หุ้นแถวสองแถวสาม
วอลุ่มหายไปค่อนข้างมากสำหรับตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ เทรดกันเพียง 57,231 ล้านบาท หรือน่าจะต่ำสุดในรอบ 16-17 เดือน
วอลุ่มหายไปค่อนข้างมากสำหรับตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้
เทรดกันเพียง 57,231 ล้านบาท
หรือน่าจะต่ำสุดในรอบ 16-17 เดือน
ก่อนหน้านี้ หรือวันที่ 24 และ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เทรดกันค่อนข้างน้อยเช่นกัน คือ 66,566 ล้านบาท และ 62,111 ล้านบาท
หุ้นขนาดใหญ่ที่เคยเก็งกำไรกันคึกคัก เช่น กลุ่มธนาคาร KBANK BBL
ล่าสุด ราคาเริ่มย่ออยู่กับที่
ราคาแม้ว่าจะไม่ปรับลง แต่ก็ไม่วิ่งขึ้น
สถานการณ์แบบนี้ดูแล้วอึดอัด
ส่วนกลุ่มน้ำหนัก เช่น PTTEP PTT ที่เคยวิ่งโดดเด่น รับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่ง
ทว่าล่าสุด สถานการณ์รัสเซีย ยูเครน เหมือนจะเริ่มดีขึ้น
ทำให้ราคาน้ำมินดิบราคาปรับลงแรงทันที
มีคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ว่า ในช่วงนี้ให้ลดการเก็งกำไรแบบ “ข้ามวัน” สำหรับกลุ่มน้ำมัน
หรือสรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ “อย่าห่อกลับบ้าน” นั่นแหละ
เพราะราคาช่วงกลางคืน (ตามเวลาประเทศไทย) อาจจะปรับฐาน หรือปรับลงแรง
เมื่อหุ้นขนาดใหญ่มีการเข้ามาเก็งกำไรกันลดลง
น่าจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้มูลค่าการซื้อขายดูเบาบางลงไป
ในทางกลับกัน จะสังเกตว่า หุ้นที่ถูกเรียกว่า “แถวสองแถวสาม” หรือหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง
อย่างวานนี้มีหุ้นประเภทนี้ มีวอลุ่มเข้ามามากเป็นพิเศษ
เช่น TH ARIN TRT THANA
ปกติหุ้นที่ว่ามานี้ สภาพคล่อง หรือวอลุ่มในการเทรดค่อนข้างต่ำ
แต่เมื่อมีการไปดึงขึ้นมาเล่นกัน
สิ่งที่ต้องระวังคือ หุ้นเหล่านี้ เล่นแบบเก็งกำไรระยะสั้นได้เท่านั้น
แต่ยังมีหุ้นแถวสองแถวสาม ที่มีสภาพคล่องและพื้นฐานเป็นที่ประจักษ์อีกหลายตัว ที่น่าจะมีการเข้ามาเก็งกำไรกันมากขึ้น แทนหุ้นใหญ่ที่กำลังซบเซา
เช่น BCH ที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2565 น่าจะมีเซอร์ไพรส์เชิงบวก
หรือหุ้นในกลุ่มประกัน คือ BLA THREL TIP ที่โดดเด่นเป็นช่วง ๆ
จากปัจจัยบวกเฉพาะตัวคือ บอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ พุ่งแรง ทำให้หุ้นกลุ่มประกันที่มีสัดส่วนการลงทุนในตลาดตราสารหนี้สูงมาก น่าจะมีกำไรจากส่วนนี้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565 และปีถัด ๆ ไป
หุ้นกลุ่มเจมาร์ทที่นำโดย JMART และบริษัทลูก JMT SINGER
ทั้งหมดราคาเริ่มกลับมาอีกครั้ง
เมื่อวานนี้ บวกแรงทั้ง 3 หุ้น และมูลค่าการซื้อขายกลับมาคึกคัก
กลุ่มปิโตรเคมี PTTGC แนวรับบริเวณ 50 บาท รับอยู่ IRPC แนวรับ 3.50 รับอยู่เช่นกัน ที่ผ่านมาพอราคาไม่หลุดจากแนวรับ และมีการสร้างฐานบริเวณดังกล่าว
ประกอบกับราคาหุ้นที่ร่วงลงมาตอบรับกับปัจจัยลบไปพอสมควร
ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณของการดีดกลับ
และมูลค่าการซื้อขายกลับมาด้วยเช่นกัน
ช่วงที่หุ้นใหญ่ ๆ หรือบิ๊กแคปดูหงอย ๆ
เรามักจะเห็นหุ้นแถวสองแถวสาม มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
กลับมาคึกคัก