MAJOR-TKN เติมเต็มสิ่งที่ขาด.!?

หลังจาก MAJOR ของ “เสี่ยวิชา” จำใจตัดขาย SF ให้กับ CPN ไปเมื่อช่วงกลางปีก่อน ได้เงินก้อนโตมาราว 7,765 ล้านบาท พร้อมกับแอสเซทที่หายไป


หลังจากบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ของ “เสี่ยวิชา พูลวรลักษณ์” จำใจตัดขายบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ให้กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ไปเมื่อช่วงกลางปีก่อน ได้เงินก้อนโตมาราว 7,765 ล้านบาท พร้อมกับแอสเซทที่หายไป…

คนก็จับจ้องกันว่า เงินที่ได้มาคราวนั้น นอกจากนำไปปลดเปลื้องภาระหนี้แล้ว ที่เหลือจะไปสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไร..?

ล่าสุดเริ่มเห็นความชัดเจน เมื่อ MAJOR ประกาศเข้าไปลงทุนในบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ของ “ต๊อบ” – อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ โดยซื้อหุ้นจำนวน 69 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 8.2565 บาท คิดเป็นมูลค่า 569.69 ล้านบาท

เท่ากับว่า MAJOR จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 4 ของ TKN ในสัดส่วน 5% ทันที..!!

ว่าแต่ใครกันนะที่เป็นคนขายหุ้น TKN ให้กับ MAJOR แล้วรับทรัพย์ก้อนโตเข้ากระเป๋าไป…อันนี้น่าคิด

ขณะที่เบื้องต้น “ต๊อบ” ออกมานั่งยันนอนยันว่า ตนไม่ได้ขาย น่าจะเป็นการไล่เก็บจากในกระดานมากกว่า แต่จะว่าไประดับ MAJOR คงไม่ไล่ซื้อจากในกระดานหรอกมั้ง…ว่าป่ะล่ะ แต่เดี๋ยวคงได้รู้กันแหละ..!?

โอเค…ประเด็นใครขายหุ้น TKN พักไว้ก่อน…มีอีกประเด็นที่น่าสนใจ อยู่ที่การ Synergy ธุรกิจร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย..!!

มุมของ MAJOR การลงทุนใน TKN ครั้งนี้ นอกจากจะรับรู้ในแง่ของเงินปันผล ยีลด์เฉลี่ยปีละ 2–3% แล้ว สิ่งที่จะตามมา คือ MAJOR จะมีโปรดักส์ให้บริการในอาณาจักรโรงหนังเมเจอร์มากขึ้น อย่างน้อย ๆ น่าจะมีสาหร่าย ขนมขบเคี้ยว และชานมไต้หวัน “Just Drink” เข้ามาเพิ่มเติม จากเดิมที่มีแค่ป๊อปคอร์น และเครื่องดื่ม

ก็เป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับ MAJOR นอกเหนือจากการขายตั๋วหนัง…

หรือไม่แน่อาจได้เห็นร้านเถ้าแก่น้อยแลนด์ ร้านข้าวราดแกงกะหรี่ญี่ปุ่น “ฮิโนยะ” และร้าน Bomber Dog ของ TKN มาเปิดในอาณาจักรโรงหนังเมเจอร์ก็ได้…ซึ่ง MAJOR ก็จะมีรายได้ค่าเช่าพื้นที่ไปอีกขา…

ส่วนมุมของ TKN อย่างน้อย ๆ คนที่เข้ามาถือหุ้นครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ที่ไหน หรือนักลงทุนทั่วไป แต่เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง MAJOR ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของไทย แล้วการเข้ามาถือหุ้นตั้ง 5% นั้น แน่นอนว่า MAJOR ต้องพยายามสร้างแวลูให้กับ TKN แหละ…

ในขณะที่ TKN จากเดิมอาศัยช่องทางขายในโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก ต่อไปก็สามารถไปขายในโรงหนังได้ จะทำให้มีช่องทางขายที่หลากหลายขึ้น ซึ่งตัวสาหร่ายก็ตอบโจทย์สามารถกินในโรงหนังได้

ที่สำคัญก่อนหน้านี้ TKN ต้องจ่ายค่าแรกเข้าให้กับโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 35–40% ทำให้มีมาร์จิ้นค่อนข้างต่ำ แต่การได้ MAJOR เข้ามาเป็นพันธมิตร ก็อาจทำให้ต้นทุนตรงนี้ถูกลง เพราะ MAJOR คงไม่ใจร้ายไส้ระกำคิดค่าแรกเข้า หรือค่าเช่าพื้นที่แพง ๆ หรอกมั้ง ก็น่าจะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของ TKN ถูกลง สามารถสร้างมาร์จิ้นได้สูงขึ้น

สุดท้ายถ้า TKN ทำผลงานได้ดี ก็จะกลับคืนสู่ MAJOR ในรูปของเงินปันผลที่สูงขึ้นนั่นเอง…

เอาเป็นว่า ก็เมคเซ้นส์อยู่นะ กับการที่ MAJOR เข้ามาลงทุนใน TKN…แต่ก็ต้องดูกันต่อไปว่า สิ่งที่ MAJOR  คิด กับสิ่งที่ TKN คิด จะซัคเซสหรือเปล่า..?

บทพิสูจน์น่าจะอยู่ที่ยอดคนที่เข้าโรงหนังจะมากน้อยแค่ไหน..? ถ้าสถานการณ์โควิดคลี่คลายก็เป็นโอกาสของทั้ง 2 ฝ่าย…

แต่ถ้าตรงข้าม…อาจต้องแยกย้าย ทางใครก็ทางมันอ่ะนะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button