ถึงคิวสื่อสารโมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนการเข้าลงทุนของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ จะเป็นอะไรที่เดาใจได้ยากมากๆ เพราะแรงซื้อที่เข้ามาในแต่ละวัน กลายเป็นแรงซื้อระยะสั้น และพร้อมจะขายหุ้นออกตลอดเวลา หากได้ราคาตามเป้าหมายที่วางไว้ ภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีถึงแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด แต่โชคดีตรงที่มีการหมุนเวียนกลุ่มหุ้นกันไปเรื่อยๆ สถานการณ์โดยรวมถึงค่อนข้างดูดีนะคะ
*ดูเหมือนการเข้าลงทุนของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ จะเป็นอะไรที่เดาใจได้ยากมากๆ เพราะแรงซื้อที่เข้ามาในแต่ละวัน กลายเป็นแรงซื้อระยะสั้น และพร้อมจะขายหุ้นออกตลอดเวลา หากได้ราคาตามเป้าหมายที่วางไว้ ภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีถึงแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด แต่โชคดีตรงที่มีการหมุนเวียนกลุ่มหุ้นกันไปเรื่อยๆ สถานการณ์โดยรวมถึงค่อนข้างดูดีนะคะ
*เนื่องจากหุ้นแกนหลักที่ประคองตัวให้ดัชนีปิดที่ระดับ 1,424.05 จุด ลบไปแค่ 0.11 จุด ด้วยมูลค่า 3.75 หมื่นล้านบาท ล้วนมาจากแรงซื้อหุ้นสื่อสารที่เข้ามาค่อนข้างเยอะ ผสมสานกับหุ้นบลูชิพตัวอื่นเริ่มเป็นที่หมายปองมากขึ้น ขณะที่พระเอกของตลาดหุ้นไทยอย่าง ปตท. ยังคงทำหน้าที่ประคองดัชนีได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบรรยากาศการลงทุนไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้วนะจ๊ะ
*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” มีความมั่นใจเช่นนั้นมาจากพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นลักษณะซื้อแพงเพื่อไปขายแพง จึงไม่ค่อยจะมีอะไรที่น่าวิตกกังวลสักเท่าไหร่? และตราบใดที่นักลงทุนกลุ่มนี้ยังมีกระบวนการทางความคิดเช่นนี้ เดี๊ยนก็มั่นใจเหลือเกินว่า ดาวเด่นอย่างหุ้นกลุ่มสื่อสารจะกลายเป็นทางเลือกอันดับแรกที่นักลงทุนจะนึกถึงนะจะบอกให้
*ยิ่งเห็นอาการของ “บิ๊กตู่” ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่า การประมูล 4 G ยังเป็นไปตามแผนเดิม เท่ากับเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนเข้ามาไล่ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารอีกครั้ง และผลพลอยได้ดังกล่าวจะตกไปยังพวกเหาฉลามอีกทอดหนึ่งด้วย “โมนิก้า” ถึงพุ่งเป้าไปยังหุ้นกลุ่มนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะกำลังกลายเป็นประเด็นที่เม้าท์กันทั่วบ้านทั่วเมือง และยังทำให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่แบบนี้..เลิศมากค๊า!
*โดยเฉพาะในรายของ DTAC และ ADVANC กลายเป็นหุ้นดาวรุ่งพุ่งแรงที่นักลงทุนสถาบันแวะเวียนเข้ามาเล่นเป็นประจำ จึงอย่าได้แปลกใจที่เห็นหุ้นทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายแรกวิ่งขึ้น 4 ต่อเนื่อง ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 66.25 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 940 ล้านบาท เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า หุ้นเปลี่ยนโพซิชั่นใหม่แล้วอย่างเต็มตัวนะจ๊ะ
*ส่วนรายหลังอาจมีอาการติดขัดเกิดขึ้นให้เห็นเป็นระยะนั้น มันเกิดจากข่าวสารเกี่ยวกับการฟ้องร้องยังคงตามหลอกหลอน คนเล่นเลยไม่กล้าทุ่มทุนสุดตัวเหมือนรอบก่อนๆ วันนี้ถึงเห็นหุ้นทำได้ดีสุดแค่วิ่งขึ้นมาปิดที่ 239 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 1.60 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างช้าๆ และคนที่เข้าใจเรื่องนี้จะเห็นว่าทุกอย่างยังเดินหน้านะคะ
*น่าแปลกใจตรงที่ TRUE กลับกลายเป็นหุ้นที่ไม่มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลย ทั้งที่เป็นหนึ่งในโอเปอเรเตอร์ที่ถูกวางตัวเป็นผู้นำด้าน 4G และยังเคลมตัวเองว่าให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ เหตุไฉนราคาหุ้นถึงปิดเสมอตัวที่ 10.40 บาทแบบหงอยๆ วันนี้ถึงต้องดูกันอีกทีว่า หุ้นจะขยับขึ้นมากแค่ไหน? เพราะตรงนี้จะเป็นตัวบอกถึงความเป็นไปได้ที่หุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมนั้น มีความเป็นไปได้แค่ไหนเจ้าค่ะ
*สำหรับในรายของ CSS ถือเป็นอีกหนึ่งรายที่รับอานิสงส์จากเรื่องดังกล่าวเต็มๆ เพราะเป็นคนตั้งเสา 3G-4G รายใหญ่ของประเทศ “โมนิก้า” ถึงเม้าท์ได้เต็มปากเต็มคำว่า ประมูลเสร็จเร็วเมื่อไหร่ กำไรก็จะวิ่งมาหาบริษัทเร็วเท่านั้น วันนี้ถึงเห็นราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.65 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 380 ล้านบาทไงหล่ะค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องหุ้นสื่อสารพอหอมปากหอมคอแล้ว “โมนิก้า” ขอนำทุกท่านกลับสู่โลกของการลงทุนกันดีกว่า และหุ้นตัวแรกที่อยากจะเม้าท์ถึงก็คือ SCN ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดออกมาเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทขมุกขมัว ซึ่งทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่า ทุกคนจะหายตกใจกับเรื่องดังกล่าว หุ้นถึงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมาปิดที่ 10.60 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือขึ้นไป 9.80% มันเหมาะสำหรับการโหนกระแสมากกว่าลงทุนยาวนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ KC จู่ๆ ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเพียงแค่ข่าวเซ็น MOU กับหุ้นกระเบื้อง RCI ซึ่งทั้ง 2 รายมีปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร “โมนิก้า” เลยนึกถึงคำพังเผย “ผีเน่ากับโรงผุ” ของผู้เฒ่าผู้แก่ที่สอนขึ้นมาในทันที วันนี้ถึงต้องเม้าท์แบบเผาขนเลยว่า ทำกำไรให้ได้ก่อน..แล้วคอยเสนอหน้าดีกว่าไหม? เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.20 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 445 ล้านบาท มันเป็นการลากไปเชือดชัดๆ เจ้าค่ะ
*ประเด็นตรงนี้ดูได้จากหุ้นขยะ GENCO ประโคมข่าวอย่างออกรสออกชาติในช่วงที่โปรเจ็กต์ขายฝันได้การตอบรับที่ดีจากชาวหุ้น พอสุดท้ายทุกคนจับทางได้ว่า ขี้โม้! ราคาหุ้นก็ร่วงพล่อยลงมาในทันที “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยแฮปปี้ที่เห็นมีคนเคาะขวาเพื่อจุดกระแสหุ้นตัวนี้ขึ้นมาอีก แถมตัวบริษัทยังมีตัวเลขขาดทุนให้เห็นทนโท่แบบนี้ จู่ๆ หุ้นขยับขึ้นมายืนอยู่ที่ 1.85 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 5% มันไม่แปลกเกินไปเหรอตัวเอง!