โลจิสติกส์..หักเหลี่ยมโหด

กลายเป็นควันหลงที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบกระโจนเข้าไปทำตัวเผือกแบบไม่ลังเลใจ เพราะเรื่องเม้าท์เกี่ยวกับธุรกิจโลจิสติกส์เดินเข้าสู่โหมด “หักเหลี่ยมโหด”


*กลายเป็นควันหลงที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบกระโจนเข้าไปทำตัวเผือกแบบไม่ลังเลใจ เพราะเรื่องเม้าท์เกี่ยวกับธุรกิจโลจิสติกส์เดินเข้าสู่โหมด “หักเหลี่ยมโหด” แบบคาดไม่ถึง และไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ใครถูก..ใครผิด เพราะการแข่งขันในโลกของธุรกิจมักแอบตีท้ายครัวกันเป็นประจำ จนกลายเป็นประเด็นที่แมงลือเอาไปเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน และทำให้ข่าวสารที่ออกมาผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงไงล่ะคะ

*สถานการณ์ข้างต้นกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกหน้าบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้ และอยากให้แฟนคลับพิจารณาข่าวที่พูดกัน “ปากต่อปาก” มีน้ำหนักความน่าเชื่อถือไหม? ขณะเดียวกันก็เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลในหลายด้านไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่ทำให้รู้ว่า “ช้างสารชนกัน” ก็ทำให้แมงลือมีงานทำมากขึ้นกว่าเดิม (เม้าท์แตกอย่างสนุกสนาน)..อิอิอิ

*สาเหตุที่เม้าท์ถึงประเด็นนี้เพราะธุรกิจโลจิสติกส์ยังอยู่ในช่วงปีทอง และในช่วงที่ผ่านมาก็มีการเคลมตัวเองเป็นตัวเลือกหลักในการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะข่าวเม้าท์เกี่ยวกับรถไฟไทยจีนก็มีการพูดกันว่า จีนได้เปิดรับขนส่งเจ้าใหญ่ทั้งหมด 5 ราย ซึ่งตอนนี้มีอยู่ในใจแล้วจำนวน 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก 4 รายยังไม่ได้มีการพูดถึง แต่ในท้องตลาดกลับมีการสมอ้างกันอย่างเอิกเกริกเสียอย่างนั้น!

*ตรงนี้เป็นเรื่องราวที่ทำให้รู้ว่า ธุรกิจขนส่งมีการแข่งขันที่รุนแรง และกำลังเป็นช่วงของการโชว์พลังให้ทุกคนได้เห็น ส่วนผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไร? คงต้องติดตามดูกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง แถมพรายกระซิบก็แอบเม้าท์ให้ฟังว่า ใครจับจ้องสมรภูมิตรงนี้ได้ก่อน รับรองกำไรโตระเบิดระเบ้อ เพราะมูลค่าของการขนส่งสินค้าในแต่ละเดือนมีมหาศาลจริง ๆ จึงกลายเป็นหนังเรื่องยาวที่ชี้ว่า หุ้นตัวไหนจะแรลลี่ไงล่ะคะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องกลับมาเม้าท์ควันหลงในทำนอง “ชิงรักหักสวาท” ระหว่าง Flash กับ Kerry กันอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีบริษัท Shipsmile สวมบทนางเอกที่ทำให้เกิดรักร้าวขึ้นมาเสียอย่างนั้น เดี๊ยนจึงต้องเข้าไปร่วมแจมอย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องที่ได้ยินมันช่างโหดร้ายสำหรับเจ้าพ่อขนส่ง “สีเหลือง” ขณะที่เจ้าพ่อขนส่ง “สีส้ม” ก็เข้าสู่โหมดลอยตัวอยู่เหนือปัญหาเสีบฉิบพะยะค่ะ

*ว่ากันว่า เดิมทีค่ายสีเหลืองเป็นคนช่วยฟูมฟักนางเอกอย่างถนุถนอม มีอะไรก็ประเคนให้หมดไม่มีเหลือสักอย่าง จนจำนวนสาขาที่ไว้กระจายสินค้าไต่เต้าจากระดับ 400 สาขา ทะยานขึ้นไปแตะระดับ 4,000 สาขา พร้อมกับปล่อยให้นางเติบโตในวิถีของตัวเองที่อยากจะเป็น แต่ยังคงให้การซับพอร์ตแบบห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ซึ่งเป็นสัมพันธ์ภาพที่ดีมาก ๆ สำหรับการทำธุรกิจแบบเกื้อหนุนกันนะจะบอกให้

*น่าเสียดายที่นางเอกดันแอบจับมือกับคู่ปรับตัวฉกาจค่ายสีส้มหน้าตาเฉย เลยทำให้ค่ายสีเหลืองไม่พอใจอย่างแรง พร้อมกับเปิดปฏิบัติการตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจแบบไม่เผาผี พร้อมกับประกาศให้โลกรู้ว่า หยุดให้บริการขนส่งพัสดุผ่านจุดบริการรับพัสดุ Ship Smile ทุกสาขา! และยังการแนะนำให้ลูกค้าไปใช้บริการของ “แฟลชโฮม” และ “แฟลชช้อป” ทั่วประเทศอีกด้วยแบบนี้..มันเหมือนตัดช่องทางทำมาหากินกันเลยนะคะ

*งานนี้จริงเท็จประการใดไม่อาจรู้ได้ เพราะเดี๊ยนก็ดูตามไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้จนถึงทุกวันนี้คือ วงการขายของออนไลน์เกิดอาการสั่นสะเทือนกันเป็นแถบ เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า เวทีแห่งนี้เป็นการแข่งขันเรื่องราคา ความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในบริการ ผสานกับมีการขายแฟรนไชส์ออกไปหลายสาขา เลยทำให้ผู้คนที่เกี่ยวข้องไปต่อไม่ถูกกันทั้งบาง..งานนี้ใครอยากจะชี้แจงอะไรเพิ่ม เดี๊ยนยินดีเป็นกระบอกเสียงให้ทันที เพราะอยากให้ทุกคนรักกันเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายกันที่บรรยากาศการลงทุนที่ “ลุ่ม ๆ ดอน ๆ” ก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียสแต่อย่างใด เพราะรอบก่อนก็ติดแหงกอยู่แถว ๆ 1,680 จุดพักใหญ่ “โมนิก้า” จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,677.24 จุด บวกไป 3.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.62 หมื่นล้านบาท ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงเชื่อว่า เดือนนี้มีลุ้นขึ้นไปถึง 1,700 จุดอย่างไม่ต้องสงสัยนะตัวเอง

Back to top button