ลงเพื่อขึ้น?โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเป็นอะไรที่ดูยากมากๆ เพราะในช่วงต้นเดือนมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีเหินทะยานขึ้นมาปิดเหนือระดับ 1,400 จุด พร้อมกับแสดงภาวะกระทิงเปลี่ยวด้วยการพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,430 จุด เพื่อเป็นใบเบิกทางให้กับการขึ้นไปปิดเหนือ 1,450 จุด แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันที่วาดไว้นะจะบอกให้

*เนื่องจากข่าวสารที่ออกมาในช่วงหลังๆ ล้วนมีแต่ข่าวในทางลบแทบทุกวัน ส่งผลให้พวกกองทุนตะบันขายหุ้นกันอย่างเต็มข้อ แต่เมื่อดูจากรูปแบบของดัชนีที่โค้งตัวลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแรงเทขายเป็นจำนวนมากในบางวัน “โมนิก้า” ก็รู้ได้ทันทีว่า นี่เป็นการขายเพื่อไปช้อนซื้อในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งเป็นยุทธวิธีปกติที่เห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นเริ่มมีอาการตื้อๆ ตันๆ พะยะค่ะ

*ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจไม่ได้ย่ำแย่จนกู่ไม่กลับ และผลประกอบการของบางบริษัทก็ออกมาดีกว่าที่คาดเสียด้วยซ้ำ “โมนิก้า” ถึงไม่วอรี่ที่เห็นดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,390.04 จุด ลบไป 19.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.20 หมื่นล้านบาท เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า การร่วงหล่นในครั้งนี้มาจากเหตุผลทางจิตวิทยาล้วนๆ ซึ่งเป็นผลกระทบแค่ระยะสั้นๆ ที่เห็นได้บ่อยครั้ง 2 เดือนที่ผ่านมาเจ้าค่ะ

*หากมองภาพดังกล่าวไม่ออก “โมนิก้า” ขอเท้าความกลับไปในช่วงต้นเดือน ก.ย. 58 ซึ่งตอนนั้นดัชนีแกว่งตัวไปมาที่ 1,350-1,1400 จุด ส่วนเดือน ต.ค. ดัชนีขยับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,400-1,430 จุด แต่วานนี้ก็ร่วงหล่นลงมาต่ำกว่า 1,400 จุด พร้อมกับแสดงท่าทีอ่อนตัวลงมายืนแถว 1,350 จุดอีกครั้ง มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องใช้ความคิดอีกครั้งว่า ควรจะเข้าซื้อไหม?

*โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสื่อสารที่ “โมนิก้า” เม้าท์ให้ฟังเมื่อวันก่อนว่านี่เป็นรอบของหุ้นสื่อสาร! ซึ่งวานนี้ได้แสดงให้เห็นว่าความคิดของเดี๊ยนถูกต้องทุกประการ บวกกับช่วงเย็นมีการประกาศคุณสมบัติคนเข้าประมูล 4G ผ่านทุกราย ย่อมเป็นปัจจัยที่หนุนให้หุ้นกลุ่มนี้ดูคึกคักขึ้นมาในทันที วานนี้ถึงเห็นหุ้นสื่อสารบวกสวนกระแสได้อย่างแข็งแกร่ง และมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะทะยานขึ้นอีกนะจ๊ะ

*สำหรับดาวเด่นที่ถูกจับตามองมากสุดอย่าง ADVANC และ TRUE กลับโดนเทขายอย่างหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนไม่สามารถโงหัวขึ้นได้เลย “โมนิก้า” ถือเป็นเอฟเฟ็กต์ที่เกิดจากฝรั่งต้องการลดพอร์ต ผสมกับปอบผีฟ้าพยายามลดความเสี่ยงจากการถือหุ้นขนาดใหญ่ วานนี้เห็นหุ้นรูดลงมาปิดที่ 230 บาท ลบไป 8 บาท หรือลงไป 3.40% ส่วนรายหลังปิดที่ 10 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.90% อาจทำให้ภาพในระยะสั้นดูไม่สวยก็จริง แต่ในระยะยาวคือจังหวะของการทยอยเก็บของเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ JAS และ DTAC ยืนต้านแรงเทขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะปิดที่ระดับ 5.60 บาท บวกไป 0.05 บาท ส่วนอีกรายปิดที่ระดับ 66.50 บาท บวกไป 0.25 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า มีคนทยอยเก็บของเข้าพอร์ต งานนี้สาดลงมาเท่าไหร่ ก็คงไม่กระเทือนซางอีกต่อไป เพราะมันเห็นกันชัดๆ ว่า เดือนหน้าจะมีการประมูลเกิดขึ้นแล้วนะซี

*ส่วนหุ้นที่มีปัญหาอย่าง SAMART และ SAMTEL ยังมีแรงเทขายกระหน่ำออกมาตลอดทั้งวัน ราคาหุ้นที่เห็นว่า ต่ำแล้วสุดๆ ยังมีราคาต่ำกว่าให้เห็นอีก จึงกลายเป็นหุ้นอันตรายสำหรับนักลงทุนคุณค่าและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ อีกครั้ง ล่าสุดตัวแม่ปิดที่ระดับ 19.90 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 5.70% ส่วนตัวลูกปิดที่ระดับ 17.80 บาท ลบไป 1.80 บาท หรือลงไป 9.20% มันเป็นภาพที่ฟ้องว่า ยังมีหุ้นพื้นฐานดีตัวอื่นที่น่าสนใจมากกว่านะคะ

*โดยดาวเด่นที่ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงทุกครั้งก็คือ SAWAD เพราะเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และยังมีสตอรี่ให้ติดตามเป็นประจำ แถมยังได้รับเสียงโหวตจากนักวิเคราะห์อย่างล้นหลาม มันเป็นจังหวะที่ต้องไหลตามน้ำในทันที ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 43.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3% อาจดูสูงเกินไปในเวลานี้ พอเวลาผ่านไปสักระยะจะรู้ว่า นี่เป็นราคาที่ลงทุนได้สบายๆ ไม่เชื่อลองถามเกจิอาจารย์ดังสำหนักต่างๆ ดูก็ได้..อิอิอิ

*สำหรับในรายของ IFEC ถือเป็นจังหวะของคนที่นิยมซื้อเพื่ออนาคต บวกกับหุ้นลงมาถึงแนวรับแรก 10 บาทพอดิบพอดี “โมนิก้า” จึงต้องเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้ในทันที อีกทั้งมีความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการพลังงานลมที่ภาคใต้ จึงกลายเป็นจังหวะของชาวสวนอย่างแท้จริง!..งานนี้จริงเท็จแค่ไหน ลองถาม เฮีย น. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ดูก็ได้ เดี๋ยวจะหาว่า น้องโมมีอะไรดีแล้วไม่บอก!