มีลุ้นเล็ก ๆ
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไม่มีอะไรดีแบบแจ่มแจ้งก็จริง แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นแรงซื้อยังมีเข้ามาเป็นระลอก
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไม่มีอะไรดีแบบแจ่มแจ้งก็จริง แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นแรงซื้อยังมีเข้ามาเป็นระลอก ซึ่งทำให้เดี๊ยนมีความหวังที่จะได้เห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,700 จุดอีกครั้ง และเป็นหนังม้วนเดิมที่ฉายซ้ำมาหลายรอบในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จึงไม่ขอลงรายละเอียดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพราะสุดท้ายตลาดหุ้นก็โดนเรื่องสงครามเล่นงานอีกเหมือนเดิม แถมยังเจอเรื่องเงินเฟ้อตามหลอกหลอนอีกดอกไงล่ะคะ
*ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้นักเล่นลงทุนแบบแทงกั๊กตลอดเวลา เพราะเห็นกันคร่าว ๆ ว่า งบไตรมาส 1 อาจไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่คิด ผนวกกับการทะยานขึ้นของดัชนีมาปิดที่ระดับ 1,684.30 จุด บวกไป 7.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.72 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเรื่องเดิม ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงต้นสัปดาห์ และไม่สามารถคาดหวังดัชนีจะยืนตระหง่านตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะองค์ประกอบหลายอย่างยังไม่เอื้อให้สุดซอยน่ะซี
*ผลดังกล่าวทำให้โมเมนตัมของการลงทุนแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ในแต่ละวัน โดยหุ้นใหญ่ก็ผลัดกันขึ้นมาโชว์แสง ส่วนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กก็เข้าสู่โหมดเวียนเทียนเป็นรอบ ๆ “โมนิก้า” ถึงเดาเกมระยะสั้นได้เพียงเท่านี้ เพราะมองภาพระยะยาวของหุ้นไม่ออกจริง ๆ ประสานกับการขึ้นลงของดัชนียังผูกติดกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จึงหวังได้แค่ว่า นี่เป็นเรื่องของ “วินโดว์เดรสซิ่ง” เจ้าค่ะ
*ประเด็นข้างต้นเชื่อมโยงโดยตรงกับน้องท็อป TOP หลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 54.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.86 พันล้านบาท เดี๊ยนคงมองเป็นเรื่องราคาหุ้นยังไม่ตอบรับกับปัจจัยพื้นฐาน และจังหวะนี้ก็เหมาะที่จะไล่ราคาแบบหอมปากหอมคอ จึงมีลุ้นที่จะได้เห็นหุ้นขึ้นไปทดสอบแถว 58 บาทอีกครั้ง เพราะราคาที่เห็น ณ เวลานี้เป็นการเทรดบน PE 9 เท่าเองนะจ๊ะ
*คล้ายกับการไล่ราคาหุ้นประกันชีวิตอย่าง BLA ก็มีสตอรี่เกี่ยวกับการเติบโตเป็นแบ็คอัพ วานนี้จึงมีแรงซื้อเข้ามามากเหลือเกิน และเป็นเหตุให้หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 45.75 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 7.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 546 ล้านบาท พร้อมกับมีลุ้นเห็นหุ้นขึ้นมาทดสอบแถว 48 บาทเป็นครั้งที่ 2 แบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องตามไปดูสำหรับคนที่มั่นใจอนาคตของหุ้นตัวนี้นะจะบอกให้
*เรื่องข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมองหุ้นบริหารหนี้อย่าง TH ขึ้นมาทันที! เพราะการขึ้นมาเที่ยวนี้เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ ในสายตาของเดี๊ยน จึงอยากให้แฟนคลับลองพิจารณาดูว่า การซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันเข้ามา 2 ก้อนมูลค่ากว่า 4 พันล้าน มันทำให้บริษัทบันทึกกำไรปีนี้เข้ามาได้ทันที 3 ร้อยล้านจริงเหรอ! และการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 4.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 11.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.74 พันล้านบาท มันโอเว่อร์แอคติ้งหรือเปล่า?..ไว้เดี๊ยนจะเฉลยวันหน้านะคะ
*ในเมื่อชอบความเสี่ยงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงเหลือบมองไปที่หุ้นร้อนของวงการอย่าง ARIN อย่างไม่ลังเลใจ เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.30 บาท บวกไป 0.66 บาท หรือขึ้นไป 25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 789 ล้านบาท มันเป็นการเล่นบนผลขาดทุนเรื้อรัง และบริษัทยังต้องกู้เงินผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อประคับประคองธุรกิจ เดี๊ยนเลยไม่เข้าใจสมมติฐานที่ทำให้หุ้นมาแรงแบบกลวง ๆ น่ะซี
*กระแสเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอยทำให้หุ้น THANA กลับมาโลดแล่นบนสังเวียนแห่งนี้อีกครั้ง แต่โชคดีที่หุ้นตัวนี้มีกำไรเป็นแบ็คอัพให้ตลอด จึงไม่แปลกใจที่เจ้ามือดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 24.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 599 ล้านบาท เพราะเที่ยวนี้มโนกันไปถึงขั้นกำไรโตเท่าตัว จึงต้องตามดูด้วยตัวเองว่า ทำได้จริงเหมือนที่ร่ำลืออะป่าว? แต่ที่รู้แน่ ๆ คือ ตอนนี้หุ้นเทรดบน PE 32 เท่าแล้วนะคุณพี่
*ในเมื่อต้องลุ้นกันสุดตัว TNDT ย่อมเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบเสี่ยง เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.31 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 8.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 196 ล้านบาท มันคือการเล่นบนสตอรี่เทิร์นอะราวด์แบบเพียว ๆ ผนวกกับช่วงปลายปีก่อนก็ดันหุ้นขึ้นไปถึง 2 บาท แต่สุดท้ายผลงานก็ไม่มาตามนัด จึงเกิดการช็อกกลางอากาศ และร่วงลงมากองอยู่แถว 1 บาท น้องโมจึงได้แต่หวังว่า คงไม่เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนะคะ