มีเสียวสันหลัง

วันนี้ “โมนิก้า” ขอเกริ่นถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกในจังหวะที่ “มะกัน” ทำตัวเป็นอันธพาลครองโลกสักหน่อย


*วันนี้ “โมนิก้า” ขอเกริ่นถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกในจังหวะที่ “มะกัน” ทำตัวเป็นอันธพาลครองโลกสักหน่อย เพราะเมื่อไล่เรียงเหตุการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีประเด็นไหนที่ทำให้เชื่อว่า บริสุทธิ์ใจ? เดี๊ยนถึงมองข่าวสงครามเป็นเพียงกุศโลบายที่ต้องการกวักมือเรียกให้คู่ขัดแย้งเข้ามาร่วมโต๊ะเจรจา ซึ่งเป็นงานถนัดที่เห็นได้บ่อยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานะนายจ๋า

*ยิ่งเห็นท่าทีของรัสเซียที่แบะท่ารอคำเชิญของอันธพาลโลก พร้อมกับหันมาใช้สงครามจิตวิทยาตอบโต้อย่างมีชั้นเชิง ยิ่งทำให้เข้าใจเหตุผลที่ “ปูติน” ต้องล้อมยูเครนต่อไปไม่มีกำหนด เพราะเกมต่อรองของประเทศมหาอำนาจต้องมีตัวประกันเป็นองค์ประกอบหลัก “โมนิก้า” ถึงเชื่อลึก ๆ ว่า การก่อสงครามในช่วงเวลานี้ไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น ยกเว้นต้องการเซ็ตซีโร่เศรษฐกิจโลกใหม่จริง ๆ ก็เอาให้พังกันทั้งหมดเลยแล้วกัน..อิอิอิ

*ในเมื่อทุกคนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นี่เป็นเกมปั่นน้ำมันให้มีราคาแพงขึ้น (96 เหรียญต่อบาร์เรล) และยังช่วยปั่นทองให้ราคาขยับขึ้นไปอีก (1,876 เหรียญต่อออนซ์) ก็อย่าแปลกใจที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเรื่องสงครามไปอีกนาน “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,701.45 จุด บวกไป 16.76 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.16 หมื่นล้านบาท เหมือนหายจากอาการแฮงค์ชั่วคราว และคงต้องใช้เวลาในการเรียกความสดอีกระยะหนึ่งนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่ยังมีอาการมึนตึ้บตลอดเวลา และน่าจะเมาหมัดต่อไปอีกนาน “โมนิก้า” คงโฟกัสไปที่หุ้นรถไฟฟ้ามาหานะเธอ BTS เพราะกำลังโดนรุมกระหน่ำอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ผนวกกับบรรดาผู้ท้าชิงตำแหน่ง “ผู้ว่า กทม.” ออกมาประสานเสียงเพื่อค้านต่อสัมปทาน เพราะเห็นว่า สัญญาดังกล่าวจะหมดลงปี 2572 จึงไม่มีความจำเป็นต้องนำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาเลยพับผ่าซิ!

*เมื่อเจอดอกนี้เข้าไปถึงกับหงายเงิบกันเป็นแถบ เพราะคนส่วนมากเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เลยทำให้วาระต่อสัมปทานกลายเป็นหมันยาว และทำให้รัฐบาลไม่อยากเข้ามาแตะเผือกร้อนชิ้นนี้สักเท่าไหร่ ผนวกกับคะแนนนิยมก็สาละวันเตี้ยลงเรื่อย ๆ  จึงมองไม่เห็นทางออกที่สวยหรูสำหรับฝั่ง “บีทีเอส” แถมเมื่อเจอเดดล็อกเรื่องราคาตั๋ว 20-25 บาทเข้าไปอีกหนึ่งดอก เลยไม่ต้องวิเคราะห์เรื่องอื่นให้เสียเวลานะจะบอกให้

*งานนี้ว่ากันว่า ตัวเต็งผู้ว่า กทม. คนใหม่อย่าง “ชัชชาติ” กับ “ดร.เอ้” เห็นพ้องในทางเดียวกันเรื่องราคาตั๋ว “โมนิก้า” ถึงมองว่า เรื่องนี้กระทบกับราคาหุ้น BTS กับ BTSGIF แบบเต็ม ๆ และอย่าคาดหวังราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้ในเร็ววัน เพราะเมื่อดูจากจำนวนผู้โดยสารในช่วงโควิดระบาดเป็นระลอก ก็รับรู้ด้วยตนเองทันทีว่า ปีนี้ยังต้องเหนื่อยต่อไป และต้องสวมวิญญาณเดอะแบกไปโดยปริยายพะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องเหนื่อยขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงชี้เป้าไปที่หุ้น ZIGA เพื่อชี้ให้เห็นความไม่ธรรมชาติของหุ้นเหล็กตัวนี้สักหน่อย เพราะราคาที่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.40 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.53 พันล้านบาท มันเป็นการวิ่งล่วงหน้าไปค่อนข้างเยอะ และยังเป็นการซื้ออนาคตที่โอเว่อร์เหลือหลาย เดี๊ยนจึงอยากให้แฟนคลับระวังเจ้ามือเลิกกลางคันให้ดี หลังทางการกระโดดลงมาเช็กบิลเรื่องนี้เต็มตัวน่ะซี

*อาการข้างต้นสังเกตได้จากสถานการณ์ของป้ายุภา UPA ซึ่งเริ่มมีการออกของไม้หนัก ๆ ให้เห็นเป็นระยะ จนราคาหุ้นรูดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 0.49 บาท (ทั้งที่ช่วงเช้าขึ้นไป 0.71 บาท) ก่อนจะไล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 0.57 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.41 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เริ่มไม่มีความแน่นอน และเริ่มส่งสัญญาณให้พวกแมงเม่าพึงระวังตัวไงล่ะคะ

*ส่วนอีกหนึ่งตัวอย่างที่นักเล่นน่าจะจำไว้เป็นบทเรียน น้องโมคงมองไปที่อดีตหุ้นสุดฮอตอย่าง XPG ซึ่งตอนนั้นเด้งรับข่าวคริปโตอย่างร้อนแรง และขึ้นไปยืนจังก้าแถว 4.50 บาทช่วงปลายเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว แต่หลังจากนั้นก็โรยราลงมาตลอด 5 เดือนครึ่ง จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 2.30 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือลงไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 368 ล้านบาท มันบอกอะไรให้ขาลุยรู้บ้าง?..คงคิดกันออกนะคะ

Back to top button