ฝรั่ง-กองทุน เล่นอะไรกัน
ดัชนี SET ปิดบวกมา 7 วันต่อเนื่องกันแล้ว
ดัชนี SET ปิดบวกมา 7 วันต่อเนื่องกันแล้ว
เมื่อวานนี้ปิดบวกอีก 3.02 จุด มาปิดที่ 1,677.24 จุด มูลค่าการซื้อขายกลับมานาแน่นกว่า 76,267 ล้านบาท
ก่อนที่ตลาดหุ้นจะเปิดเทรดช่วงภาคเช้า
นักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า วันนี้ (7 ก.พ.) ตลาดจะลงแน่ ๆ
พร้อมกับแนะนำให้นักลงทุน “ปรับพอร์ต” หรือขายทำกำไรหุ้นออกไปบ้าง และให้ไปรอรับ หากดัชนีลงมาบริเวณ 1,650 จุด
ทว่าวานนี้ ดัชนีเปิดตลาดบวกได้เพียง 5-10 นาที
หลังจากนั้น ดัชนีวูบลงไปในแดนลบ และลงไปลึกสุด 1,667.29 จุด หรือลดลงมา 6.93 จุด
ก่อนที่ดัชนีจะค่อย ๆ ไต่กลับขึ้นมาและปิดตลาดช่วงเที่ยงแบบบวกเล็กน้อย
บ่าย ตลาดยืนในแดนบวกได้ค่อนข้างแข็ง
ดัชนี SET ขึ้นไปสูงสุด 1,681.17 จุด(บวก 6.95 จุด) ชนแนวต้าน 1,680 จุดพอดี
แต่ดัชนียืนเหนือแนวต้านไม่ได้ ลงมาปิด 1,677.24 จุด บวก 3.02 จุด
ทำให้ดัชนี SET ปิดแดนบวกถึง 7 วันติดต่อกัน
มีประเด็นที่น่าสังเกตคือ SET เลือกที่จะ “ปรับฐาน” หรือพักฐานระหว่างวัน
แต่ที่สุดแล้ว ท้ายตลาด ดัชนีขึ้นมาปิดแดนบวกได้
อย่างที่รับทราบกัน
ดัชนีจะปิดบวก หรือลบ ขึ้นอยู่กับนักลงทุน 2 กลุ่ม คือ นักลงทุนต่างประเทศ และนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุน
อย่างเมื่อวานนี้ แม้กองทุนจะสาดหรือขายหุ้นใน SET ออกมา 2,494 ล้านบาท
แต่ต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิ 3,670 ล้านบาท
วันที่ดัชนีปิดบวกใช่วง 7 วันที่ผ่านมา
จะเห็นว่าต่างชาติ กับกองทุน จะซื้อและขายสุทธิสลับวันกันไป
อาจจะมีบางวันที่พร้อมใจกัน “ซื้อ”
และยังไม่มีวันไหนที่ทั้งต่างชาติ และกองทุนพร้อมใจกันขาย
คำถาม คือ แล้วนักลงทุนสองกลุ่มนี้จะเทรดกันไปแบบนี้ ถึงเมื่อไหร่กันล่ะ หรือจะพร้อมใจกับ “ขาย” ในวันไหน
แน่นอนว่า หากสองกลุ่มนี้พร้อมใจกันขาย น่าจะกดดัชนี SET ลงไปพอสมควร
คำตอบ คือ ยากที่จะตอบ
เพราะการเข้าหุ้นของนักลงทุนสองกลุ่มจะเห็นว่า เช่น ต่างชาตินั้นจะมีการเข้าซื้อหุ้นแบงก์ก่อนหน้านี้อย่าง KBANK BBL KTB และรวมถึง TISCO
เมื่อราคาหุ้นเหล่านี้ขึ้นไประดับหนึ่ง หรือใกล้เต็มมูลค่า
หุ้นจะถูกเทขายออก
เมื่อวานนี้ หุ้นกลุ่มแบงก์ช่วงภาคเช้าได้ถูกได้เช่นกัน
ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับในช่วงภาคบ่าย และดันขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้ เช่น BBL KTB SCB
ส่วน KBANK หลังมีการขายทำกำไร กดราคาหุ้นลงไปต่ำสุดที่ระดับ 150.00 บาท
แต่ท้ายตลาดมีแรงซื้อขาย กลับขึ้นมาปิด 152.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
วานนี้ต่างชาติน่าจะเข้าซื้อหุ้นน้ำมันด้วย เพราะน่าจะมีการเก็งเก็งกำไรจากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นไปถึง 100-120 เหรียญต่อบาร์เรล
และกองทุนน่าจะมีการขายหุ้นขนาดใหญ่ เช่น SCC GPSC GULF
รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA KCE HANA
ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่า ตลาดจะเคลื่อนไหวเหมือนกับช่วง 7 วันที่ผ่านมาไปจนถึงเมื่อไหร่
แต่วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ หากหุ้นตัวไหน ราคาขึ้นมาเยอะมาก พยายามอย่าตามเข้าไปน่าจะดีที่สุด
เพราะอาจจะถูกฝรั่ง และกองทุนสาดขายทำกำไรได้