PIMO งานล้นมือ

PIMO ซึ่งเป็นผู้ผลิตมอเตอร์ยังทำผลงานได้ค่อนข้างดี ในช่วงที่หลาย ๆ ธุรกิจเผชิญกับวิกฤตโควิด


คุณค่าบริษัท

ในช่วงที่หลาย ๆ ธุรกิจเผชิญกับวิกฤตโควิด แต่ดูเหมือนบริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO ซึ่งเป็นผู้ผลิตมอเตอร์ ทั้งเครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์ปั๊มบ้าน และมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ ยังทำผลงานได้ค่อนข้างดี

ดูได้จากในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2564 ที่ยังเติบโตทั้งในแง่รายได้และกำไร โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 730.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 587.72 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 75.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 62.73 ล้านบาท หลัก ๆ มาจากยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่ารายได้รวมในปี 2564 จะแตะ 1,000 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิก็จะเติบโตในทิศทางเดียวกันกับรายได้

ขณะที่แนวโน้มในปี 2565 ยังเติบโตได้ต่อ จากการปรับกลยุทธ์หันมารับออเดอร์ล่วงหน้า ทำให้บริษัทรู้ถึงความต้องการของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรได้มากขึ้น โดยในเดือน ม.ค. มีรายได้จากการขายแล้วประมาณ 120 ล้านบาท ด้วยปริมาณการผลิตมอเตอร์ที่ 120,000 ลูก ส่วนเดือน ก.พ. มีออเดอร์ผลิตมอเตอร์แล้ว จำนวน 125,000 ลูก และเดือน มี.ค. มีออเดอร์ผลิตมอเตอร์ จำนวน 130,000 ลูก

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีออเดอร์ล่วงหน้าแล้ว 8 เดือน หลัก ๆ เป็นออเดอร์จากลูกค้าต่างประเทศ ในกลุ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ และมอเตอร์ชนิดพิเศษ ทำให้คาดว่าในปีนี้จะมียอดส่งออกสัดส่วน 60-70% รวมทั้งมีการพัฒนาสินค้าเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยในปีนี้จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น มอเตอร์สำหรับใช้ในเครื่องสีข้าว มอเตอร์สำหรับใช้ในปั๊มน้ำยาง และระบบควบคุมการขับเคลื่อนมอเตอร์ เป็นต้น รวมถึงจะมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 240 ลูกต่อวัน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 120 ลูกต่อวัน อีกทั้งในปี 2566 บริษัทมีแผนจะขยายตลาดไปยังยุโรป และแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีการผลิตปั๊มน้ำเยอะที่สุดของโลก

ขณะที่อีกไฮไลท์อยู่ที่การผลิตมอเตอร์ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่ง PIMO ได้ร่วมกับพันธมิตร จีพี มอเตอร์ (ประเทศไทย) ศึกษาและพัฒนาโครงการมอเตอร์สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพ ซึ่งคาดในไตรมาส 4/2565 จะเริ่มมีการซื้อขายเกิดขึ้น โดยในปีแรกคาดจะผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ประมาณ 5,000-10,000 คัน และจะขยายเพิ่มในปี 2566-2567 หลังจากที่ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น PIMO ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 24.04 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 21.04 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าหลังจากประกาศงบในไตรมาส 4/2564 และงบปี 2564 น่าจะปรับลดลง เพราะคาดการณ์กันว่า กำไรทั้งในไตรมาส 4/2564 และปี 2564 จะเติบโตก้าวกระโดด

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. น.ส.ปรางวดี อิทธิโรจนกุล 67,642,740 หุ้น 10.97%
  2. น.ส.ชิดชนก อิทธิโรจนกุล 65,577,840 หุ้น 10.64%
  3. น.ส.นรีรัตน์ อิทธิโรจนกุล 64,978,100 หุ้น 10.54%
  4. น.ส.สิริรัตน์ อิทธิโรจนกุล 64,966,700 หุ้น 10.54%
  5. นายปภัสร์ อิทธิโรจนกุล 64,966,600 หุ้น 10.54%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายเสถียร ภู่ประเสริฐ ประธานกรรมการ
  2. นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
  3. น.ส.สิริรัตน์ อิทธิโรจนกุล กรรมการ
  4. นางพจมาน วงศ์สุวรรณ กรรมการ
  5. นายคริสโตเฟอร์ โรเบิร์ต เทป กรรมการ

Back to top button