เทวดาตกสวรรค์ที่เชลซี
ชื่อของโรมัน อับราโมวิชนักธุรกิจ-การเมืองอายุ 55 ปีจากรัสเซีย ซึ่งแฟนฟุตบอลอังกฤษชาวไทยเรียกว่าเป็น “เสี่ยหมี” เป็นข่าวใหญ่พาดหัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เป็น 1 ใน 7 มหาเศรษฐีรัสเซียที่มีชื่อพัวพันกับรัฐบาลรัสเซีย และเป็นหนึ่งใน 400 รายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่ต้องถูกอายัดทรัพย์จากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งมีชื่อรวมอยู่ในบริษัทและบุคคลระดับนำของรัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษในทางด้านเศรษฐกิจต่อการรุกรานยูเครน
ชื่อของโรมัน อับราโมวิช นักธุรกิจ-การเมืองอายุ 55 ปีจากรัสเซีย ซึ่งแฟนฟุตบอลอังกฤษชาวไทยเรียกว่าเป็น “เสี่ยหมี” เป็นข่าวใหญ่พาดหัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เป็น 1 ใน 7 มหาเศรษฐีรัสเซียที่มีชื่อพัวพันกับรัฐบาลรัสเซีย และเป็นหนึ่งใน 400 รายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่ต้องถูกอายัดทรัพย์จากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งมีชื่อรวมอยู่ในบริษัทและบุคคลระดับนำของรัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษในทางด้านเศรษฐกิจต่อการรุกรานยูเครน
คำสั่งของทางการอังกฤษที่ให้อายัดทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท การลงทุนของเสี่ยหมี ชื่อว่า Millhouse LLC และในฐานะเจ้าของเชลซีสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทำให้รายได้จาก 5 แหล่งหลักของสโมสรฟุตบอลคือ รายได้จากการขายตั๋วเข้าชมรายได้จากสปอนเซอร์ทางการค้ารายปี รายได้จากการขายของที่ระลึกของทีม รายได้จากการซื้อขายนักเตะ และรายได้จากค่าถ่ายทอดสดการแข่งขัน เหือดหายไปในทันที
เทียบกับรายจ่ายทั้งหลายที่เกิดขึ้นในระหว่างการฝึกซ้อม การปรับปรุงสนาม และอื่น ๆ ที่จะเพิ่มขึ้นสวนทางกัน
การอายัดเงินและทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.30 หมื่นล้านดอลลาร์ อาจจะไม่ได้ทำให้อาณาจักรของเศรษฐีรัสเซียคนนี้ล่มจมทันทีทันใด เพราะอย่าลืมว่า ภายใต้การคุ้มครองของรัสเซีย อิสราเอล และโปรตุเกสที่เขามีสัญชาติอยู่นั้น น่าจะเหลือทรัพย์สมบัติที่ซุกซ่อนเอาไว้อีกมากมายภายใต้กฎหมายของแต่ละประเทศ
การสร้างเนื้อสร้างตัวของเสี่ยหมีในอดีตเพียงชั่วอายุคนคนเดียว เกิดขึ้นในฐานะตำนานจากการฉกฉวยโอกาสที่ดีเยี่ยมในระหว่างเปลี่ยนผ่านจากอำนาจรัฐแบบโซเวียตเข้าสู่ช่วง “ทุนนิยมป่าเถื่อน” ด้วยเงินสนับสนุนจากทุนยิวตะวันตกเข้าไปแย่งซื้อสินทรัพย์ทางด้านน้ำมันจากรัฐวิสาหกิจรัสเซียในราคาต่ำกว่าปกติมาก แล้วกลายเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุแค่ 30 เศษ ก่อนที่เขาจะหอบทรัพย์สินไปอยู่ในอังกฤษ แล้วใช้เงินสร้างทีมเชลซีที่เป็นทีมชนชั้นผู้ดีเก่าอังกฤษจนกลายเป็นทีมแถวหน้าของพรีเมียร์ลีก และยุโรปในเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น
ความสำเร็จของอับราโมวิช ในการเสริมความมั่นคงแก่อาณาจักรของเขาในโลกหลังการล่มสลายของรัฐโซเวียต อยู่ที่สายสัมพันธ์อันเข้มแข็งกับผู้นำรัสเซียในฐานะ “ผู้ดูแลทรัพย์สินลับ” ของผู้นำรัสเซียนับตั้งแต่ยุคของบอริส เยลต์ซิน จนถึงล่าสุด วลาดิเมียร์ ปูติน
เรื่องนี้กลายเป็นเป้าเรดาร์ชั้นเยี่ยม ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดี โดยเจ้าตัวเตรียมการขายทิ้งสโมสรฟุตบอลเชลซีอยู่แล้วเพื่อหลบหนี แต่รัฐบาลอังกฤษไวกว่าออกกฎหมายครอบคลุมเสียก่อน
การที่ตกเป็นเหยื่อของเป็นหนึ่งในเจ็ดของอภิมหาเศรษฐีรัสเซียที่ถูกอายัดทรัพย์ครั้งนี้ คงจะเป็นบทเรียนของเศรษฐียิวจากรัสเซียรายนี้ ให้ต้องติดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วเขาจะฝ่าวิกฤตนี้ไปอย่างไร……เพราะนี่มิใช่ครั้งแรกที่มหาเศรษฐีเหล่านี้เคยถูกอายัดและเล่นงาน เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับบรรดา “เจ้าที่เก่า” ในอเมริกา ยุโรปและเอเชียย่ำแย่ลง
หากมองย้อนกลับไป หลายคนอาจจะมีมุมมองว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ “ปลาตัวโต” ย่อมตกเป็นเป้าสายล่อฟ้าอยู่ดี แต่หากสถานการณ์ลุกลามบานปลายออกไป โอกาสที่ปลาตัวโตเหล่านี้ จะตกเป็นเหยื่อก็มีสูงมาก
การตกเป็นหนึ่งในรายชื่อของบุคคลและหรือนิติบุคคลที่ถูกลงโทษไม่ใช่เรื่องน่าสนุกแต่น่าสนใจเสมือนนิยายเรื่องหนึ่งและที่สำคัญทำให้ตำนานของเสี่ยหมีที่อาละวาดมานานกว่า 20 ปี ในสโมสรฟุตบอลอังกฤษกลายเป็น “อดีตที่ผ่านเลย” ไปได้ง่าย ๆ จากการเมืองระหว่างประเทศที่ไร้กติกาใด ๆ
การเป็นเทวดาตกสวรรค์ของเสี่ยหมี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด หากมองจากมุมของประวัติศาสตร์