GLOBAL รายได้เพิ่ม…กำไรพูน

ช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มค้าปลีกถูกมองว่า ผลประกอบการจะย่ำแย่ กำไรจะถูกล็อกดาวน์จากมาตรการโควิด แต่เสือภูธรอย่าง GLOBAL กลับโชว์ผลงานโตโดดเด่น


ช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มค้าปลีกถูกมองว่า ผลประกอบการจะย่ำแย่ กำไรจะถูกล็อกดาวน์จากมาตรการโควิด แต่เสือภูธรอย่างบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ร้านวัสดุก่อสร้างที่โตมาด้วยกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ประเดิมประกาศงบงวดปี 2564 เป็นเจ้าแรก กลับโชว์ผลงานโตโดดเด่น กำไรสุทธิโตตั้ง 70.03% อยู่ที่ 3,358 ล้านบาท จากปีก่อนเคยทำได้ 1,975 ล้านบาท

ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้…แถมยังเป็นตัวเลขที่สูงกว่าช่วงเกิดวิกฤตโควิดซะอีก…โดยปี 2561 มีกำไรสุทธิ 2,003 ล้านบาท จากรายได้รวม 26,262 ล้านบาท และปี 2562 มีกำไรสุทธิ 2,093 ล้านบาท จากรายได้รวม 29,182 ล้านบาท

จุดที่น่าสนใจ กำไรที่เพิ่มขึ้นของ GLOBAL นั้น ไม่ได้มาจากกำไรพิเศษเหมือนหลาย ๆ บริษัทหรอกนะ แต่มาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 24.72% อยู่ที่ 34,116 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการขาย 33,497 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.98% เป็นผลมาจากยอดขายของสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น และการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขา

และมีรายได้อื่น 618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.23% ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ส่งเสริมการขายและรายได้ค่าขนส่ง

โอเค…แม้ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25,067 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.87% แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่ารายได้ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 31.69% อยู่ที่ 8,430 ล้านบาท…

นั่นบ่งบอกว่า GLOBAL บริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี..!!

ประกอบกับในปีที่ผ่านมา บริษัทลูก ๆ ทำผลงานได้ดี ทำให้มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมค้าเพิ่มจาก 23 ล้านบาท ในปี 2563 เป็น 80 ล้านบาท ในปี 2564…ส่งผลให้กำไรบรรทัดสุดท้ายของ GLOBAL ทะยานอย่างที่เห็น…

เลยเป็นที่มาของรายได้เพิ่มกำไรพูนนั่นเอง..!!

แหม๊…ต้องยกความดีความชอบให้กับ “วิทูร สุริยวนากุล” แล้วล่ะ ที่สามารถทำให้ GLOBAL เติบโตได้ท่ามกลางสงครามโควิด…

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ GLOBAL มีเป้าหมายชัดเจนมุ่งเจาะตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ผ่านกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง อย่าง 4 สาขาที่เพิ่งเปิดใหม่ในปี 2564 ก็ล้วนตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ประกอบด้วย สาขาพยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม, สาขากบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี, สาขาหนองหาน จ.อุดรธานี และสาขาพาน จ.เชียงราย

ทำให้ช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดใหญ่ แต่สาขาของ GLOBAL ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แตกต่างจากบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ที่สาขาผูกอยู่กับห้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พอมีล็อกดาวน์สั่งปิดห้าง ก็ล็อกกำไรไปโดยปริยาย…

ในขณะที่ GLOBAL นอกจากยอดขายเพิ่มแล้ว ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี จึงทำให้ยอดขายที่เพิ่มขึ้น เมื่อหักต้นทุนออกแล้ว ก็ไหลไปเป็นกำไรอย่างที่เห็น…

งานนี้คนที่ยิ้มแก้มปริ ไม่ใช่ใครที่ไหน คงเป็นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่นั่นแหละ…เพราะแม้ GLOBAL จะไม่ใช่ลูกในไส้ เป็นแค่ลูกบุญธรรม แต่ก็ทำผลงานโดดเด่น ไม่เสียแรงที่รับมาอุปการะจริง ๆ…

ส่วนการที่ GLOBAL ยังยืนปันผลงวดปี 2564 เป็นเงินสดและหุ้น โดยจ่ายเป็นเงินสด 0.2548309179 บาทต่อหุ้น และจ่ายเป็นหุ้นในอัตรา 23.00 หุ้นเดิม : 1 หุ้นปันผล อาจเป็นเพราะต้องการเก็บกระสุน (เงินสด) เอาไว้ เพื่อไปใช้ลงทุนในโครงการใหม่ โดยเฉพาะการควงแขนแม่ SCC ไปบุกตลาดอินโดนีเซีย ทำให้ไม่ต้องแบกภาระทางการเงินเยอะเกินไป

ก็วิน-วินกันทุกฝ่าย…ในมุมผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพราะราคาหุ้น GLOBAL ก็ไม่ได้แย่นะ…

น่าจะแฮปปี้เอนดิ้งกันถ้วนหน้า…ดูออกแหละ

…อิ อิ อิ…

Back to top button