หุ้นเหมืองบิตคอยน์
*วานนี้สปอร์ตไลท์ทุกดวงสาดส่องไปยังหุ้นที่ทำเหมืองบิตคอยน์อย่างเจิดจ้า เพราะเชื่อกันว่า นี่คือธุรกิจดาวรุ่งที่จะทำเงินมหาศาลให้กับบริษัทเหล่านั้น พร้อมกันนั้นก็ปรากฏชื่อขาใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้แมงเม่าเฮโลตามกันเป็นพรวน จึงเป็นประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากหยิบยกขึ้นมาเม้าท์มากสุด เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้คนหลายฝ่ายไงล่ะคะ
*วานนี้สปอร์ตไลท์ทุกดวงสาดส่องไปยังหุ้นที่ทำเหมืองบิตคอยน์อย่างเจิดจ้า เพราะเชื่อกันว่า นี่คือธุรกิจดาวรุ่งที่จะทำเงินมหาศาลให้กับบริษัทเหล่านั้น พร้อมกันนั้นก็ปรากฏชื่อขาใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้แมงเม่าเฮโลตามกันเป็นพรวน จึงเป็นประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากหยิบยกขึ้นมาเม้าท์มากสุด เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้คนหลายฝ่ายไงล่ะคะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ไม่วอรี่กับการทรุดตัวของดัชนีมากนัก เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกจะถูกกดันจากข่าวสงครามต่อไปไม่มีกำหนด แต่ถ้าคิดทบทวนเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาจะเห็นว่า อเมริกาก็เคยขู่จะทำสงครามกับจีนมาแล้ว หรือแม้กระทั่งกับเกาหลีเหนือก็เคยมีท่าทีฮึ่มใส่มาแล้วเช่นกัน เดี๊ยนถึงมองท่าทีแข็งกร้าวที่มีต่อประเทศรัสเซียเป็นเพียงบทละครหนึ่ง เพื่อปั่นน้ำมันให้มีราคาสูงขึ้นกระมัง..อิอิอิ
*งานนี้ใครจะคิดอย่างไรก็ช่าง หรือจะไม่คิดอะไรก็ช่าง เพราะเดี๊ยนมีหน้าที่เผือกไปหมดทุกเรื่อง จึงขอฟันธงการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,684.69 จุด ลบไป 14.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.63 หมื่นล้านบาท มันเป็นผลกระทบที่หุ้นบลูชิพจะต้องรับหน้าเสื่ออีกระยะหนึ่ง และต้องทำหน้าที่เป็นเดอะแบกไปพร้อมกันด้วย “โมนิก้า” ถึงมั่นใจว่า การทยอยรับของที่บริเวณแนวรับ 1,680 จุด น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีเงินเย็นนะจะบอกให้
*วกกลับมาที่เรื่องทำเหมืองบิตคอยน์กันดีกว่า เพราะจุดเริ่มต้นของการลากหุ้นให้โลกจำมาจาก JTS ประกาศทำเหมืองขุดบิตคอยน์เป็นเจ้าแรก ต่อจากนั้นก็มีแรงซื้อไหลทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค. 64 ซึ่งมีการประกาศอย่างเป็นทางการ ราคาหุ้นก็ไต่เพดานจากระดับ 80 บาทขึ้นมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดหุ้นยืนปิดที่ระดับ 268 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 310 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทะยาน 200% ภายใน 2 เดือนครึ่งแบบนี้ น้องโมพูดได้แค่ว่า แรงเหลือเกินพ่อคุณ!
*ถัดมาก็เป็นรายของหุ้นเหล็กอย่าง ZIGA ซึ่งประกาศตัวเอากับเขาด้วยคน และมีเสียงร่ำลือตามห้องค้ามากมายว่า เที่ยวนี้เป็นบิ๊กเชนจ์สำหรับธุรกิจ บรรดาขาลุยเลยกระโจนใส่มือเป็นระวิงในช่วง 5 วันที่ผ่านมา จนราคาหุ้นขยับจากฐาน 5 บาท ขึ้นมายืนแถว ๆ 9 บาท ขณะที่วานนี้พุ่งขึ้นมาปิด 11.90 บาท บวกไป 2.70 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.86 พันล้านบาท จึงเป็นช็อตที่ทำให้ ตลท. ต้องรีบออกมาเตือนก่อนจะบานปลายไงล่ะคะ
*ยิ่งเห็นโมเดลการขนเงิน 800 ล้านของหุ้นร้อนอย่าง UPA ไปลงทุนทำเหมืองขุดบิตคอยน์ที่ฝั่งลาว ยิ่งเหมือนเป็นการสุมไฟให้ประเด็นดังกล่าวร้อนแรงขึ้นกว่าเดิม และมีการเม้าท์กันให้แซ่ดว่า นี่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่! เพราะเป็นการเทเงินก้อนใหญ่เพื่อแลกกับการถือหุ้น 25% ซึ่งไม่รู้ว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นแบบไหน? ส่วนราคาหุ้นในกระดานก็เด้งรับข่าวด้วยการขึ้นมาปิดที่ 0.59 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.44 พันล้านบาทเชียวน่า!
*ส่วนอีกรายที่มีข่าวทำเหมืองขุดมาระยะหนึ่ง แต่ราคาหุ้นเพิ่งอินกับเขาด้วยคนนั้น “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น AJA เพื่อชี้ให้เห็นการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.72 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 16.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.98 พันล้านบาท น่าจะเป็นการเกาะกระแสธรรมดา ๆ ไม่มีประเด็นต้องซีเรียสมากมาย เพราะหุ้นเพิ่งขึ้นวันแรกเท่านั้นเอง..แถมเมื่อดูสายสัมพันธ์ที่มีต่อกลุ่มทุนใหญ่ในจีน ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามดูไปเรื่อย ๆ นะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในรายของ ECF ก็กระโจนเข้าสู่สนามนี้ด้วยเช่นกัน และมีประเด็นให้น่าติดตามไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะแรงซื้อที่ทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.46 บาท บวกไป 0.56 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท เดี๊ยนมองได้แค่ว่า นี่เป็นการกระแสที่ขาลุยต้องมีของไว้เล่น ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหน? อันนี้ต้องตามดูกันเอาเองนะตัวเอง
*ส่วนคนที่ลงทุนบิตคอยน์อย่าง BROOK ก็โหนกระแสกับเขาด้วยเต็ม ๆ หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.08 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 480 ล้านบาท คงเป็นผลมาจากช็อตแรกที่ประกาศทุ่มเงิน 200 ล้านบาทลงทุนในเหรียญดังกล่าว และช็อตที่สองก็ประกาศเดินหน้าใส่เงินลงทุนให้ครบ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะครอบคลุมเหรียญ 4 สกุลหลักแบบนี้กระมัง!..เลยมีประเด็นให้ดันหุ้นกันต่อเจ้าค่ะ