หุ้นทรงสวย..น่าเข้าซื้อ

ไป ๆ มา ๆ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของสงครามระหว่าง “รัสเซีย” กับ “ยูเครน” โดยมีตัวปั่นกระแสรายวันอย่าง “อเมริกา” คอยเติมเชื้อไฟตลอดเวลา


*ไป ๆ มา ๆ ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของสงครามระหว่าง “รัสเซีย” กับ “ยูเครน” โดยมีตัวปั่นกระแสรายวันอย่าง “อเมริกา” คอยเติมเชื้อไฟตลอดเวลา แถมยังติดนิสัยอ้างความชอบธรรมให้กับตัวเองเป็นประจำแบบนี้ “โมนิก้า” เม้าท์ได้ทันทีว่า นี่เป็นยุทธวิถีในการโน้มน้าวให้ทั่วโลกคล้อยตามไปด้วยกัน (สมัยก่อนเชื่อตามกันเยอะ) แต่สมัยนี้ไม่ค่อยมีประเทศไหนที่เชื่อตาม เพราะประเทศต่าง ๆ เปิดหูเปิดตากันมากขึ้นไงล่ะคะ

*น่าเสียดายที่ตลาดหุ้นอ่อนไหวต่อข่าวสู้รบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว “โมนิก้า” ถึงเข้าใจเหตุผลที่ตลาดหุ้นไทยทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,694.32 จุด ลบไป 18.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 แสนล้านบาท เพราะหลักในการลงทุนที่ใช้กันมานานเน้นเรื่อง “ขายทิ้งก่อน..ถามทีหลัง” ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยผันผวนไปตามข่าวสงครามรายวัน และทำให้แนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,700 จุดถูกทดสอบถี่ขึ้นในช่วงนี้เจ้าค่ะ

*เมื่อสถานการณ์โดยรวมไม่นิ่งเหมือนที่คาดหวัง “โมนิก้า” จึงขอมองไปที่หุ้นทรงสวยเป็นทางเลือกในการลงทุน และให้ความสำคัญกับการ “ลงแรง ขึ้นแรง” วันแรกท่ามกลางแรงกดดันเรื่องสงคราม พร้อมกันนั้นก็มองถึงผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นปัจจัยถัดมา จึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาข้อมูลที่นำเสนอโดนใจแค่ไหน? และสิ่งที่เล่าให้ฟังเป็นเรื่องเป็นราวทำให้หุ้นตัวนั้น ๆ น่าเข้าซื้อจริงไหม?..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

*โดยเฉพาะในรายของหุ้นซุปเปอร์โกรทที่ขายขนมขบเคี้ยวอย่าง SNNP ถือเป็นหุ้นพิมพ์นิยมที่สายแวลูต้องมีติดพอร์ต เพราะมองจากการขยายไลน์สินค้าในประเทศ และต่างประเทศ ก็ทำให้เชื่อแบบสนิทใจว่า โตได้อีก! เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 16.30 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 790 ล้านบาท มันคือจังหวะที่นักเล่นต้องช้อนหุ้นเข้าพอร์ต เพราะหุ้นลงมาใกล้ฐานแนวรับ 15.50 บาทน่ะซี

*คล้ายกับกรณีของเจ้าพ่อยางแห่งอีสานใต้อย่าง NER ก็โชว์ผลงานสมคำร่ำลืออีกครั้ง และในปีนี้ยังมีโอกาสปั้นรายได้เพิ่มขึ้นอีก “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 7.45 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 394 ล้านบาท ท่ามกลางกำไรต่อหุ้นปี 64 อยู่ที่ระดับ 1.13 บาท “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เชื่อได้ทันทีว่า หุ้นน่าจะวิ่งเกิน 10 บาทอย่างแน่นอน (ขนาดคิดแค่พีอี 10 เท่า ก็ปาเข้าไป 11 บาท) เจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ลุ้นยาว ๆ และมีสตอรี่ให้ตามดูเป็นระยะอย่าง PJW ก็เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่น่าสนใจในมุมของการมีโกรท ผนวกกับมีการให้ราคาเป้าหมายไว้แถว ๆ 6 บาท จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการ “เล่นสั้น” และ “เล่นยาว” แถมการเคลื่อนตัวของหุ้นออกไปในโทนไซด์เวย์อัพ ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 4.86 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 233 ล้านบาท น่าเล่นขึ้นมาทันทีจ้า!

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นขนส่งอย่าง SONIC ในทันที เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.48 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 8.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 318 ล้านบาท แถมเป็นการพุ่งวันแรกหลังโดนเขย่าจนร่วงลงมาจาก 5 บาท ทั้งที่ผลงานปีนี้ยังไปได้สวย ผนวกกับภาคขนส่งล้อไปตามเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้นอย่างช้า ๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่เดี๊ยนอยากให้ความสำคัญไงล่ะคะ

*อีกรายที่ทำผลงานดีต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองมากนัก “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น CWT แบบไม่ลังใจ เพราะการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.16 บาท บวกไป 0.96 บาท หรือขึ้น 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 545 ล้านบาท โดยที่หุ้นยังเทรดบน PE 10 เท่า ก็เป็นจังหวะที่ต้องลุยแบบไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับบริษัท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองประเมินดูว่า จริงไหมจ๊ะ

*ส่วนรายที่ทำผลงานดีสุด ๆ  และยังโตเป็นเท่าตัวอย่างหุ้น JR ถือเป็นหุ้นเด็ดที่มองทีไร ก็น่าสนใจวันยันค่ำ แถมปีนี้มีแนวโน้มโตอีก 50% เป็นอย่างต่ำ และได้ยินข่าวแว่ว ๆ ที่เม้าท์กันให้แซ่ดว่า ไตรมาส 2 น่าจะมีข่าวใหญ่อีกชิ้นแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงเชื่อแบบหมดใจว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 7.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45 ล้านบาท มันเอื้อต่อการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ต เพราะราคาเป้าหมายปีนี้เขาให้ไว้แถว 10 บาทไงล่ะคะ

Back to top button