SABUY ปี 65 กำไรสบาย

คุณค่าบริษัท

มีพัฒนาการให้เห็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จากเดิมเป็นแค่ตู้เติมเงิน ตู้แมชชีนขายสินค้าและเครื่องดื่ม แต่ปัจจุบัน SABUY กำลังลบภาพดังกล่าว ด้วยการก้าวไปสู่การเป็น “SABUYVERSE” หรือจักรวาลในแบบของ SABUY ที่ครอบคลุมภาคธุรกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนในทุกมิติ ผ่าน 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจ Payments ธุรกิจ Merchandising ธุรกิจ Solutions ธุรกิจ Financial Services และธุรกิจ New Economy ซึ่งครอบคลุมในธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมและสินทรัพย์ดิจิทัล

ขณะที่ปี 2565 นี้ ผู้บริหารประกาศปรับเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 100% สูงกว่าที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ที่ 80% หลังจากช่วง 9 เดือนแรกในปี 2564 ทำผลงานโดดเด่น โชว์รายได้รวม 1,444.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,117.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 136.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70.3 ล้านบาท

โดยในปีนี้จะเน้นการเติบโตจาก 5 ธุรกิจหลัก ผ่านกลยุทธ์ 7 สะดวก เพื่อชีวิตที่สบายของผู้บริโภค 7 SMART การพัฒนาเทคโนโลยีให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มพื้นที่เป้าหมาย และ 7 Rising Stars หรือ 7 ธุรกิจดาวรุ่งในปี 2565 ที่จะเข้าไปลงทุน โดยตั้งงบลงทุนไว้กว่า 5,000 ล้านบาท รองรับการซื้อกิจการไม่น้อยกว่า 10 ดีล และเข้าร่วมทุนต่อยอดธุรกิจ สู่การเป็น SABUYVERSE

จากกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้มีการประเมินกันว่า การเติบโตของกำไรในช่วง 3 ปี (2564-2566) ของ SABUY เฉลี่ยจะสูงกว่า 145% ต่อปี โดยประเมินว่ากำไรในปี 2565 กรณีรวมการลงทุน 5 ดีล และแผน 7 สะดวก 7 SMART 7 Rising Stars มีโอกาสเพิ่มเป็น 800-1,000 ล้านบาท ทะลุประมาณการที่ 606 ล้านบาท เติบโต 200% และปี 2566 กำไรมีโอกาสมากกว่าประมาณการที่ 909 ล้านบาท เป็น 1,200-1,500 ล้านบาท

ขณะที่ล่าสุด SABUY เพิ่งประกาศเข้าลงทุนในกลุ่มบริษัทโอมันนี่ (OMoney) ประกอบไปด้วย บริษัท โอมันนี่ กรุงเทพ จำกัด (OMB) บริษัท โอมันนี่ ปทุมธานี จำกัด (OMP) และ บริษัท โอมันนี่ สมุทรสาคร จำกัด (OMS) ทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อย และเข้าลงทุนในบริษัท คาร์ฟินน์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (CarFinn) ทำธุรกิจรถ

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น SABUY ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 217.31 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 21.06 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาดมาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าหลังจากประกาศงบในไตรมาส 4/2564 และงบปี 2564 ออกมาจะกด  P/E ได้มากน้อยแค่ไหน

…

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

1. นายชูเกียรติ รุจนพรพจี 376,535,275 หุ้น 31.86%
2. นายอานนท์ชัย วีระประวัติ 222,000,000 หุ้น 18.79%
3. บริษัท ที. เค. เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) 110,000,000 หุ้น  9.31%
4. น.ส.ภรัณยา รุจนพรพจี 66,352,900 หุ้น 5.61%
5. น.ส.อติกานต์ จึงวิวัฒนวงศ์ 50,000,000 หุ้น 4.23%

รายชื่อกรรมการ

1. นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
2. นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
3. นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองประธานกรรมการ
4. นายวชิรธร คงสุข กรรมการ
5. นายวิรัช มรกตกาล กรรมการ