HFT ปี 65 ยังโตได้ต่อ

ภาพรวม HFT ปี 64 ถือว่าทำได้ดี มีกำไรสุทธิ 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.70% เมื่อเทียบกับปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 412 ล้านบาท


คุณค่าบริษัท

แม้งบในไตรมาส 3/2564 ของบริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ HFT ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์และรถจักรยาน สะดุดไปเล็กน้อย รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบ ราคายางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ค่าระวางตู้สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น ทว่าภาพรวมในปี 2564 ถือว่าทำได้ดี มีกำไรสุทธิ 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.70% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 412 ล้านบาท

สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 28.59% อยู่ที่ 3,426 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้จากการขาย 2,664 ล้านบาท เกิดจากความต้องการของตลาดที่สูงขึ้น แม้อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงจาก 23.31% ในปี 2563 มาอยู่ที่ 19.93% ในปี 2564 สาเหตุมาจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น

สำหรับปี 2565 ผู้บริหารมั่นใจจะเติบโตต่อเนื่อง หลังจากมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ขยายกำลังผลิตเพิ่ม และการขยายฐานลูกค้า รวมทั้งมีคำสั่งซื้อ (Order) จากฐานลูกค้าเก่ายังสูงต่อเนื่องยาวจนถึงสิ้นปีแล้ว ทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และไทย

โดยยอดขายในช่วง 2 เดือนแรก ยังเติบโตดีต่อเนื่อง คาดจะหนุนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 ให้เติบโตได้ต่อเนื่อง

ส่วนการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันมีการควบคุมต้นทุน โดยกักตุนวัตถุดิบคงคลัง (สต๊อก) ไว้ล่วงหน้ารองรับยาวไปถึงกลางปี 2565 แล้ว และยังมีการปรับราคาขายตามรอบปกติทุก 6 เดือนด้วย ซึ่งจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอีก

นอกจากนี้ ในเดือน มี.ค. 2565 เตรียมปรับราคาขายใหม่ในตลาดภูมิภาคอาเซียน ส่วนตลาดในไทย เตรียมปรับราคาขายใหม่ในไตรมาส 2/2565 ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งกับทางลูกค้าไปแล้ว ดังนั้น ภาพรวมจะปรับราคาขายยางรถจักรยานขึ้นในไตรมาส 3/2565 ประมาณ 2% เทียบรอบก่อนที่ปรับราคาขึ้น 7%

ขณะเดียวกันจะมีการลงทุนจัดซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อทดแทนเครื่องจักรเดิม ซึ่งจะได้รับมอบกลางปี 2565 โดยจะหนุนกำลังการผลิตเพิ่ม 20-30% ตามความสามารถในการผลิตเส้นยางที่มากขึ้น ซึ่งจะมีการเพิ่มการผลิตพรีเมี่ยมโปรดักส์ใหม่ ด้วยราคา และมาร์จิ้นที่สูงกว่าเดิม รวมทั้งลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้า 12 ล้านบาทต่อปี

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น HFT ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 11.71  เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19-20  เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาดมาก แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจาก P/BV ที่ระดับ  1.53 เท่า ก็สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1–2 เท่า

รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่

  1. HWA FONG RUBBER INDUSTRY CO., LTD. 332,000,000 หุ้น 50.42%
  2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 30,894,400 หุ้น 4.69%
  3. นายอนันต์ ระวีแสงสูรย์ 22,720,000 หุ้น 3.45%
  4. MRS.HSIN-MEI YEN HSIEH 15,018,000 หุ้น 2.28%
  5. นายระวิ เกษมศานติ์ 11,750,000 หุ้น 1.78%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายกั๋ว หรง เซิ่น ประธานกรรมการ, กรรมการผู้จัดการ
  2. นายเยน หมิง ซัน รองประธานกรรมการ
  3. นายเยน เย่า หนัน กรรมการ
  4. นายจื้อ-เจ๋อ เยน กรรมการ
  5. นายจวง จื้อ เหยา กรรมการ
  6. นายซื่อ เจี้ยน ชิว กรรมการ
  7. น.ส.ผิ่น อี๋ อู๋ กรรมการ
  8. นายหลิว ซิง ฮง กรรมการ
  9. นางเฉี่ยน เวน กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  10. นายเซียว จิ่น หลง กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ
  11. นายมนต์สยาม สินวรพันธุ์ กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ
  12. นายเจิ้น ยง หลิน กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ

Back to top button