Reversed takeoverแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
2 วันหลังจากการแถลงข่าวเปิดตัวสปริง เรดิโอ อย่างใหญ่โต ผู้บริหารของสปริงนิวส์ บริษัทย่อยของ NEWS หรือบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อ้างเหตุผลอย่างเป็นทางการที่แปลกประหลาดในการปลดพนักงานออกประมาณ 108 คน ถึง 2 ระลอกในสัปดาห์นี้
2 วันหลังจากการแถลงข่าวเปิดตัวสปริง เรดิโอ อย่างใหญ่โต ผู้บริหารของสปริงนิวส์ บริษัทย่อยของ NEWS หรือบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อ้างเหตุผลอย่างเป็นทางการที่แปลกประหลาดในการปลดพนักงานออกประมาณ 108 คน ถึง 2 ระลอกในสัปดาห์นี้
ขณะที่มีข่าวแพร่สะพัดอย่างไม่เป็นทางการจากค่าย เดอะ เนชั่น หรือ NMG กระฉ่อนไปทั่ววงการสื่อโทรทัศน์ว่า พนักงานบริษัทสปริงนิวส์ ที่ถูกปลดออกจากงาน ขอให้ไปสมัครงานที่ค่าย เดอะ เนชั่น ได้รับทันทีทันควัน
นี่คือสงครามแย่งชิงภาพลักษณ์ที่แสดงถึงความเหนือชั้นกว่าของสุทธิชัย หยุ่น และพวก แห่งค่ายเดอะ เนชั่น ขณะที่ผู้บริหารของสปริงนิวส์ไม่ยอมเข้าใจ ทั้งที่ทั้งสองบริษัท ล้วนเป็นธุรกิจสื่อที่มีฐานะเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนทั้งคู่ และต่างถือเป็นไม้เบื่อไม้เมากันในสงครามแย่งชิงกิจการกันมานานหลายเดือน ที่ยังไม่จบสิ้น
เริ่มต้นตั้งแต่วันพุธที่ 28 ตุลาคม สำนักข่าวอิสรา ลงข่าวว่า สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ของบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้การบริหารของนางสาว วทันยา วงษ์โอภาสี กรรมการผู้จัดการ ทำการปลดพนักงาน ประกอบด้วยผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ผู้ช่วยช่างภาพ และพนักงานอื่นๆ ระลอกแรกจำนวน 48 คน จากพนักงานทั้งหมดประมาณ 400 คน
การปลดดังกล่าว ทำกันอย่างกะทันหัน เพียงแค่แจ้งผ่านทางโทรศัพท์ว่าพนักงาน “ถูกปลดแล้ว” ให้มาขนข้าวของภายใน 30 นาที แล้วเอาบัตรผ่านพนักงานมาคืนพร้อมกัน
รายงานข่าวอ้างว่า ผู้บริหาร (ไม่ระบุนาม) จะจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 3-6 เดือน
หลังจากนั้นในวันที่ 29 ตุลาคม ก็มีจดหมายชี้แจงจาก นางอภิศรา อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการใหญ่สายงานสื่อสารองค์กร ของสปริงนิวส์ ออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงผู้สื่อข่าวสำนักต่างๆ ว่า บริษัทต้องการปรับโครงสร้างองค์กร เสริม ”ยุทธศาสตร์รุกทุกแพลทฟอร์ม” ด้วยการปรับลดพนักงานบางส่วน 40 อัตรา และจะขยายงานข่าวภาคเศรษฐกิจและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองเป้าหมายองค์กรในปีหน้า โดยพร้อมดูแลพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง “ด้วยความเป็นธรรม และถูกต้องตามกฎหมายแรงงานทุกประการ”
การ ”รุกทุกแพลทฟอร์ม” แต่ปลดพนักงานออกเพื่อลดต้นทุนครั้งนี้ ผู้บริหารของสปริงนิวส์ และ NEWS พากันเก็บตัวเงียบ ทำให้คนตั้งคำถามถึงเจตนาว่าอะไรแน่ระหว่าง 1) แก้ปัญหาการเงินของ NEWS 2) เพื่อเปิดทางให้การเถลิงอำนาจกับทีมงานของทีนิวส์ ที่นำทีมโดยนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อดีตนักเคลื่อนไหวชื่อดัง
คำถามแรก ไม่น่าจะใช่การแก้โจทย์ เพราะส่วนของผู้ถือหุ้น NEWS ยังมาก 2.9 พันล้านบาท มีหนี้ต่ำแค่ 1.25 พันล้านบาท เท่านั้น
นอกจากนั้น นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ซีอีโอ ของ NEWS ก็เคยให้สัมภาษณ์ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ด้วยตัวเองว่า NEWS‘ มีเงินสดเหลือ (หลังจากนำเงินสดส่วนหนึ่งซื้อหุ้น NMG) เป็นทุนดำเนินการ 6-700 ล้านบาท และการลงทุนในทีนิวส์ ก็ “เป็นการลงทุนที่น่าพอใจ”
จึงเหลือแค่คำตอบเดียวคือ ปลดพนักงานเพื่อเปิดทางให้ ทีนิวส์ กลายเป็น “จิตวิญญาณใหม่” ของสปริงนิวส์ในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างแปลก
หลายเดือนก่อน สปริงนิวส์เข้าเทกโอเวอร์ ทีนิวส์ ที่มีปัญหาการเงินเข้ามาอยู่ใต้ร่ม และรับทีมงานทั้งหมดของทีนิวส์เข้ามาทำงานในสปริงนิวส์ แต่ปรากฏว่า เกิดปัญหาเชิงโครงสร้าง เพราะมีกลุ่มพนักงานจาก 3 วัฒนธรรมองค์กรอยู่ในที่เดียวกัน คือ 1) กลุ่มรุ่นก่อตั้ง ที่เคยนำทีมโดย ฉัตรชัย ตะวันธรงค์ 2) กลุ่มอดีตพนักงาน อสมท.ที่พ่วงมากับ พัชระ สารพิมพา 3) กลุ่มพนักงานทีนิวส์
การจัดองค์กรใหม่ ให้รู้ว่า “ใครเป็นใคร” ในรูปของการปลดพนักงาน 2 ระลอก ระลอกแรก 48 คน และกำลังจะตามมาอีก 60 คน รวมแล้วประมาณ 108 คน
คนที่ถูกปลดทั้งหมด ไม่มีรายชื่อของคนที่มาจากทีมงานจากทีนิวส์แต่อย่างใด
การที่บริษัทหนึ่งจ่ายเงินซื้อกิจการเข้ามาในร่มธง คนจากบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อต้องปรับตนให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทแม่ แต่รายการนี้ กลับตรงกันข้าม แหกทฤษฎีย่อยยับ เพราะวิญญาณของทีนิวส์ เข้าสิงในร่างของสปริงนิวส์ ตามเกม reversed takeover โดยไม่ต้องจ่ายเงิน…สบายไปแปดตลบ
งานนี้ สุทธิชัย หยุ่น และพวกในค่าย NMG น่าจะหัวร่อร่า เมื่อถูกซื้อกิจการโดย NEWS มากกว่าออกแรงต่อต้าน