ASW เล็กพริกขี้หนู..!

นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้โดดเด่นท่ามกลางวิกฤตโควิด สำหรับ ASW


คุณค่าบริษัท

นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้โดดเด่นท่ามกลางวิกฤตโควิด สำหรับบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW สะท้อนได้จากผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ที่มีรายได้รวม 3,498.97 ล้านบาท กำไรสุทธิ 735.12 ล้านบาท ซึ่งเกือบเท่ากับทั้งปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 873.90 ล้านบาทเลยทีเดียว

ASW เน้นทำคอนโดมิเนียมแนว Low Rise จับตลาดชานเมือง โดยเป็นโครงการไม่ใหญ่มาก ทำให้ปิดการขายได้เร็ว ขณะที่จุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจ คือ เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่สามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ค่อนข้างสูง โดยในไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 42.63% ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 20-22% ในขณะที่ค่ายอสังหาฯ อื่น ๆ อัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 10% เท่านั้น สาเหตุมาจากบริษัทสามารถหาที่ดินเปล่าได้ค่อนข้างถูก ซึ่งเกิดจากกระบวนการคัดเลือกที่ดินที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับมีการบริหารจัดการต้นทุนค่าก่อสร้างโครงการและได้อัตราดอกเบี้ยโปรเจกต์ ไฟแนนซ์ ค่อนข้างต่ำนั่นเอง

สำหรับปี 2565 ASW มั่นใจจะเติบโตได้ต่อเนื่อง จากกลยุทธ์การจับมือกับพันธมิตร ทั้งในรูปแบบการร่วมทุน (JV) การเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการร่วมมือในรูปแบบ Collaboration เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน ด้วยเป้าหมายจะมีรายได้รวมที่ 6,000 ล้านบาท ผ่านการรับรู้แบ็กล็อกที่มีในมือมูลค่ารวมกว่า 7,338 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 2566

โดยในปีนี้จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 7 โครงการ รวมจำนวน 2,674 ยูนิต  มูลค่าโครงการรวม 6,600 ล้านบาท และล่าสุดบริษัทยังมีสินค้าพร้อมขาย (สต๊อก) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการขายอย่างต่อเนื่อง

สำหรับยอดขาย (Presale) ในปี 2565 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,400 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ และโครงการบ้านแนวราบ จำนวน 2 โครงการ โดยทุกโครงการมีที่ดินรองรับหมดแล้ว

อีกกลยุทธ์ที่ ASW เน้นสร้างการเติบโตระยะยาว คือ การหันไปมุ่งสู่รายได้ประจำมากขึ้น โดยในปีนี้มีแผนลงทุนก่อสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้แบรนด์ Mingle Mall แห่งที่ 3 ในทำเลมีนบุรี มูลค่าการลงทุนรวมราว 400-500 ล้านบาท คาดจะสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2566 ซึ่งคาดในช่วง 2-3 ปีแรก จะสร้างรายได้ประจำได้ประมาณ 30-50 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจสุขภาพและความงาม ผ่านบริษัท ดับบลิวเอชบี จำกัด อีกด้วย

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น ASW ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 5.34 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 21.37 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาดมากหลายเท่าตัว เช่นเดียวกับ P/BV ที่ระดับ 1.53 เท่า (ราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี) ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.83 เท่า

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. บริษัท เวลท์ แคปปิตอล วัน จำกัด 209,916,000 หุ้น 27.58%
  2. นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์  194,937,200 หุ้น 25.62%
  3. นายเอกรัตน์ จาวโกนันท์ 30,676,700 หุ้น 4.03%
  4. นายพรธงชัย วิพันธ์พงษ์ 22,187,700 หุ้น 2.92%
  5. นางเพชรลักษณ์ วิพันธ์พงษ์  22,187,700 หุ้น 2.92%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายศราวุธ จารุจินดา ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
  2. นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  3. นายวีรพันธ์ วิพันธ์พงษ์ กรรมการ
  4. น.ส.ปณีตา มาลัยวงศ์ กรรมการ
  5. นายสุเชฏฐ์ ฤทธีภมร กรรมการ
  6. น.ส.ธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ กรรมการอิสระ
  7. นายเกรียงไกร บุญเลิศอุทัย กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  8. นายนภดล ร่มโพธิ์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  9. นายกอบเกียรติ ธนัญชยะ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ

Back to top button