พาราสาวะถี
ไม่ว่ายุคสมัยใดสัญญาณที่ส่อว่าใกล้หมดอายุขัยของรัฐบาลนั้น ๆ มักจะเกิดมาจากปัญหาภายในไม่ว่าจะจากพรรคร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำรัฐบาล
ไม่ว่ายุคสมัยใดสัญญาณที่ส่อว่าใกล้หมดอายุขัยของรัฐบาลนั้น ๆ มักจะเกิดมาจากปัญหาภายในไม่ว่าจะจากพรรคร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำรัฐบาล หรือตัวบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล รวมไปถึงจะมีเรื่องต่าง ๆ เกิดขึ้น ชนิดที่ว่าไม่น่าจะเป็นปัญหามาได้ เหมือนที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจที่คิดว่าเก็บกวาดปัญหาทุกอย่างได้สะอาดหมดจด ไม่มีวันที่จะมีอะไรโผล่มาให้กลายเป็นที่กังขา นำมาซึ่งความสั่นคลอนต่อเสถียรภาพของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและคณะได้
แต่การอยู่ยาวตามเจตนารมณ์ของคณะเผด็จการคสช. ปรากฏว่ายิ่งนานวันยิ่งพบแต่ปัญหา ล่าสุดประเด็นใหญ่เรือดำน้ำจากจีนที่ดันทุรังจะจัดซื้อกันให้ได้ ท่ามกลางเสียงทักท้วงตั้งแต่เริ่มต้น ในช่วงแรกเริ่มที่มีปัญหาโควิด-19 ระบาด รวมไปถึงความจำเป็นต่าง ๆ ที่จะต้องจัดซื้อ คำตอบที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายย้ำตรงกันคือ เพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของกองทัพเรือไทย พูดง่าย ๆ คือมีไว้เพื่อไม่ให้น้อยหน้าใคร แม้จะมีคำถามว่าน่านน้ำประเทศไทยรองรับเรือที่จะซื้อได้หรือเปล่า
วันนี้กลายเป็นว่าสิ่งที่คนตั้งข้อกังขากันมากที่สุดคือ ความรอบคอบในการจัดซื้อ เมื่อปรากฏข้อมูลว่าเรือดำน้ำรุ่น S26T YUAN Class ที่จีนกำลังต่ออยู่ มีกำหนดส่งมอบให้ไทยในเดือนกันยายนปีหน้า และเลื่อนออกไปเป็นเมษายน 2567 พบปัญหาสำคัญคือ เรือไม่มีเครื่องยนต์ เพราะต้องใช้เครื่องยนต์ดีเซล MTU ที่ผลิตในประเทศเยอรมนี โดยที่โฆษกกองทัพเรืออ้างว่าปัญหานี้เป็นเรื่องที่จีนต้องแก้ไข ไม่เกี่ยวกับกองทัพเรือไทย
สิ่งที่โฆษกกองทัพเรืออ้างก็คือ รัฐบาลเยอรมนีมีนโยบายการระงับการส่งออก ซึ่งกำหนดให้เครื่องยนต์ดีเซลของเรือดำน้ำ เป็นสินค้าที่อยู่ในรายการควบคุมการส่งออก ส่งผลให้การจำหน่ายเครื่องยนต์ อะไหล่ หรือเครื่องยนต์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเยอรมนี ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเยอรมนี คำถามที่สังคมคาใจคือคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพเรือไม่ได้ตรวจสอบก่อนหรือว่า เรือดำน้ำที่จัดซื้อมาด้วยงบประมาณมหาศาลนั้น องค์ประกอบต่าง ๆ เป็นอย่างไร จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ แสดงว่าไม่มีความรอบคอบ
ขณะเดียวกันเมื่อฟังคำชี้แจงจากสถานทูตเยอรมนี โดยผู้ช่วยทูตทหารของเยอรมนีประจำประเทศไทยที่ออกมาแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้ ระบุว่า รัฐบาลจีนไม่ได้มีการติดต่อกับทางรัฐบาลเยอรมนีมาก่อน ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำลำที่ 1 รัฐบาลเยอรมนีไม่เคยได้รับการติดต่อจากประเทศจีนเพื่อซื้อเครื่องยนต์ MTU สำหรับติดตั้งเรือดำน้ำที่ขายให้กับประเทศไทย ตรงนี้จะโยนให้เป็นเรื่องที่จีนแก้ไขถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะอีกด้านฝ่ายไทยเองควรต้องถามให้ได้คำตอบจากจีนก่อนว่าเครื่องยนต์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญนั้นมีแน่หรือไม่ นี่แค่เริ่มต้นไม่รู้ว่าจะมีอะไรโผล่มาประจานอีกหรือเปล่า
หากเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดก็คงจะมีคาถาดีมาเป่าเรื่องเหล่านี้ให้เงียบหายไปได้ง่าย ๆ แต่การเมืองที่ผ่านระบบเลือกตั้งมาแล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป ไม่ว่าจะขยับซ้ายขยับขวาล้วนแต่ถูกตรวจสอบทั้งสิ้น สิ่งสำคัญคือสนิมเกิดแต่เนื้อในตน การรวบอำนาจ การจัดสรรปันส่วนผลประโยชน์ให้แต่คนที่อยู่ในเครือข่าย บริวารแวดล้อมนานเกือบ 8 ปี ย่อมมีโอกาสที่ฝ่ายถูกกดทับจะปล่อยของเล่นงาน โดยเฉพาะจากฝ่ายข้าราชการประจำที่จำนวนไม่น้อยมองไม่เห็นความก้าวหน้า อนาคตในหน้าที่การงานของตัวเอง
สิ่งที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจท่องคาถามาตลอด ทุกอย่างยึดตามกฎหมาย ระเบียบขั้นตอนที่มี แต่ในทางปฏิบัติหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ มีการโยกย้ายข้ามหัวข้ามห้วยเป็นว่าเล่น หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเต็มรูปแบบ องค์กรตรวจสอบ วินิจฉัยไม่ได้มาจากการแต่งตั้งด้วยปลายปากกาของอำนาจที่มาจากปลายกระบอกปืน ป่านนี้คนที่เป็นผู้นำหรือฝ่ายบริหารที่มีอำนาจลงนามในการแต่งตั้ง คงถูกเล่นงานเหมือนอย่างที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยถูกกระทำมาแล้ว
สัจธรรมของอำนาจก็คือ คนที่อยู่นานแล้วมีองคาพยพสอพลอคอยหนุนหลัง มีเนติบริกรคอยหาช่องทางกฎหมายให้รอดได้ในทุกสถานการณ์ หลายครั้งเกิดจากการรวมหัวสมคบคิดกับคนที่ได้รับการแต่งตั้ง จนทำให้กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์ และถูกสังคมตั้งข้อกังขา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ธรรมนัส พรหมเผ่า จะโพสต์เฟซบุ๊กพูดถึง “พรหมพินาศ 4” หลงอำนาจ ฉ้อราษฎร์บังหลวง หลอกลวงลูกน้อง และยกย่องคนเลว งานนี้โดนทั้งพี่ทั้งน้อง แต่เป้าหมายของคนโพสต์น่าจะเป็นน้องเล็กมากกว่า
อย่างไรก็ตาม หลายวันก่อนเนติบริกรให้สัมภาษณ์ในประเด็นปัญหามีทางออก ถ้าหาทางออกไม่ได้ก็ให้ออกที่ทางเข้า จนคนตีความว่าน่าจะใกล้ถึงวาระยุบสภา กระทั่งฝ่ายค้านนำมาตีเป็นประเด็นว่าจะมีการชิงยุบสภาก่อนที่จะเกิดการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งมันก็ดูท่าว่าจะง่ายเกินไป มีคนถอดรหัสคำพูดของเนติบริกรมองอีกมุม หรือทางออกที่เป็นทางเข้าในความหมายก็คือ ที่มาของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก่อนหน้า
ถามว่าจะทำร้ายประเทศกันขนาดนั้นเชียวหรือ คิดหรือมีสัญญาณมาจากทางใดก็ไม่ว่ากัน แต่การจะลงมือทำมันไม่น่าจะง่ายเหมือนการทุบโต๊ะยึดอำนาจหนที่ผ่านมา ทว่าถ้ายึดตามสิ่งที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจบอกว่าจะลงจากหลังเสือต้องฆ่าเสือก่อน เมื่อกระบวนการของขบวนการสืบทอดอำนาจที่ได้วางแผนกันไว้มันถูกใช้มาแล้วปรากฏว่าเจอแต่ปัญหา ให้นักเลือกตั้งเข้ามาแก้ไขก็จะไปกระทบกับสิ่งที่ถูกกวาดซุกไว้ใต้พรม ล้มกระดานกันด้วยรถถังน่าจะดีที่สุดในมุมของพวกอำนาจนิยม
สถานการณ์เช่นนี้มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น การปรากฏภาพกินข้าวมื้อเที่ยงหวานชื่นของพี่น้องแก๊ง 3 ป.ก็ได้แค่ภาพ แต่ตกลงกันได้จริงหรือไม่ ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม แล้วที่บอกกันว่าพี่น้องที่มีแต่ความตายเท่านั้นจะมาพรากไปได้ มีบทสรุปร่วมกันคือจะให้สายตรงผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเข้ามาบริหารพรรคแกนนำรัฐบาล โดยที่พี่ใหญ่ยังเป็นหลักกุมบังเหียนอยู่ ถามว่าที่ละเลงกันเละเทะไปก่อนหน้าเพราะมีเป้าหมายไปที่พรรคใหม่กันนั้น มาสุมหัวกันใหม่มันจะมองหน้ากันติดและทำให้ทุกอย่างราบรื่นได้จริงหรือ