ACAP-GSC ก้อนกรวดในรองเท้าการลงทุน
ปรากฏการณ์ราคาหุ้น ACAP ปรับตัวลง “ต่ำบาท” นับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา เป็นลางบอกเหตุที่ส่งมาจากผู้ถือหุ้นบางกลุ่มส่งสัญญาณสะท้อนถึงความเป็นไปที่จะเกิดขึ้นกับ ACAP
ปรากฏการณ์ราคาหุ้นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ปรับตัวลง “ต่ำบาท” นับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นลางบอกเหตุที่ส่งมาจากผู้ถือหุ้นบางกลุ่มส่งสัญญาณสะท้อนถึงความเป็นไปที่จะเกิดขึ้นกับหุ้น ACAP เกี่ยวกับความเสี่ยงเรื่องการบริหารจัดการภายใน ACAP เอง..
โดย “ลางสังหรณ์” ที่ว่า..มาประจักษ์เมื่อค่ำวันศุกร์ (11 มี.ค.) ที่ผ่านมา เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร ACAP (ช่วงปี 2561-2562) 2 ราย คือ “ณิชารดี สุขเจริญไกรศรี” หรือ “สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี” และพิมพ์วลัญช์ สุวัตถิกุล ว่าด้วยการกระทำผิดต่อหน้าที่แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายจนเป็นเหตุให้ ACAP ได้รับความเสียหายและมีการบันทึกบัญชีไม่ถูกต้อง หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง..!!!
พร้อมกับพวกอีก 4 ราย กรณีร่วมกันดำเนินการให้ ACAP ว่าจ้างให้บริษัท ออลไรท์ เฮ้าส์ จำกัด เป็นผู้ก่อสร้างกำแพงกั้นดินและท่อระบายน้ำและให้บริษัท ไชอา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ต่อมาพบว่าไม่มีการก่อสร้างจริงตามสัญญา แต่พบว่ามีการจ่ายเงินค่าก่อสร้างออกไป ทำให้ ACAP ได้รับความเสียหายมูลค่ารวม 27.5 ล้านบาทต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ย้อนหลังไปเพียง 3 เดือน (9 ธ.ค. 64) ก.ล.ต.ได้มีการกล่าวโทษ “ณิชารดี (สุกัญญา) สุขเจริญไกรศรี” กับพวกรวม 7 ราย ต่อบก.ปอศ.กรณีปฏิบัติผิดหน้าที่ ทุจริตและแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ จากกรณีสั่งการให้บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC ปล่อยเงินกู้ยืมให้แก่ ACAP (ถือหุ้น GSC สัดส่วน 64%) โดยมี “ณิชารดี” เป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACAP มูลค่า 180 ล้านบาท (คิดเป็น 73% ของสินทรัพย์รวม GSC) อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี (บางรายการไม่มีการคิดดอกเบี้ย) เพื่อให้ ACAP นำเงินไปไถ่ถอนหุ้นกู้และตั๋วเงินที่ครบกำหนดชำระของ ACAP ที่มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.5-8.0%ต่อปี
นั่นจึงทำให้ GSC เสียประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ควรได้รับ ขณะที่ ACAP ได้ประโยชน์จากส่วนต่างดอกเบี้ยของเงินกู้ยืมที่ลดลง เป็นเหตุทำให้ GSC เสียหาย และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการระดมทุนที่เปิดขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ด้วยเช่นกัน
ในทางคดีบก.ปอศ.จะดำเนินคดีอย่างไรและสุดท้ายศาลจะมีคำพิพากษาออกมาเป็นเช่นไร ถือเป็นเรื่องที่มิอาจประเมินหรือคาดเดาได้..!!???
แต่ความเสียหายโดยไม่ต้องสืบ นั่นคือนักลงทุนและผู้ถือรายย่อยของ ACAP กว่า 3,600 ราย และ GSC ร่วมเกือบ 1,000 ราย ที่ต่างมุ่งหวังผลลัพธ์จากการลงทุนในบริษัทจดทะเบียน โดยผ่านการกลั่นกรองทั้งผู้คุมกฎอย่างก.ล.ต.และโปรโมเตอร์อย่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
บทเรียนจาก ACAP และ GSC ครั้งนี้และอีกหลายกรณีที่เกิดมาก่อนหน้านี้ จึงเปรียบได้ดั่ง “ก้อนกรวดในรองเท้า” ที่ยิ่งย่ำเดินยิ่งสร้างความระคายเคืองให้นักลงทุนไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่ารองเท้าแห่งการลงทุนที่ว่าจะถูกออกแบบสวยหรู และถูกขัดเงาแวววับจับใจมากเพียงใดก็ตาม..!!