SPALI ขึ้นแท่นแชมป์จ้าวตลาดอสังหาริมทรัพย์

ผลงานของ บจ.ชั้นนำ 14 แห่งในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่แจ้งออกมา มีทั้งกลุ่มที่สร้าง “เซอร์ไพรส์” และกลุ่มที่ “เป็นไปตามคาดการณ์”


เส้นทางนักลงทุน

ภายหลังสิ้นสุดเทศกาลแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 4 และงวดประจำปี 2564 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นไทยแล้วพบว่า ผลงานของ บจ.ชั้นนำ 14 แห่งในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่แจ้งออกมา มีทั้งกลุ่มที่สร้าง “เซอร์ไพรส์” และกลุ่มที่ “เป็นไปตามคาดการณ์”

โดยในกลุ่มที่สร้างเซอร์ไพรส์ นอกจากจะเติบโตแรงทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิแล้ว ยังมีการ “ล้มแชมป์จ้าวตลาด” อสังหาริมทรัพย์กันอีกด้วยก็คือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ที่กำไรสุทธิเติบโต 66.31% สู่ระดับ 7,139   ล้านบาท ส่วนรายได้เติบโต 41.38% มาที่ 29,647.48  ล้านบาท

หากวัดกันในแง่ของกำไรสุทธิแล้ว การเติบโตอย่างรุนแรงของกำไรสุทธิของ SPALI ถือเป็นการล้มแชมป์จ้าวตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ  LH เคยครองแชมป์อยู่ โดยในปี 2564 นี้ กำไร LH ลดลง 2.92% มาที่ 6,936.13   ล้านบาท แม้จะมีรายได้เติบโต 6.67%  หรือราว 33,031.13  ล้านบาท ก็ตาม

ขณะเดียวกันนอกจาก SPALI แล้ว การเติบโตของกำไรสุทธิของ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ระดับ 7.48 % มาสู่ 4,543.06 ล้านบาท ส่วนรายได้เติบโต 6.74% มาสู่ 31,9810.04  ล้านบาท  ก็น่าติดตาม

เช่นเดียวกับ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ที่กำไรสุทธิเติบโตขึ้น 8.65% เป็น 2,051  ล้านบาท และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กำไรสุทธิเติบโตขึ้น 21% เป็น 2,017.27 ล้านบาท นับเป็นการเติบโตในระดับที่สูงทีเดียว

หากพุ่งเป้าไปที่ SPALI ซึ่งถือเป็นแชมป์กำไรสูงสุดของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยรายใหม่แล้วจะพบว่า SPALI พยายามกระจายรายได้ออกไปใน 3 ขา คือ 1. กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 2. ต่างจังหวัด และ 3. ต่างประเทศ

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ได้มีโอกาสเปิดใจ “นายประทีป ตั้งมติธรรม” บอสใหญ่ ของ SPALI ถึงการขึ้นมาผงาดเป็นจ้าวตลาดทำกำไรได้สูงสุดของวงการอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 32 ปี ว่าเป็นผลจากความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันสมัย ตอบสนองได้ตรงเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการ ขณะที่การกระจายรายได้ 3 ขาและการบริหารจัดการต้นทุนยังช่วยให้ SPALI มีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านรายได้และกำไรสุทธิมากขึ้น

SPALI มีการลงทุนในต่างประเทศมาแล้ว 9 ปี ให้น้ำหนักลงทุนที่ประเทศออสเตรเลีย ทำให้ในปัจจุบันมีโครงการอยู่ในประเทศนี้แล้ว 11 โครงการ โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา มียอดขายจากประเทศนี้มากกว่า 7 พันล้านบาท และล่าสุดบิ๊กบอส SPALI เพิ่งเดินทางกลับจากการไปเจรจาลงทุนโครงการที่ 12 ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่เมื่อไม่นานมานี้

“ประทีป” ตั้งเป้าหมายให้ SPALI เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีการลงทุนในต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของไทย ซึ่งประเด็นนี้มีสาเหตุมาจากประเมินว่า ภาพรวมการเมืองไทยมีเสถียรภาพต่ำ ประกอบเข้ากับปัญหายอด Reject หรือยอดการปฏิเสธสินเชื่อ อยู่ในระดับสูง 60-70% และปัจจุบันไทยหาซื้อที่ดินยาก เพราะมีราคาแพงแล้ว การทำธุรกิจในออสเตรเลียยังง่ายกว่า เนื่องจากขายได้ง่ายและขายดีกว่า สามารถปรับราคาขึ้นได้ราว 16 % ต่อปี ลูกค้ากู้ผ่านง่าย และยังหาซื้อที่ดินได้ในราคาไม่แพง

ภายหลังก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์กำไรสูงสุดประจำปี 2564 ในครั้งนี้ “ประทีป” เล่าว่า ได้ให้นโยบายกับทีมงานจะต้องมุ่งพัฒนาบ้านและบริการให้ดียิ่งขึ้น ให้สมกับชื่อ “ศุภาลัย” ซึ่งตัวเองตั้งนิยามในฐานะผู้ก่อตั้งว่า “บ้านที่ดีที่สุด”

พร้อมตบท้ายด้วยบทสรุปที่ว่า “เราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อรักษาแชมป์ไว้ เท่าที่จะทำได้  เพื่อประโยชน์ของลูกค้า, พนักงาน และผู้ถือหุ้นของบริษัททุกราย” ซึ่งบทสรุปส่งท้ายนี้คงต้อง “ลุ้น” กันต่อไปว่าในปี 2565 นี้ SPALI จะสามารถรักษาแชมป์การเป็นจ้าวตลาดอสังหาริมทรัพย์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่

Back to top button