โอกาสในวิกฤต

ขอเกริ่นถึงบรรยากาศกอล์ฟช่วงเอเชีย สวิงรายการแรกที่สิงคโปร์ “HSBC Women’s World Championship” เงินรางวัล 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อ 3-6 มี.ค.สักหน่อย ผ่านพ้นไปแล้ว แชมป์ตกเป็นของโค จิน–ยัง ที่แสดงฝีมือหมายเลข 1 ของโลกสมราคา

ขนาดนึกว่าออกนอกเส้นทางแชมป์ไปแล้ว เพราะหลุม 12 ดันออกโบกี้ แต้มรวมลงมาเหลือ 12 อันเดอร์ แต่หลุม13-14-15-16 ทำ 4 เบอร์ดี้รวด และปิดท้ายด้วยเบอร์ดี้หลุม 18 อีก คว้าแชมป์ทันทีด้วยสกอร์รวม 17 อันเดอร์

ในหลุม 12 ที่โค จิน–ยัง ออกโบกี้ สกอร์ลงมาที่-12 นั่นเอง “น้องจีน” อาฒยา ฐิติกุล ยังมีแต้มเหนือกว่าด้วยซ้ำที่-14 แต่ดวง “น้องจีน”ยังไปไม่ถึงแชมป์ หลุมที่เหลือ ทำได้อีก 1 เบอร์ดี้และ 1 โบกี้ จบด้วยสกอร์-14 เป็นอันดับที่ 4 ดีที่สุดในกลุ่มนักกอล์ฟไทย

สัปดาห์นี้ เวทีกอล์ฟสตรีอาชีพระดับโลก ย้ายจากสิงคโปร์มาไทยในรายการ “Honda LPGA Thailand” 10-13 มี.ค. ณ สนามสยามคันทรี คลับ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี “ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)” จัดขึ้นเป็นปีที่ 15 แล้ว เงินรางวัล 1.6 ล้านเหรียญฯ หย่อนจากสิงคโปร์เพียง 1 แสนเหรียญฯ เอง

หมายเลข 1 ของโลกที่เพิ่งได้แชมป์ที่สิงคโปร์ไม่มา แต่มือระดับแชมป์เมเจอร์มากันเพียบทั้ง แดเนียล คัง, “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ, บรุ๊ค เฮนเดอร์สัน, ยูกะ ซาโซะ, ริว โซ-ยอน, มินจี ลี ซึ่งบรรดา “บิ๊กเนม” ที่ออกนามมา ก็ล้วนแล้วแต่มีสิทธิจะคว้าแชมป์ด้วยกันทั้งสิ้น

และก็อย่าลืม! “น้องเม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตแชมป์เมเจอร์ 12 รายการเหมือนกัน และก็เป็นแชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปีที่แล้วด้วย

“จีโน่” ที่ปีที่แล้ว เป็นรองแชมป์ ในขณะยังเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นอยู่ ส่งสัญญาณคลื่นลูกใหม่มาแรงให้เห็นในรายการ HSBC ที่สิงคโปร์มาแล้ว ก็คงจะเป็น “ดาวเด่น” ที่สปอร์ตไลท์ฉายจับไม่กะพริบตา เพราะสาวน้อยวัย 19 ปีผู้นี้ “มาแรง” มีศักยภาพสูงถึงแชมป์ได้จริง ๆ

“ฮอนด้า แอลพีจีเอ” ปีที่ 15 ปีนี้ ความมันในระดับข้นคลั่กทีเดียว ติดตามรับชมกันได้นะครับ ไม่มีการขายบัตร แต่มีการถ่ายทอดสดทางทีวีสาธารณะช่อง 36 พีพีทีวีถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ทุกวันเป็นต้นไป

ประเทศไทยก็ได้เพิ่มหน้าตา ชื่อเสียงขึ้นมาด้วย

ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ขึ้นระดับสูงสุดถึง 1,716 จุดมาแล้ว แต่มาเจอกับยุทธการรัสเซียลุยยูเครนที่คุกรุ่นมาตั้งแต่กลางเดือน ก.พ.เข้าไป ก็ออกอาการสั่นไหวเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก

หุ้นร่วง ทอง–น้ำมันพุ่ง!  มันเป็นสูตรสำเร็จของทุกครั้งที่เกิดสงครามไปแล้ว

ดัชนีหุ้นไทย หลุดลงมาต่ำสุดถึง 1,580 จุด และค่อย ๆ ขยับขึ้นลงเป็นฟันปลา ตามข่าวสารภาวะหนักเบาของสงคราม วันไหนมีข่าวการเปิดโต๊ะเจรจา หุ้นก็รีบาวด์ แต่วันไหนมีแต่ข่าวรัสเซียถล่มหนัก หนทางเจรจาลางเลือน หุ้นก็ลงหนัก ขณะที่ราคาทองและน้ำมันพุ่งเอา ๆ

ตลาดหุ้นขาลง สร้างความเสียหายแก่ผู้ถือหุ้นก็จริง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสของการเข้าลงทุนหุ้นพื้นฐานราคาต่ำ

เหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ ในวิกฤตหนึ่งก็ย่อมมีทั้ง “ฝ่ายได้-ฝ่ายเสีย” สงครามจำกัดเขตรัสเซีย-ยูเครนคราวนี้ หากจบเร็วได้ ความเสียหายทางการลงทุนและผลกระทบทางเศรษฐกิจก็น้อย ใช้เวลาไม่นานก็ฟื้นตัวได้ แต่หากยืดเยื้อเป็นแรมเดือนแรมปี การลงทุนก็เสียหายทั่วโลก

มหาอำนาจที่แบ่งเป็น 2 ค่ายใหญ่ ๆ และชาติบริวาร ก็จะได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจยับเยินตามไปด้วย

สถานการณ์ตอนนี้ ยังไม่มีสิ่งบ่งบอกที่แน่ชัดว่าสงครามจะยุติได้รวดเร็ว หากจำเป็นจริง ๆ ก็ต้องเลือกเฟ้นหุ้นพื้นฐานอย่างเคร่งครัด