนคลับกลับไปว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,669.05     จุด บวกไป 1.30 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.80 หมื่นล้านบาท เหมาะต่อการเข้ามาเล่นแบบโหนกระแสขนาดไหน?..ลองไปคิดกันดูเจ้าค่ะ

*คล้ายกับการดีดตัวขึ้นของหุ้น KTC มาปิดที่ระดับ 65.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.31 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการขึ้นต่อเนื่อง 4 วันติด ทั้งที่ก่อนหน้านอนนิ่งเป็นแรมเดือน จึงตีความได้ทันทีว่า เที่ยวนี้เป็นการเด้งรับกำไรที่จะโตในอนาคต ผนวกกับเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มแลกการ์ด บรรดาผู้เล่นค่ายต่าง ๆ เลยกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง เพราะมีโอกาสที่หุ้นจะวิ่งกลับไปที่ยอดเดิมบริเวณ 80 บาทไงล่ะคะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงคำโบราณที่ว่า “น้ำพริกถ้วยเก่า” ขึ้นมาทันที โดยเฉพาะแรงซื้อที่มุ่งมาที่หุ้น SAWAD จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 63.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 937 ล้านบาท ทั้งที่ 4 เดือนก่อนหน้าออกมาอาการตะกุกตะกัก มันคือภาพที่ชี้ชัดว่า เที่ยวนี้คงเล่นรอบอีกตามเคย และมองยอดบนได้ถึงระดับ 68 บาทอย่างแน่นอน ส่วนถึงแล้วจะเป็นอย่างไร?.. ก็ต้องดูกันต่อไปจ้า!

*เรื่องราวที่เม้าท์ให้ฟังข้างต้น ก็คล้ายกับเรื่องราวของพ่อดอกมะลิ JAS ซึ่งสาละวนอยู่กับเรื่อง “รักๆ เลิกๆ” เลยไม่รู้กันสักทีว่า ลงเอยกับใคร? และเป็นปริศนาให้นักเล่นต้องเดากันต่อไป ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ขาใหญ่เข้ามาปั่นกระแสกันสนุกมือ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลใจที่วานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.48 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.84 พันล้านบาท เพราะนักเล่นชอบฟัง “ข่าวลือ” มากกว่าน่ะซี

*ส่วนคนที่ถนัดสายฮาร์ดคอร์เป็นหลัก “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นปั๊มน้ำมัน SUSCO เพราะการพุ่งพรวดขึ้นไปถึงระดับ 4.16 บาท ต่อจากนั้นไหลลงมาปิดที่ระดับ 4 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 10.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175 ล้านบาท เหมือนเป็นการลากไปเชือดมากกว่าประเด็นอื่น แถมเหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยมีให้เห็นมาแล้ว เดี๊ยนจึงรู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูกพะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องราวที่สร้างความหวั่นใจขึ้นมาทั้งที เดี๊ยนคงมองไปที่หุ้นฟอร์มสดที่ขึ้นร่วมสัปดาห์อย่าง NCL เป็นรายถัดมา เพราะการขึ้นมายืนที่ระดับ 5.25 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.96% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130 ล้านบาท ทั้งที่ต้นเดือน ม.ค. ยืนต๊อกแต๊กอยู่ที่ 3.50 บาท เหมือนเป็นการย้ำให้ขาลุยได้รู้ว่า เกมหุ้นเที่ยวจะซัดกันยาว เพราะปีนี้กำไรจะมาตามนัดประมาณนั้นมั่ง!..จริงหรือไม่ ก็ต้องดูกันต่อไปจ้า!

*ในเมื่อต้องติดตามดู และต้องลุ้นกันต่อไป “โมนิก้า” คงเทหน้าตักทั้งหมดไปที่หุ้น INSET เพื่อตอกย้ำให้ทุกคนได้เข้าใจภาพของ “ดาต้าเซ็นเตอร์” ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม เพราะการที่ “กัลฟ์” ประกาศเดินหน้าทำธุรกิจตรงนี้เต็มตัว ย่อมส่งผลดีสำหรับหุ้นตัวนี้เต็ม ๆ เพราะเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการทำดาต้าเซ็นเตอร์ เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 6.70 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 274 ล้านบาท น่าสนใจสุด ๆ เจ้าค่ะ